จากคราวที่แล้วที่เราแนะนำที่ เที่ยวกรุงเทพ ไป 3 สถานที่คือ พิพิธภัณฑ์ Jim Thompson หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร และถนนตะนาว ซึ่งจุดเริ่มต้นถือว่าเริ่มจากใจกลางกรุงเทพคือย่านปทุมวันแต่ครั้งนี้จะพามาเริ่มต้นจากสนามหลวง เชื่อว่าทุกคนรู้จักสนามหลวงกันดีแต่ไม่ค่อยได้เดินทางมาเพราะไม่รู้ว่าจะมาเที่ยวที่ไหนนอกจากไหว้พระแก้ว ไหว้ศาลหลักเมือง หรือเดินต่อไปยังวัดโพธิ์ แต่ย่านนี้ยังมีที่ให้เดินเล่นอีกหลายแห่งอยากรู้ก็ตามมากันได้เลย
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป์เจ้าฟ้า
อย่าเพิ่งบ่นว่าพามาหอศิลป์อีกแล้ว แต่อยากถามว่าอยู่กรุงเทพกันเคยรู้จักที่นี่บ้างไหม เคยมาเที่ยวกันไหม หากยังไม่เคยก็ควรไปสักครั้ง เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-อาทิตย์ ปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์ (วันหยุดพิเศษต่างๆ) เปิดตั้งแต่เวลา 8.30-16.30 น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงแต่รับรองว่คนไทยค่าเข้าไม่แพง) ที่นี่มีความน่าสนใจอย่างไร อย่างแรกคือตัวอาคารสถานที่ ที่เป็นสถาปัตยกรรมสมัยเก่า สวยงามทั้งภายในและภายนอก และมีงานนิทรรศการศิลปะต่างๆที่น่าสนใจหมุนเวียนตลอดทั้งปี
บรรยากาศความร่มรื่นของสถานที่เหมือนทำให้เราย้อนยุคกลับไปสมัยสัก 50-60 ปีที่แล้ว งานศิลป์ที่นำมาจัดแสดงมีเกือบทุกประเภท ทั้งจิตรกรรม ประติมากรรม และมีผลงานของศิลปินดังๆระดับบรมครูของบ้านเราจัดแสดงในบางช่วงด้วย หากใครยังไม่เคยไปเที่ยวขอแนะนำว่าอย่าพลาด กับที่นี่อยู่กับความศิวิไลซ์ความวุ่นวายกันมาเยอะแล้วลองย้อนมาสัมผัสกับความสงบและบรรยากาศเก่าๆดูบ้างรับรองว่าจะทำให้ลืมความวุ่นวายได้ชั่วขณะเลยทีเดียว ออกจากหอศิลป์เจ้าฟ้า ก็แค่ข้ามฝั่งเดินลัดเลาะมาที่
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
ที่นี่เสมือนที่เก็บสมบัติโบราณของชาติเราเลยทีเดียว ทั้งตัวอาคารที่เป็นวังเก่า คือตั้งอยู่ในบริเวณพระราชวังบวรสถานมงคล หรือส่วนหนึ่งของที่ประทับวังหน้า (พื้นที่พระราชวังของสมเด็จพระบวรราชเจ้าตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ซึ่งที่นี่ เปิดให้เข้าชมทุกวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น. ค่าเข้าชม 10 บาท(ค่าเข้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง) ภายในจะมีโบราณวัตถุล้ำค่าต่างๆมากมายให้เราได้ชม โดยมีการจัดแสดงตามห้องต่างๆ และทัศนียภาพภายใน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร นั้นบอกเลยว่าสวยงามมากจริงๆ ทั้งตัวอาคารที่เป็นวังเก่าที่มีการบูรณะให้คงสภาพเดิม การจัดแต่งรอบๆบริเวณ และส่วนของห้องแสดงนิทรรศการ ของโบราณต่างๆ บอกเลยว่าเป็นคนไทยหากไม่เคยมาเที่ยวที่นี่ถือว่าพลาดอย่างแรงจริงๆ มาที่นี่เหมือนกับได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ไปในตัวบอกเลยว่าเดินเพลินๆจนหิวโดยไม่รู้ตัว
หลังจากออกจากที่นี่ก็เดินลัดเลาะไปเรื่อยๆจนผ่านหน้ามหาวิทยาลัยศิลปากร เดินเลี้ยวไปยัง ท่าราชวรดิษฐ์ ท่าเตียน ท่าพระจันทร์ ย่านนี้มีของกินอร่อยๆ ให้เลือกมากมาย หรือจะข้ามเรือไปยังวังหลังแหล่งช้อปสินค้าแฟชั่นมือหนึ่ง มือสองและมีร้านอาหารและขนมๆอร่อยขึ้นชื่อหลายร้าน หรือหากไม่อยากข้ามฝั่งก็หาอะไรทานรองท้อง แวะไหว้พระแก้วมรกต และ ไหว้พระที่ศาลหลักเมือง แล้วนั่งรถตุ๊กๆ ต่อไปยังปากคลองตลาด หรือจะเดินก็ได้โดยใช้เส้นทางเดินลัดเลาะมาทางฝั่งตรงข้ามวัดโพธิ์ ผ่านสวนสราญรมย์ แล้วเลี้ยวซ้ายตรงแยกกรมทหาร เดินผ่านสวนเจ้าเชตุ เดินมาเรื่อยๆเเลี้ยวขวาตรงแยกบ้านหม้อ ก็เดินเรียบคลองตรงมาเรื่อยๆ เพื่อไปแยกปากคลองตลาด แวะเดินชมดอกไม้สวยๆ ราคาไม่แพงทั้งดอกไม้ไทยดอกไม้ต่างประเทศ ไม่แน่อาจจะไม่ดอกไม้สวยๆติดไม้ติดมือมาสักช่อสองช่อ และย่านนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีอะไรให้ดู หากเดินไปจนสุดเส้นทางดอกไม้ก็จะพบกับโรงเรียนสวนกุหลาบที่ต้องเลี้ยวไปทางซ้ายไปชมตึกเรียนที่มีอายุกว่าร้อยปี แต่คงได้แค่ถ่ายรูปด้านนอกนะเพราะยามคงไม่ให้เข้า เลยไปอีกนิดก็วิทยาลัยเพาะช่าง ฝั่งตรงข้ามก็มีร้านอาหารอร่อยๆและมีร้านขายอุปกรณ์งานศิลป์งานฝีมือมีอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะและครบถ้วนราคาไม่แพง เลยไปอีกนิดก็จะเป็นดิโอลด์สยามพลาซ่า
แต่หากย้อนกลับทางเดิมก็ยังไม่แหล่งนั่งพักชิลๆ ริมน้ำโดยเดินย้อนกลับมาทางแยกปากคลองตลาด และให้เดินตรงเข้าไปที่ท่าน้ำปากคลองตลาด ซึ่งตรอกเล็กๆนี้จะมีร้านอาหารตามสั่งในตำนานขื่อร้าน เสียวหลัง ร้านนี้ดังนะจะบอกให้ ถามคนแถวนั้นดูได้หากกลัวหลง จากร้านเสียวหลังเดินไปอีกนิดก็จะถึงตลาดยอดพิมาน ซึ่งที่นี่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน มีร้านค้าพอสมควร ทั้งอาหาร และ ขนมต่างๆ บรรยากาศแนววินเทจเล็กๆ ดูคลาสิคเหมาะกับย่านเก่า และตั้งอยู่ริมน้ำ นั่งมองวิวเพลินๆ เหมาะกับการถ่ายรูปจริงๆ ยิ่งเป็นช่วงเย็นบรรยากาศยามเย็นเพลินได้ใจจริงๆ ซึ่งที่นี่น่าจะเริ่มมีคนไปเที่ยวกันเยอะในวันหยุดเพราะมีรีวิวแนะนำที่นี่เป็นที่เที่ยวอันซีนกันบ้างแล้ว
เป็นอย่างไรกันบ้างกับการ เที่ยวกรุงเทพ กับสถานที่ที่ถือว่าไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมแต่น่าสนใจและควรไปสักครั้ง แม้ว่าแต่ละสถานที่ที่แนะนำมาอาจจะไม่ถูกใจหลายๆคนที่นิยมความศิวิไลซ์ ความทันสมัย แต่บางครั้งการท่องเที่ยวแบบที่ไม่ต้องมีอะไรหรูหรา ไม่มีความทันสมัยอาจจะทำให้เกิดความประทับใจและได้พบกับประสบการณ์แปลกใหม่ และอยากแนะนำให้เดินทางโดยรถสาธารณะจะสะดวกกว่าการขับรถยนต์ไปเอง เพราะบางเส้นทางนั้นวันเวย์ หากไม่ชินทางจะหลงและหมดสนุกเอาง่ายๆ อีกทั้งเป็นการประหยัดค่าน้ำมันด้วย ยิ่งไปกันหลายๆคนแชร์ค่ารถตุ๊กๆนั่งเที่ยวจากสถานที่ต่างๆก็สนุกและไม่เปลืองด้วย