สาเหตุที่ทำให้คนไทยหลายคน เป็นหนี้สิน

เป็นเรื่องที่ถือว่าแปลกมากทีเดียวในสังคมยุคนี้ที่มีการแบ่งฐานะจากสิ่งของที่ใช้ เพื่อให้ได้รับการยอมรับ ไม่ว่าจะเป็นการมีบ้าน มีรถ โทรศัพท์มือถือราคาแพง หรือแม้กระทั่งข้าวของเครื่องใช้ หากใครที่ใช้ของแพง จะเป็นการบ่งบอกถึงฐานะทางเศรษฐกิจของตัวเอง และกลุ่มที่มองว่ามีการใช้ชีวิตที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มนักศึกษาและกลุ่มคนวัยทำงานที่ เป็นหนี้สิน ทั้งที่เพิ่งเริ่มทำงานกันใหม่ ๆ ซึ่งวันนี้เราจะหยิบยกมาให้ดูกันว่าสิ่งของที่คนเหล่านี้มักจะสูญเงินให้นั้นคืออะไร

• มือถือ

เป็นหนึ่งในสิ่งฟุ่มเฟือยที่หลายคนย้อมทุ่มเงินให้ โดยเฉพาะนักศึกษาที่ ไม่ว่ามือถือรุ่นไหนออกใหม่ ก็จะมีไว้ครอบครอง สำหรับครอบครัวที่ร่ำรวยถือว่าสามารถซื้อได้ แต่ก็มีบางครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะดีมาก ทำให้นักศึกษาหลายคนยอมลงทุนทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเพื่อแลกเงินมาซื้อโทรศัพท์มือถือราคาแพง หากถามว่าเป็นเพราะอะไร คำตอบง่าย ๆ คือการใช้มือถือราคาแพงเป็นการบ่งบอกฐานะและความทันสมัยให้กับตัวเอง

• กระเป๋า

สิ่งนี้เป็นสิ่งฟุ่มเฟือยของผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นรุ่นไหนก็ตามเพราะการใช้กระเป๋าที่ใหม่อยู่เสมอเป็นการบ่งบอกแก่สังคมว่า ตัวเองนั้นเป็นคนที่ทันสมัยมาก และยิ่งเป็นวัยทำงานหาเงินได้เองแล้ว การใช้กระเป๋าที่มียี่ห้อ จะเป็นการบ่งบอกถึงฐานะทางเศรษฐกิจด้วย

• รถยนต์

เราจะเห็นได้ว่าเป็นอีกค่านิยมที่หลายคนได้รับมาว่า หากเราทำงานแล้วต้องมีรถยนต์ขับ เพื่อเป็นหนึ่งในการได้รับการยอมรับจากคนรอบข้าง บางคนจะเห็นได้ว่าเมื่อเริ่มทำงานได้ไม่นานก็ไปดาวน์รถมาใช้เลยทันที และด้วยเทคนิคทางการตลาดของบริษัทขายรถในสมัยนี้ ที่ทำโปรโมชั่นต่าง ๆ ออกมามากมายเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย เช่น ดาวน์ในราคาที่น้อย ยืดระยะเวลาในการผ่อนนาน ก็ยิ่งทำให้หลายคนมีรถใช้ได้เร็วยิ่งขึ้นโดยที่ไม่ได้คิดเรื่องหนี้สิน

• การรับประทานอาหารหรู ๆ

ซึ่งในสมัยนี้มีร้านอาหารประเภทบุฟเฟต์และร้านอาหารหรู ผุดขึ้นมามากมาย และเป็นที่ล่อตาล่อใจให้ทั้งนักศึกษาและวัยทำงานไปทานกัน ราคาเมื่อเฉลี่ยออกมาแล้วต่อคน ถือว่าค่อนข้างแพง แต่หลายคนก็ยอมเสียเงินให้กับสิ่งเหล่านี้ เพราะเหตุผลที่ว่าต้องการจะอวดรูปให้เพื่อน ๆ ได้รู้ถึงการใช้ชีวิตของตัวเองในสังคมออนไลน์

• การใช้ของมียี่ห้อ

เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คนไทยเราชอบ เพราะการใช้ของที่มียี่ห้ออย่างนี้จะเป็นการบ่งบอกถึงรสนิยมในเรื่องการใช้จ่ายว่าเป็นคนที่มีฐานะ และทันสมัย เพื่อให้เพื่อน ๆ ของตัวเองเกิดการยอมรับ

จาก 5 ข้อนี้ถือว่าเป็นการใช้ชีวิตที่น่าเป็นห่วง ของวัยทำงานและวัยที่กำลังศึกษา เพราะสิ่งของเหล่านี้ถ้าอยากได้มาครอบครองเราต้องใช้เงินแลกมา สำหรับบางคนที่ฐานะดีอยู่แล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ธรรมดา แต่สำหรับวัยที่เพิ่งเริ่มทำงาน และวัยที่กำลังศึกษาถือว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างลำบาก และเมื่อคนเหล่านี้ตอบสนองความต้องการของตัวเอง สิ่งที่ตามมาคืออะไร ดังนี้

• เป็นหนี้ก้อนใหญ่ที่ไม่สามารถชำระได้

ซึ่งเราจะเห็นได้จากวัยทำงาน ที่ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีปัญหาหนี้บัตรเครดิต ที่เป็นเช่นนี้คือการที่ตัวเองใช้จ่ายไม่ระวังจ่ายด้วยความอยากมากว่าการให้เหตุผล เช่น หากต้องการจะซื้อมือถือราคาแพง แต่ตัวเองเป็นคนที่มีฐานะในระดับกลาง ก็ใช้บัตรเครดิตรูดซื้อไปก่อน และเมื่อถึงเวลาก็ไม่สามารถใช้คืนได้ ทำให้เกิดปัญหาหนี้ตามมา

• เป็นการสร้างค่านิยมที่ผิด ๆ

ที่เกิดขึ้นในสังคม เรื่องการใช้จ่ายนั้น ควรจ่ายตามกำลังและฐานะของตัวเอง การที่ซื้อของที่มีราคาแพง แล้วต้องการให้คนอื่นมาชื่นชมนั้นดูจะเป็นสิ่งที่ไม่ควรนัก เพราะเส้นทางในการได้มาของสิ่งของแต่ละอย่างนั้นค่อนข้างลำบาก เช่น หากเป็นนักศึกษาก็อาจจะต้องไปขู่ขอเงินพ่อแม่เพื่อมาซื้อของราคาแพงให้เพื่อน ๆ ยอมรับในตัวเอง และพ่อแม่ก็ต้องเดือดร้อนไปกู้เงินจากที่อื่นมาให้ลูกเพราะกลัวลูกจะโกรธ

อ่านเพิ่มเติม >> ค่านิยมสังคมเมือง ที่ทำให้ชีวิต ติดหนี้ <<

• สูญเงินโดยไม่เกิดประโยชน์

ถึงแม้หลายคนที่ซื้อของแบบนี้บอกว่า การซื้อของราคาแพงให้กับตัวเองเป็นการให้กำไรชีวิต แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นการสิ้นเปลือง เช่น การซื้อกรเป๋าราคาแพง ๆ เพราะเมื่อเราใช้ไปสักพักนั้นต้องเบื่อและอาจจะอยากได้ใหม่อยู่เรื่อย ๆ ไม่จบไม่สิ้น

• ไม่มีเงินออม

วัยทำงานหลายคนที่มีการใช้จ่ายแบบไม่ทันระวัง ทำให้เกิดปัญหาเรื่องเงินออม เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น เจ็บไข้ ออกจากงานกะทันหัน ก็จะทำให้ไม่มีเงินสำรองเพื่อมาใช้จ่ายในส่วนนี้ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

นี่เป็นความแปลกอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้นในสังคมบ้านเรา หลายคนยอมลงทุนสร้างนี้สินมากมายมาซื้อของเหล่านี้เพื่อยกฐานะของตัวเองและให้เป็นที่ยอมรับแก่คนรอบข้าง บางครั้งเราจะเห็นคนเหล่านี้ดูมีหน้ามีตาในสังคม แต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็เกิดความเครียดเพราะปัญหาหนี้สินที่ตัวเองสร้างไว้ ไม่สามารถจัดการกับมันได้

ดังนั้น หากใครอยากมีชีวิตและความมั่นคงทางการเงินที่ดี ควรเปลี่ยนวิธีคิดและเริ่มมีการจัดการเรื่องการเงินของตัวเอง เพื่อมีพรุ่งนี้ที่สดใส