เรื่องการสร้างฐานะตัวเองให้ดีขึ้นนั้นใช่ว่าจะมาจากการเก็บออมเพียงอย่างเดียว แต่มันจะมาจากการทำงานและคบเพื่อนด้วย ซึ่งเราจะเห็นได้หลาย ๆ ตัวอย่างที่เลือกงานถูก มีเพื่อนดี ก็ช่วยส่งเสริมกันในทางฐานะให้ดีขึ้นได้ ไม่เป็นหนี้สินและมีเงินทองให้เก็บอีกมากมาย ซึ่งวันนี้เราได้หยิบยกมาพูดคุยกันในสองประเด็นนี้ เรื่อง งานและการคบเพื่อน ดังนี้
หลักการในการเลือกคบเพื่อน
- คบเพื่อนรวยเข้าไว้
ทฤษฎีนี้ค่อนข้างจะใช้ได้ผล แต่เพื่อนที่รวยในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเพื่อนที่ร่ำรวยมาตั้งแต่กำเนิด มีการใช้จ่ายที่หรูหรา แต่หมายถึง คบเพื่อนที่ทำงานจนตัวเองเป็นเศรษฐี เพราะคนรวยเหล่านี้จะมีความคิดที่แตกต่างจากคนธรรมดาทั่วไป คือ คนเหล่านี้เขาจะคิดว่างแผนการทำงานของเขาให้งอกเงยไปเรื่อย ๆ คิดต่อยอดธุรกิจ และมองไปถึงอนาคต ดังนั้นเราควรคบคนเหล่านี้เอาไว้ เพื่อศึกษาแนวทางการดำรงชีวิตของเขาเพื่อได้เป็นตัวอย่างในการดำรงชีวิตของเรา
- เพื่อนที่รวยมักจะมีสังคมที่ดีกว่า
อาจจะไม่ถูกเสมอไป แต่ส่วนใหญ่เป็นเช่นนั้น เพราะคนที่เป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ สังคมของเขานั้นจะเป็นคนในประเภทเดียวกัน การที่เราได้คบคนประเภทนี้เป็นเพื่อ เราสามารถสร้างโอกาสให้กับตัวเองได้ และเราสามารถเรียนรู้การทำงานของคนเหล่านี้ได้เช่นกัน และเอามาปรับใช้ในการดำรงชีวิตของเรา เพื่อสร้างโอกาสให้ตัวเอง
- เพื่อนที่ดีจะช่วยเหลือและให้คำแนะนำเราในเรื่องของการใช้จ่ายเงินว่าเป็นอย่างไร
เช่น หากเขาเห็นว่าเราเริ่มมีการใช้จ่ายที่เกินตัว หรือเริ่มมีการใช้จ่ายที่น่าเป็นห่วงแล้ว เขาจะเป็นคนห้ามและให้คำแนะนำที่ดีซึ่งจะต่างจากการคบเพื่อนบางประเภทที่นอกจากจะไม่ช่วยเหลือเราแล้ว แต่ยังช่วยในการใช้จ่ายเงินของเราอีก เช่น การชวนไปซื้อของฟุ่มเฟือย การชวนกันลงทุนในสิ่งที่ผิด เป็นต้น
นี่เป็นหลักที่ว่าทำไมเราถึงต้องเลือกคบเพื่อนดี ๆ ช่วยส่งเสริมด้านการเงินของเรา การหาโอกาสพูดคุยและเป็นเพื่อนกับบุคคลเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้การเงินของเราดีขึ้นด้วย และนอกจากการเลือกคบเพื่อนแล้วหลายคนยังประสบปัญหาเรื่องทำงานอีกด้วยที่ว่า ทำงานมานานแล้วแต่ทำไม่ยังไม่รวยสักที ซึ่งเรามีคำตอบมาฝากกันดังต่อไปนี้
- การเลื่อนตำแหน่ง
หลายคนที่ทำงานมานานแล้วไม่ได้เลื่อนตำแหน่งเสียที ที่เป็นเช่นนี้เพราะบริษัทเอง เขาต้องการคนใหม่ ๆ เพื่อเอามาช่วยขับเคลื่อนให้บริษัทนั้นก้าวหน้าต่อไป การที่ให้คนเก่าขึ้นมาในตำแหน่งที่สูงขึ้นนั้นอาจจะมีปัญหาเรื่องความไม่หลากหลายได้
- การทำงานประจำนั้นเป็นการทำงานให้บริษัทรวย
แต่เราในฐานะลูกน้องไม่รวย เพราะรายได้ที่เขาจ่ายมาเป็นเงินเดือนให้เรานั้นเขาจะมีการคิดคำนวณออกมาให้มีราคาที่ถูกที่สุดเท่าที่ทำได้ ถึงขยันมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเป็นเศรษฐีได้เลย
- งานที่ทำเป็นงานที่ตัวเองไม่ได้รักจึงทำให้งานออกมาไม่ดี
ส่งผลถึงความก้าวหน้าที่อาจจะไปได้ช้า ดังนั้นถ้า อย่ากรวยต้องเลือกงานที่ใช่ให้กับตัวเอง และทำมันอย่างตั้งใจ เพื่อให้ประสบผลสำเร็จได้เร็วยิ่งขึ้น เพราะการทำงานในสิ่งที่รักผู้ทำเองก็จะทำออกมาได้ดีและไม่เกิดความเครียด
- ทำเพียงแค่งานประจำเพียงอย่างเดียว
แต่ไม่มีการวางแผนทำอาชีพเสริมอื่น ๆ หรือวางแผนในการทำธุรกิจส่วนตัว เพราะหลายคนคิดว่า การทำงานประจำนั้นจะทำให้ตัวเองมีฐานะที่ร่ำรวยขึ้นมาได้ จึงมุ่งเน้นและตั้งใจทำงานนี้ไปเพียงอย่างเดียวโดยที่ไม่ได้มองดูงานอื่น ๆ เอาไว้เลย
- ไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการทำงาน
หลายคนที่ทำงานประจำมักประสบปัญหาที่ไม่ประสบความสำเร็จเสียที เพราะเขาเองไม่ได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าอยากให้ตัวเองในอนาคตเป็นอย่างไร คิดแค่ทำงานไปวัน ๆ เพื่อได้เงินมาใช้จ่ายในครอบครัว
- ขาดโอกาส
หลายคนที่ทำงานแล้วไม่รวยสักทีคือขาดโอกาส เช่น โอกาสทางด้านทุน เพราะมีภาระทางบ้านค่อนข้างเยอะ โอกาสทางการศึกษา และความกล้าเสี่ยง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักที่ให้การทำงานนั้นประสบความสำเร็จได้ยาก ทำให้เข้าไม่รวยเสียที
- เลือกทำงานในองค์กรที่ไม่มีความก้าวหน้า
เช่น เป็นองค์กรขนาดเล็กที่มีพนักงานอยู่เพียงแค่ 10คน หากทำงานไปสักพัก ระดับความก้าวหน้าก็อาจจะไปไม่ถึงไหน นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม >> ทำงานอย่างไรให้ก้าวหน้า ? <<
การที่เราจะประสบผลสำเร็จในการทำงานได้ ต้องเรียนรู้จากข้อมูลที่กล่าวมา และต้องมีการวางแผนในการทำงานของตัวเองให้ดี เช่น เราเป็นคนที่ความรู้ เก่ง ดังนั้นเราต้องเป็นผู้เลือกสถานที่ทำงาน และพยายามมองหาโอกาสให้กับตัวเองอยู่เสมอ เพื่อได้เริ่มต้นและสร้างฐานะให้ตัวเองได้ และที่สำคัญควรคิดมีธุรกิจของตัวเองมากกว่าการเป็นลูกจ้างเขาไปตลอด เพราะเมื่อถึงช่วงวัยหนึ่งแล้ว เราอาจจะเริ่มต้นอะไรไม่ได้
ทั้งเรื่องการทำงานและการคบเพื่อน นั้น เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างฐานะให้กับตัวเองที่ดี เพราะการมีเพื่อนดีจะช่วยส่งเสริมและสร้างโอกาสต่าง ๆ ให้กับตัวเราได้ และการทำงานที่ถูกที่และตัวเองถนัด ก็จะช่วยให้มีอิสระทางการเงินได้เร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับหลักการคิดและวางแผนของแต่ละคนว่าอยากมีความก้าวหน้าแค่ไหนด้วยเช่นกัน