ในสมัยนี้เป็นยุคสมัยที่เราได้รับการปลูกฝังเรื่องของ การเก็บเงิน กันเป็นอย่างมาก โดยเริ่มตั้งแต่เด็กๆเสีย เราจะเห็นได้จากหลายๆโรงเรียนที่บุตรหลานของเราศึกษาได้มีโครงการต่างๆเพื่อสนับสนุนการออมของเด็กมาฝากกัน เช่น ธนาคารโรงเรียน หรือการที่คุณครูของเด็กๆได้ให้เด็กๆทำบัญชีเงินรายรับรายจ่ายมาทุกวันนั่นเอง ซึ่งทางหนึ่งในการปลูกฝังนิสัยเหล่านี้ให้เด็กๆได้ก็ต้องเริ่มจากที่บ้านด้วย และวันนี้เราเลยได้เตรียมวิธีการที่จะช่วยให้นิสัยการเก็บออมเงินของเด็กๆเกิดขึ้นได้มาฝากกันไม่ว่าจะเป็นเด็กวัยไหนก็ตาม ซึ่งพ่อแม่อาจจะเป็นผู้ช่วยสอนให้เด็กทำตามได้ มีอะไรบ้างมาดูกันเลย
อย่างแรก สอนให้หรือชักชวนให้เด็กหยอดกระปุกออมสินทุกวัน
ทำให้เป็นนิสัยโดยไม่ต้องสนใจว่าเงินที่จะหยอดนั้นจะมากหรือจะน้อย แต่ขอให้ได้หยอดทุกวันก็พอ ทั้งนี้เงินที่ต้องหยอดก็อาจจะต้องดูวัยของเด็กด้วย หากยังเล็กๆอยู่อาจจะหยอดจากเงินที่เหลือจากการใช้ในแต่ละวัน เพราะเด็กเล็กไม่ได้เงินไปใช้ที่โรงเรียนเยอะอยู่แล้ว แต่ถ้ามีอายุสักสิบปีขึ้นไปก็อาจจะกำหนดเป็นจำนวนเงินหรือเปอร์เซ็นต์ของค่าขนมเอาก็ได้เช่นกันตามสะดวก หรือถ้าหากใครไม่อยากใช้เงินก็เอาข้าวกลางวันไปกินเองที่โรงเรียนด้วยก็ได้
อย่างที่สอง เงินเก็บที่มีลองเอาไปซื้อฉลากออมทรัพย์ดู
นอกจากจะได้เงินจากดอกเบี้ยแล้วยังได้ลุ้นรางวัลต่างๆมากมายที่มักจะมีลักษณะของการชิงรางวัลรายเดือนหรือรายปีตามโปรโมชั่นของฉลากออมทรัพย์เหล่านั้นนั่นเอง ซึ่งก็น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
อย่างที่สาม ซื้อเฉพาะของที่จำเป็น
เช่น อะไรที่สามารถยืมเรียนได้ไม่จำเป็นต้องซื้อก็ยืมเรียนเอาเลย เพื่อนำเงินไปใช้อย่างอื่นแทนนั่นเอง นอกจากนี้การซื้อของต่างๆที่เป็นการหาความสุขให้ตัวเองนั้นก็สามารถทำได้เช่นกันแต่ก็ต้องมีขอบเขตและอย่าได้เผลอใช้เงินอย่างไม่มีสติเด็ดขาด หรือการใช้เงินเพื่อซื้ออะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพเช่น เหล้า บุหรี่ หรือของกินบางประเภทก็ควรจะงดไปเลย เพื่อชีวิตที่ยืนยาวและเงินที่สามารถนำไปสร้างประโยชน์ให้เราได้มากกว่านี้นั่นเอง
อย่างที่สี่ อยู่ร่วมหอร่วมกับเพื่อน
หากใครที่ต้องไปเรียนโรงเรียนที่ต้องเช่าหออยู่เองหรือการไปเรียนต่างจังหวัดและต้องเช่าหอ การอยู่ร่วมกันคนอื่นจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ทั้งค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้าต่างๆนั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังจะไปเช่าหออยู่ล่ะก็ อย่าลืมพ่วงเพื่อนๆ ไปด้วยสัก 2-3 คนนะ จะได้มีคนช่วยแชร์ค่าใช้จ่ายต่างๆ มากขึ้น
อย่างที่ห้า อยากเล่นเน็ตก็ลองใช้ Wifi free ไปก่อน
หากตอนไหนที่จำเป็นจริงๆ เช่น Wifi ใช้งานไม่ได้หรือสัญญาณมาไม่ถึงแล้วค่อยเปลี่ยนมาใช้งานอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์แทน เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายนั่นเอง ซึ่งหากอยู่หอพักล่ะก็ ส่วนใหญ่ตามหอพักนักศึกษาก็จะมี wifi ให้ใช้ฟรีอยู่แล้ว ถึงบางครั้งสัญญาณอาจจะอ่อนไปหน่อย แต่ก็ยังดีกว่าต้องเสียเงินเองนะคะ นอกซะจากว่าจำเป็นต้องใช้เน็ทสัญญาณแรงจริงๆ อาจจะสมัครใช้เน็ทจากเครือข่าย นานๆ ครั้งก็ไม่เป็นไร
อย่างที่ห้า หากต้องเดินทางเพื่อไปไหน เราอาจจะใช้บริการขนส่งสาธารณะดู
เพื่อลดค่าใช้จ่ายหากอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือเมืองใหญ่ที่มีแท็กซี่ หากเมืองไหนเป็นเมืองเล็กๆก็อาจจะใช้การเดินเท้าหรือการปั่นจักรยานเอาก็ได้ นอกจาจะประหยัดค่าใช้จ่ายแล้วยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย นอกจากนี้การอยู่ในเมืองใหญ่หากไม่รีบร้อนมากนัก การใช้บริการรถประจำทางสาธารณะก็ประหยัดได้มากกว่าการนั่งแท็กซี่ซะอีก ลองดูนะ
อย่างที่หก ข้อดีของการยังเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือเยาวชนอยู่ก็คือ ส่วนลดต่างๆในการเข้าชมหรือการเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ บางที่อาจจะให้ฟรีและบางที่อาจจะเป็นส่วนลด
เช่น สวนสนุก พิพิธภัณฑ์ต่างๆ เป็นต้น ดังนั้นช่วงที่ยังเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือเยาวชนอยู่ก็ควรจะใช้สิทธิ์นี้ให้คุ้มค่า อะไรที่สามารถใช้งานได้ก็ใช้ให้หมด แถมยังชักชวนเพื่อนๆไปเที่ยวแบบเป้นหมู่คณธได้ในราคาถูกอีกด้วย
อย่างที่เจ็ด อย่าเพิ่งเลี้ยงสัตว์เลี้ยงด้วยตนเอง
หากที่บ้านมีอยู่แล้วก็คงไม่เท่าไหร่แต่การหามาเลี้ยงและต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงด้วยตนเอง อาจจะเป็นภาระที่หนักเกินไปสำหรับคนที่ยังไม่สามารถสร้างรายได้ด้วยตนเอง เพราะการเลี้ยงสัตว์นั้นมีค่าใช้จ่ายมากกมาย ทั้งการหาหมอ อาหารการกินต่างๆที่เราต้องหามาให้ทั้งหมดนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม >> เป็น ทาสน้องหมาน้องแมว อย่างไร ไม่ให้สิ้นเปลือง ? <<
เพื่อเก็บเงินและออมเงินให้มากขึ้นในวัยเด็ก วิธีเหล่านี้ก็เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายๆ เลยและยังเพิ่มพูนเงินออมได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ลองนำไปใช้กันดูนะ