มนุษย์เราเกิดมาย่อมมีชีวิตที่ต่างกัน บางคนอาจรวยล้นฟ้า มีบ้านหลังโต ขับรถหรู นอนอยู่บนกองเงินกองทองชนิดที่เรียกว่ากลุ้มใจเหลือเกินว่าจะเอาเงินไปใช้ทำอะไรดี หรือชีวิตบางคนอาจกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็ก บ้านแค่กระท่อมน้อยไว้ซุกหัวนอน สมบัติสักชิ้นไม่ต้องพูดถึงลำพังจะหาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวัน ๆ ยังยากลำบาก หรือบางคนอาจมีชีวิตกลาง ๆ มีงานทำแต่ภาระหนี้สินท่วมหัว เงินพอใช้เดือนชนเดือนบางเดือนไม่พอด้วยซ้ำ ที่กล่าวมาคือชีวิตของคนที่อยู่ในสังคมร่วมกับเราซึ่งดูเหมือนว่าช่างเหลื่อมล้ำกันเหลือเกิน อะไรหนอเป็นตัวกำหนด โชคชะตาฟ้าดินอย่างนั้นหรือ?
“ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน”
คุณคงเคยได้ประโยคนี้กันมาแล้ว แม้เราจะเลือกเกิดในครอบครัวร่ำรวยไม่ได้ เลือกให้ตัวเองมีหน้าตาดีไม่ได้ แต่การได้เกิดมาเป็นมนุษย์ถือว่าประเสริฐยิ่งนัก เพราะเป็นสิ่งมีชีวิตที่สามารถใช้สติปัญญาเรียนรู้ ปรับปรุง และต่อยอดให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้นได้ อย่างคำที่ว่าเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะทำได้ หากเราเกิดในครอบครัวที่ไม่ร่ำรวยนัก พ่อแม่แข็งใจส่งเรียนจบวุฒิการศึกษาสูงสุดเท่าที่จะทำได้แล้ว ส่งผลให้เรามีวุฒิการศึกษาที่จะไปหางานดีๆได้ นี่คือความมานะพยายามของพ่อแม่ที่ให้กับลูกที่รัก ขออย่านึกน้อยใจอย่าท้อแท้ในโชคชะตาและหยุดที่จะต่อสู้กับชีวิต เพราะชีวิตคนเราไม่แน่นอนอาจพลิกผันเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสของแต่ละคนที่จะได้พานพบ
อ่านเพิ่มเติม >> มา ล้างนิสัยคนจมหนี้ ออกจากชีวิตกันดีกว่า <<
อุปนิสัยส่วนตัวของแต่ละคนย่อมเป็นส่วนหนึ่งที่จะกำหนดให้ชีวิตต่างกันไป คนที่มี ความขยัน ขันแข็งไม่เกี่ยงงาน มีความมานะอดทนและมีกำลังใจที่ดีอยู่เสมอย่อมจะพาชีวิตตัวเองให้เจริญขึ้นได้อย่างแน่นอนแม้ต้องใช้เวลามากสักหน่อย นักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จหลายคนเริ่มต้นเส้นทางทำกินจากการเป็นเถ้าแก่ร้านค้าเล็ก ๆ ในตลาดเท่านั้น ใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ลองผิดลองถูกกับธุรกิจของตนอยู่หลายขวบปี ล้มบางลุกบ้างจนในที่สุดธุรกิจก็ประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรืองจนกลายเป็นเจ้าของโรงงานใหญ่โตก็เป็นได้ ผิดกับคนที่มีนิสัยเกียจคร้านทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่พัฒนาตนเองให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มพูน เป็นคนประเภทรักสบายหนักไม่เอาเบาไม่สู้ คิดน้อยใจในโชคชะตาโทษตัวเองว่าเกิดมาบุญน้อยไม่มีชีวิตสุขสบายเช่นคนอื่น แต่กลับไม่ต่อสู้หาหนทางทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นมัวใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่คนมีอันจะกินแล้วเขาทำกัน เช่น การเที่ยวเตร็ดเตร่ทุกค่ำคืน ดื่มสุรา สูบบุหรี่ ติดการพนัน รวมไปถึงการจับจ่ายใช้สอยสิ่งที่หาประโยชน์ไม่ได้และการใช้จ่ายเกินตัวทำให้เป็นหนี้เป็นสิน เป็นต้น
อุปสรรคที่ทำให้หลุดพ้นจากความจนได้ยากลำบากก็คือ ความเกียจคร้านและการใช้เวลาไปกับกิจกรรมบันเทิงเริงใจที่ไร้ประโยชน์
สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นกับนักธุรกิจหรือผู้มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างขยันขันแข็ง ด้วยความคาดหวังว่าจะได้เลื่อนตำแหน่งที่สูงขึ้นหรือได้โบนัสปลายปีเป็นรางวัลก้อนใหญ่ให้กับชีวิต กล่าวคือ เวลานั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนมีเท่ากันในหนึ่งวันเรามีเวลา 24 ชั่วโมง นี่คือตัวแปรอย่างเดียวที่เราได้รับอย่างเสมอภาคไม่ว่าจะเป็นคนจนหรือคนรวย คนที่เห็นค่าของเวลาจะไม่ใช้เวลาไปกับกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ดังเช่นลูกหลานที่เกิดในบ้านคนจีนมักคุ้นชินกับการถูกปลุกให้ลุกขึ้นช่วยทำงานที่บ้านตั้งแต่ก่อนรุ่งสางด้วยคำสอนอันเฉียบขาดว่า “หากตื่นสาย ก็ไม่มีอะไรเหลือให้ทำแล้ว”
ฉะนั้น การรู้จักบริหารเวลาเป็นสิ่งที่จะช่วยให้เราสามารถจัดสรรชีวิตให้ทำอะไรได้มากขึ้น ยกตัวอย่างได้จากเวลาของนักร้องนักแสดง การคิดค่าตอบแทนในการทำงานนั้นอาจคำนวณเป็นรายชั่วโมงกันเลยทีเดียว หากพวกเขาเอาเวลาไปนั่งเฉย ๆ สักสองชั่วโมงอาจทำให้เสียรายได้จำนวนเงินหลายหมื่นบาทก็เป็นได้
แม้แต่ในชีวิตของพนักงานออฟฟิศหรือคนทั่วไป ก็จำเป็นต้องจัดตารางเวลาให้เหมาะสมกับภาระหน้าที่ ควรมีการจดบันทึกว่าเราต้องทำอะไรบ้าง มีนัดกับลูกค้ากี่คนวันไหนบ้าง งานที่ได้รับมอบหมายกำหนดส่งเมื่อไหร่ เพื่อทำให้เราสามารถบริหารเวลาให้สมดุลกับภาระงานต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงตามที่กำหนดไว้ได้ นอกจากนี้ หากเราแบ่งเวลาว่างไปเรียนรู้ทักษะด้านอื่น ๆ หรือหารายได้เสริม เช่น เรียนภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ฝึกทำขนมเค้กด้วยตนเองและนำไปขายในวันหยุด ศึกษาการเพาะพันธุ์ต้นกระบองเพชรจากอินเตอร์เน็ท หรือเก็บเงินสักก้อนเพื่อนำไปฝึกเล่นหุ้น ฯลฯ เหล่านี้เป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์ให้กับชีวิต เป็นความท้าทายที่จะพัฒนาตนเองให้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ สุดท้ายอาจเป็นหนทางที่จะสร้างอาชีพให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้น มีชีวิตโดยรวมที่ดีขึ้น หรือเพียงแค่ให้ตัวเองมีความสุขมากขึ้นล้วนแล้วแต่จริตความชอบของแต่ละคนไป
ความโลดโผนโจนทะยานแห่งชีวิตจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยกับคนที่มีนิสัยเกียจคร้าน รักสบาย ใช้เวลาไปกับการพักผ่อนมากเกินไป แม้จะเป็นคนเก่ง มีความสามารถแต่สิ่งเหล่านั้นไม่ถูกนำมาใช้งาน เปรียบเหมือนมีดที่ไม่ได้ลับคม นานวันเข้าจึงขึ้นสนิมกลายเป็นเพียงมีดทื่อเล่มหนึ่งที่ในที่สุดก็ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ชีวิตคนเราจะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับหนึ่งสมอง สองมือและกำลังใจที่ดีของเรานี่เอง ที่จะช่วยผลักดันให้ไขว่คว้าโอกาสให้เข้ามาหาตน คนที่ไม่หยุดนิ่ง ไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตาเชื่อว่าจะได้รับผลตอบแทนที่มีคุณค่าในวันหนึ่งอย่างแน่นอน