บัตรเครดิต เปรียบเสมือนกับเงินสดที่สามารถนำไปซื้อสินค้าหรือบริการตามที่ผู้ถือบัตรต้องการ ผู้เป็นเจ้าของบัตรเครดิตควรต้องรักษาบัตรเครดิตของตนไม่ใช่แตกหักเสียหายหรือตกหล่น เนื่องจากในปัจจุบันเหล่าบรรดามิจฉาชีพคอยจ้องที่จะเอาผลประโยชน์จากผู้ที่เผลอเรอทำบัตรเครดิตหล่นหายหรือลืมไว้ตามสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงการวางกลลวงเพื่อขโมยบัตรเครดิต หรือแม้กระทั่งกระทำการปลอมบัตรเครดิตโดยขโมยข้อมูลจากเจ้าของบัตร
ทุกท่านที่เป็นเจ้าของบัตรเครดิตจึงควรรู้ถึงกฎหมายเกี่ยวกับบัตรเครดิตเอาไว้ด้วยเผื่อว่า บัตรเครดิตโดนสวมสิทธิ์ ต้องตกไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพ ท่านจะได้รู้ถึงวิธีแก้ไขและกับสถานการณ์ดังกล่าวได้อย่างมีสติ ลองมาดูว่ามิจฉาชีพจะเข้ามาในรูปแบบใดและกฎหมายจะช่วยทุกท่านได้มากน้อยเพียงใด
หากบัตรเครดิตถูกคัดลอกข้อมูลจากแถบแม่เหล็ก
เมื่อมิจฉาชีพได้ข้อมูลบัตรเครดิตไปแล้วจะนำไปทำบัตรเครดิตปลอมขึ้นมาและนำไปรูดใช้จ่าย หรือกดเงินสดออกมาใช้จนเต็มวงเงิน กว่าที่เจ้าของบัตรจะรู้ตัวก็ต่อเมื่อมีบิลชำระแจ้งมา แต่มันคือหนี้ที่เกิดขึ้นมาจากบัตรปลอมใช่บัตรจริงที่ถืออยู่ในมือของท่าน ท่านไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบชำระหนี้สินเหล่านั้น แต่ท่านต้องรีบนำใบแจ้งหนี้และหลักฐานที่มี ไปทำการแจ้งความเอาไว้และให้รีบติดต่อไปยังสถาบันการเงินที่เป็นผู้ออกบัตรให้แก่ท่าน ไม่ต้องตื่นตกใจ แต่ให้ทำตามขั้นตอนที่ทางสถาบันการเงินแนะนำมา เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อที่ท่านใช้งานบัตรเครดิต ยิ่งหากบัตรเครดิตรุ่นใหม่ที่ไม่จำเป็นต้องเซ็นชื่อกำกับก็สามารถรูดได้เลย ยิ่งเป็นสิ่งที่ง่ายต่อการคัดลอกข้อมูลและนำไปทำบัตรปลอมใช้ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
หากบัตรเครดิตหายหรือถูกโจรกรรมไป
หากท่านผู้เป็นเจ้าของบัตรเครดิตได้แจ้งความและแจ้งทางสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเอาไว้ตั้งแต่ที่บัตรเครดิตหายหรือถูกโจรกรรม แต่ยังมีใบแจ้งชำระหนี้บัตรเครดิตนั้นมายังท่านอีก ท่านไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบชำระหนี้สินเหล่านั้น แม้ว่าทางสถาบันการเงินจะทำการฟ้องร้องท่านก็ตาม เพียงแค่ท่านมีหลักฐานการแจ้งความไปยืนยันว่าท่านไม่ได้ปล่อยปะละเลยใด ๆ หากในกรณีที่บัตรเครดิตหายหรือถูกโจรกรรมไป แต่ทานไม่ได้สนใจแจ้งความหรือแจ้งเข้าไปยังสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเพื่อทำการอายัดบัตร เพราะอาจจะคิดว่าคงไม่มีใครจะสามารถใช้งานบัตรเครดิตของท่านได้ แต่แล้วกลับมีใบแจ้งชำระหนี้มาเรียกเก็บค่าบัตรเครดิตกับท่าน หนี้สินก้อนนี้ท่านจะต้องชดใช้เองเพราะถือว่าท่านไม่มีความระวังและไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง ท่านใดที่ใช้งานบัตรเครดิตอยู่ต้องจำข้อนี้ให้ขึ้นใจ ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องมานั่งชดใช้หนี้สินที่ตนเองไม่ได้สร้างได้
อ่านเพิ่มเติม >> บัตรเครดิตหายทำอย่างไร <<
หากถูกนำสำเนาทะเบียนบ้านหรือบัตรประชาชนไปใช้สมัครบัตรเครดิต
ในกรณีนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งทั้ง ๆ ที่พยายามเซ็นหรือขีดเส้นกำกับสำเนาเอกสารทุกอย่างดีแล้ว แต่สำเนาเอกสารสำคัญก็ยังตกไปอยู่ในมือของมิจฉาชีพได้ มิจฉาชีพเหล่านี้จะนำเอาสำเนาเอกสารสำคัญของท่านไปสมัครใช้บริการบัตรเครดิตซึ่งสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่น่าแปลกใจอยู่ไม่ใช่น้อย แม้แต่ท่านที่เคยลองไปสมัครบัตรเครดิตมาแล้วแต่กลับไม่ได้รับการอนุมัติ แต่มิจฉาชีพมีแค่เพียงสำเนาเอกสารสำคัญของท่านเท่านั้น แต่กลับสมัครและได้รับการอนุมัติอย่างง่ายดาย กว่าที่ทุกท่านจะรู้ตัวว่าโดนนำเอกสารไปแอบอ้างทำบัตรเครดิต ท่านก็มีหนี้ก้อนใหญ่ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ก่อขึ้นเสียแล้ว โดยในบิลล์แจ้งหนี้จะระบุว่าท่านเป็นผู้ครอบครองบัตร ชื่อในใบแจ้งให้ไปชำระหนี้ก็เป็นชื่อท่าน แต่ท่านไม่เคยสมัครบัตรเครดิตเลย หากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ท่านไม่จำเป็นต้องชำระหนี้สินเหล่านั้น แต่ให้รีบไปแจ้งความในทันที โดยนำเอกสารที่ได้รับทั้งหมดไปด้วย ในกรณีนี้ถือได้ว่าเป็นความหละหลวมของสถาบันทางการเงินเองที่อนุมัติบัตรเครดิตให้แก่มิจฉาชีพทั้ง ๆ ที่ผู้ที่ยื่นสมัครกับเจ้าของเอกสารเป็นคนละคนกัน
วิธีการใช้บัตรเครดิตให้ปลอดภัยห่างไกลจากมิจฉาชีพ คือ
- พยายามเก็บบัตรเครดิตให้ดีที่สุด หากไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานก็ควรจะเก็บบัตรเครดิตไว้ในกระเป๋าสตางค์ให้เรียบร้อยและมิดชิด หมั่นตรวจสอบอยู่เสมอว่าบัตรเครดิตของท่านยังอยู่ในกระเป๋าสตางค์ของท่านเสมอหรือไม่
- เวลาที่ใช้งานบัตรเครดิตทุกครั้งต้องไม่ให้ห่างจากสายตา ไม่ว่าจะใช้รูดอะไรก็ตามการยืนดูตอนที่พนักงานทำการรูดบัตรอย่างไม่ให้คลาดสายตา อย่ายื่นบัตรให้แก่พนักงานนำไปรูดเองโดยเด็ดขาดเพราะท่านไม่สามารถทราบได้เลยว่ามิจฉาชีพที่จ้องจะขโมยข้อมูลบัตรเครดิตของท่านจะมาในรูปแบบไหนบ้าง
- ตรวจสอบใบเสร็จรับเงินที่ใช้จ่ายเกี่ยวกับบัตรเครดิตทุกครั้ง การตรวจสอบและเก็บใบเสร็จรับเงินที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทุกครั้งจะช่วยให้ท่านสามารถสังเกตเห็นสิ่งที่ผิดพลาดได้ หากมีข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากทางร้านที่เพิ่งใช้บริการไป ท่านสามารถแย้งได้ในทันที ส่วนการเก็บใบเสร็จรับเงินไว้จะสามารถนำมาเป็นหลักฐานชี้แจงได้เมื่อยอดแจ้งชำระที่แจ้งมาเกินความจริงที่ใช้งาน
- ทุกครั้งที่ใช้บัตรเครดิตกดเงินสดควรระวังให้มากที่สุด เลือกตู้ ATM ที่ดูแล้วไม่มีสิ่งผิดปกติและต้องไม่อยู่ในสถานที่เปลี่ยวไม่ปลอดภัย ตู้ ATM ที่อยู่ในธนาคารเลยจะปลอดภัยกว่าตู้ ATM ที่อยู่ด้านนอกของธนาคาร และตู้ ATM ที่อยู่หน้าธนาคารในห้างสรรพสินค้าจะปลอดภัยมากที่สุดในการกดเงินสดเพราะว่าในห้างสรรพสินค้าจะเต็มไปด้วยกล้องวงจรปิด ซึ่งมิจฉาชีพจะไม่กล้ามาติดตั้งอุปกรณ์เพื่อคัดลอกข้อมูล
หากท่านทราบวิธีดำเนินการเมื่อเกิดเหตุการณ์โจรกรรมบัตรเครดิตหรือถูกแอบอ้างใช้บัตรโดยที่ตัวท่านไม่ทราบ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใด ๆ ขึ้นมาก็ไม่สามารถทำให้ท่านตกใจหรือวิตกกังวลได้ เพียงมีสติอยู่เสมอและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ได้แนะนำไว้ในเบื้องต้น ความรู้เหล่านี้จะช่วยให้ท่านหลุดพ้นจากสภาพลูกหนี้ที่ไม่ได้ก่อขึ้นด้วยตนเอง