งานประจำกับค้าขาย อันไหนรายได้ดีกว่ากัน ?

อ้างอิงจากกระทู้ http://pantip.com/topic/34395650

คำถามเด็ด งานประจำกับค้าขาย อันไหนรายได้ดีกว่ากัน  เชื่อคงมีใครผ่านตากับคำถามนี้ในเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งมาบ้าง ซึ่งเจ้าของกระทู้นั้นกำลังคิดจะออกจากงานประจำมาทำอาชีพค้าขาย โดยจะค้าส่งขนมแผงๆ ที่ขายกันตามร้านขายของชำ แน่นอนว่าเมื่อเกิดความลังเล จึงเข้ามาตั้งกระทู้เพื่อขอความคิดเห็นซึ่งในคำตอบนั้นมีหลายแง่มุมเลยเดียว ซึ่งหากจะวิเคราะห์แนวโน้มความเป็นไปได้นั้น ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับการตัดสินใจที่น่าใช้เป็นแนวทางคือ

อ่านเพิ่มเติม >> ลอกเปลือก มนุษย์เงินเดือน ข้อคิดก่อนลาออก <<

1.ศึกษาลู่ทางการตลาดให้ดีก่อน

เพราะปัจจุบันขนมแผงๆพวกนี้มีคนส่งค่อนข้างเยอะ ทั้งจากร้านค้าส่งที่จะมีพนักงานขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งขายตามร้านซึ่งจะเวียนกันไปในแต่ละสัปดาห์ (สอบถามมาจากร้านของชำแถวบ้านเขาบอกว่ามีรถมาส่งให้ถึงที่) และมีจากโรงงานผลิตขนมแผงๆพวกนี้ก็มีพนักงานมาขายตามร้านด้วยเช่นกัน และยังมีอีกแบบคือ ร้านชำแพคขายเองเช่น พวกลูกอมแปลกๆที่นำมาจากเกาหลี ญี่ปุ่น จีน ที่มีขายกันทั่วไปเป็นห่อๆ ซื้อมาแพคติดแผงขายเด็กๆ ก็มีบ้างเหมือนกัน แน่นอนว่าการศึกษาช่องทางการค้า การไปดูตามร้านขายของ การสอบถาม จะทำให้วิเคราะห์ได้ว่าน่าลงทุนมากน้อยแค่ไหน และการไปพูดคุยอาจเป็นการสร้างฐานลูกค้าไว้ล่วงหน้าด้วย

2.ข้อควรระวัง

การขายขนมแผงพวกนี้ ต้องมีคือ หากเป็นพวกขนมขบเคี้ยวจะไม่ค่อยนิยมมากนักเพราะมักจะมีสารกันบูด หรือ บางอย่างขึ้นราได้ ดังนั้นร้านของชำบางร้านจะรับวางในลักษณะฝากขายคือให้วางได้แต่ต้องรับคืนและต้องนำของมาเปลี่ยนบ่อยๆ  และต้องแบ่งเปอร์เซ็นต์การขายให้ร้านค้าด้วย เพราะบางร้านจะไม่ซื้อขนมแผงๆมาขายโดยตรงหากเป็นขนมที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้นานๆ ส่วนมากจะรับเป็นอย่างอื่นมากกว่าเช่น ของเล่นแผงๆ ราคาถูกๆ พวกพริกไทย เครื่องเทศ หรือหากเป็นขนมที่เก็บได้นานๆ ร้านของชำย่อยจึงจะซื้อมาขายโดยตรงไม่ใช่การฝาขาย

3.การวางระบบการขายสินค้าและการคัดเลือกสินค้า

หลังจากศึกษาแนวทางและดูจากร้านค้าจริงแล้วการวางแผนการขาย การเลือกสินค้าก็มีส่วนสำคัญเพราะอย่างที่กล่าวข้างต้นสินค้าที่จะลงขายมีอายุต่างกัน บางพื้นที่อาจขายดีบางพื้นที่อาจขายไม่ดีดังนั้นต้องมีการเลือกสินค้าให้ตรงกับความต้องการของคนซื้อด้วย นอกจากนี้การวางระบบการจัดการเช่น การขนส่งสินค้า ระยะเวลาการเปลี่ยนสินค้า มีส่วนสำคัญกับการขายด้วยเช่นกัน

4.ควรทดลองทำคู่กับงานประจำไปก่อน

ซึ่งเป็นอีกแนวคิดที่น่าสนใจเพราะในการเริ่มต้นค้าขายจริงๆนั้นการคืนทุนหรือการกำไรจะไม่เกิดในช่วงแรก ซึ่งหากสามารถทำควบคู่กับงานประจำไปก่อนได้ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรทดลองเช่น ในวันหยุดออกหาลูกค้า เริ่มจากละแวกที่พัก และที่ทำงานโดยดูจากเส้นทางการเดินทางไปทำงานเป็นหลักว่ามีร้านค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหลายของสินค้าที่ต้องการขายหรือไม่หากมีก็เข้าติดต่อเพื่อหาลูกค้าและจดรายละเอียดต่างๆของแต่ละร้านไว้ว่าติดต่อกับใคร สินค้าต้องการแบบไหน และซื้อขาดหรือฝากขาย ข้อตกลงต่างๆติดต่อได้ทางไหนบ้าง ลงของได้วันไหนบ้าง และเมื่อได้ลูกค้าที่อยู่ในระยะการเดินทางประจำจะทำให้ส่งสินค้าได้สะดวกขึ้น ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย

และควรจดบันทึกรายการรับรายการจ่ายจากการเริ่มต้นทำการค้าขาย  และค่อยๆขยายไปฐานลูกค้าออกไปเรื่อยๆ โดยเลือกเส้นทางที่เชื่อมต่อกับร้านค้าที่เรามีอยู่เพื่อความสะดวกในการขนส่งและค่อยขยายเส้นทางไปเรื่อยๆ หากส่งไม่ทันหรือมีเยอะขึ้น ก็สามารถจ้างพนักงานส่งแต่ต้องคำนวณว่าคุ้มค่ากับกำไรที่ได้มาและสามารถควบคุมการขนส่งและต้องไว้ใจได้ ซึ่งการทำแบบนี้อาจไม่ต้องออกจากงานเลยก็ได้ สามารถทำเป็นธุรกิจเล็กๆควบคู่กับงานประจำได้เงยเพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทาง

อ่านเพิ่มเติม >> มนุษย์เงินเดือน หารายได้เสริม ได้ไม่ยาก <<

จากคำแนะนำทั้งหมดที่สรุปมาจากความคิดเห็นต่างๆ จะเห็นได้ว่าการทำธุรกิจเล็กๆแม้แต่การค้าขายขนมแผงยังต้องมีการวิเคราะห์และวางแผนก่อนเพื่อให้ได้กำไร ได้ทุนและเป็นการสร้างรายได้แบบคู่ขนานกับงานประจำ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเสี่ยงออกจากงานประจำมาลองผิดลองถูกเพราะหากการค้าที่ทำนั้นอยู่ตัวและมีรายได้สูงกว่างานประจำและมีแนวโน้มที่ดีขึ้นและจะอยู่ได้ในระยะยาวออกจางานตอนนั้นก็ไม่เสียหายอะไร การก้าวที่ละก้าวอย่างมั่นคงจะดีกว่าสำหรับการทำการค้าในยุคนี้