เมื่อมีการพัฒนาเทคโนโลยีจากองค์กรธุรกิจต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันต่อโลกยุคดิจิตอล อีกธุรกิจหนึ่งที่ทำการพัฒนาเพื่อก้าวให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภคและเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่เปลี่ยนไป คือ ธุรกิจบัตรเครดิต บัตรเครดิตถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองพฤติกรรมการบริโภค พฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอย พฤติกรรมการแต่งกายหรือแม้กระทั่งบุคลิกท่าทาง ความชอบ ที่เกิดจากกระแสนิยมจากโลกตะวันตกและโลกตะวันออกได้ไหลถ่ายเทระหว่างกัน จนเกือบเป็นโลกนิยมเดียวกัน ก่อให้เกิดทั้งข้อดีและข้อเสียในการดำเนินชีวิต
บัตรเครดิตเป็นหนึ่งบริการเพื่อใช้ประโยชน์ในการชำระค่าสินค้าหรือบริการจากวงเงินเครดิตในบัตรที่สถาบันการเงินอนุมัติ ให้ในแต่ละบัตร ทำให้ผู้ใช้บัตรเครดิตสามารถหมุนเงินในยามที่ติดขัดด้านการจับจ่าย ทั้งยังสะดวกต่อผู้ใช้บัตรเครดิตบางกลุ่มที่ไม่นิยมพกเงินสด หรือผู้ใช้บางกลุ่มที่ต้องการคะแนนสะสมจากการชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิต สิ่งเหล่านี้ทำให้บัตรเครดิตเป็นที่นิยมของคนส่วนใหญ่ การอนุมัติให้คุณเป็นเจ้าของบัตรเครดิตได้นั้น ธนาคารหรือสถาบันการเงินจะพิจารณาจากความสามารถในการจ่ายชำระเงินคืน ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมา เครดิตทางการเงิน หากประวัติในด้านการชำระเงินของคุณเป็นปกติ โอกาสที่สถาบันการเงินหรือธนาคารจะอนุมัติบัตรเครดิตให้กับคุณจะมีอัตราความเป็นไปได้สูง
อ่านเพิ่มเติม >> กฏ 6 ข้อ ถ้าอยาก ใช้บัตรเครดิต ให้เป็น ! <<
ด้วยความง่ายของการ ใช้บัตรเครดิต จึงมีกลุ่มมิฉาชีพที่ต้องการแสวงหาผลประโยชน์โดยไม่ถูกกฎหมาย เรียกว่า การโจรกรรม ซึ่งทำได้หลายทางในการหาประโยชน์จากผู้ใช้บัตรเครดิตและผู้ต้องการบัตรเครดิต โดยกลุ่มมิจฉาชีพเหล่านี้จะทำการโจรกรรมด้วยวิธีอันหลากหลาย เช่น ใช้การลอกข้อมูลบัตรหรือที่เรียกว่า การสกิมมิ่งเพื่อคัดลอกข้อมูลบัตร การสร้างเว็บไซต์ปลอม การแจ้งข้อมูลเท็จหลอกลวงผู้ใช้บริการบัตรเครดิตเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญของบัตรเครดิต การขโมยข้อมูลบัตรเครดิตจากการซื้อของออนไลน์ การลักขโมยบัตรเครดิต เป็นต้น ผู้ใช้บัตรสามารถป้องกันตนเองจากการโจรกรรม ด้วยการเพิ่มความระมัดระวัง การสังเกต การตรวจสอบ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของกลุ่มผู้กระทำผิด ซึ่งเทคนิคที่ช่วยให้รอดพ้นจากภัยโจรกรรมบัตรเครดิต มีดังนี้
การป้องกันตนเองจากระบบสกิมมิ่ง
ก่อนการซื้อสินค้าหรือบริการจากร้านค้าทั้งในประเทศหรือนอกประเทศ ผู้ซื้อต้องสังเกตที่ตั้งของร้านค้า เช่น ตั้งอยู่บริเวณใด ย่านศูนย์การค้า ย่านชุมชน คนพลุกพล่านหรือไม่ เพราะหากเป็นบริเวณที่มีการจับจ่ายใช้สอยมาก แสดงว่าร้านค้าร้านนั้นน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ประชาชนจึงมาใช้บริการ รวมถึงต้องสังเกตพนักงานผู้ให้บริการภายในร้าน โดยเฉพาะพนักงานรับชำระเงินว่ามีท่าทางผิดสังเกตหรือไม่ เมื่อให้บริการรับชำระด้วยบัตรเครดิตหรือไม่ เครื่องรูดบัตรเครดิตมีลักษณะที่แตกต่างจากเครื่องรูดบัตรเครดิตที่เคยใช้บริการหรือไม่ สิ่งเหล่านี้ หากมีความผิดปกติ ผู้ใช้บริการควรจะตั้งข้อสังเกตและสอบถามพนักงานรับชำระเงินหรือเจ้าของร้านค้า ก่อนการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต ซึ่งหากเกิดความปกติมากจนผิดสังเกต คุณควรระงับการจ่ายด้วยบัตรเครดิตโดยทันที นอกจากนั้น ควรต้องตรวจสอบบัตรเครดิตเมื่อได้คืนว่ามีการจ่ายสินค้าออกไปจริงหรือไม่ ตรวจสอบผู้รับเงินว่าถูกต้องเป็นที่เดียวกันกับร้านค้าที่คุณทำการช้อปปิ้งหรือไม่
การป้องกันตนเองจากการซื้อสินค้าออนไลน์
การซื้อสินค้าออนไลน์สามารถชำระเงินได้หลายช่องทาง เช่น ชำระเงินผ่านธนาคาร ( ระบบออนไลน์ ตู้ ATM ,เคาน์เตอร์ธนาคาร) ชำระผ่านทางบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ชำระผ่านทาง paypal เป็นต้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ซื้อสินค้าจะชำระเงินผ่านทางธนาคาร เนื่องจากไม่ต้องการแจ้งละเอียดข้อมูลบัตรเครดิต เช่น เลขบัตรเครดิต รหัสหลังบัตร (CVV สำหรับบัตร VISA หรือ CVV2 สำหรับบัตร master วันหมดอายุ ชื่อบนบัตรเครดิต ) เพราะชำระเงินผ่านทางอื่น หากผู้อื่นทราบข้อมูลและไม่ประสงค์ดี อาจส่งผลเสียต่อเจ้าของบัตรเครดิตได้ เช่น อาจนำข้อมูลบัตรเพื่อไปทำบัตรเครดิตปลอม แต่ใช้ข้อมูลของเจ้าของบัตร ดังนั้นจึงไม่ควรแจ้งรายละเอียดข้อมูลบัตรเครดิตแก่ร้านค้าที่ไม่น่าเชื่อถือ ไม่มีการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าหรือตรวจสอบจากข้อมูลภายในเว็บไซต์ เช่น ยอดผู้เข้าชม ข้อมูลการสั่งซื้อในอดีต หรือทำการสอบถามจากผู้ที่เคยซื้อสินค้าร้านออนไลน์ดังกล่าวมาก่อน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ชำระเงินด้วยบัตรเครดิตมีความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง หรือเพื่อเพิ่มความมั่นใจ ผู้ถือบัตรสามารถเลือกชำระเงินผ่านทางธนาคารหรือ ทาง paypal แทน
การป้องกันตนเองจากการแจ้งข้อมูลเท็จของเหล่ามิจฉาชีพ
หากได้รับโทรศัพท์ ข้อความทางโทรศัพท์มือถือ จดหมายหรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับบัตรเครดิตของคุณ เช่น มียอดค้างชำระต้องโอนเงินเข้าบัญชีผู้อื่นเพื่อจ่ายชำระหรือท่านได้ทำบัตรเครดิต แต่ยังไม่ได้เปิดใช้บริการ ต้องโทรกลับแล้วแจ้งข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อเปิดบัตรกับหมายเลขซึ่งไม่ใช้ของบริษัทบัตรเครดิต เป็นต้น ดังนั้น ควรต้องตั้งสติ อย่าตกใจ ควรอ่านข้อมูลอย่างละเอียดและโทรสอบถามกับบริษัทบัตรเครดิตโดยตรง จะช่วยให้ผู้ใช้บริการบัตรเครดิตไม่ตกเป็นเหยื่อกลุ่มคนผู้ไม่ประสงค์ดี
อ่านเพิ่มเติม >> บัตรเครดิตหาย ทำไงต่อ ?! <<
การป้องกันตนเองจากบัตรสูญหาย
หากทำบัตรเครดิตหาย เจ้าของบัตรเครดิตต้องรีบแจ้งระงับการใช้บัตรเครดิตดังกล่าวกับบริษัทเจ้าของบัตร และแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อทำบันทึกบัตรสูญหาย มิเช่นนั้น เจ้าของบัตรเครดิตอาจต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากการชำระค่าสินค้าและบริการทางบัตรเครดิตที่ตนไม่ได้เป็นผู้ใช้จ่าย
การป้องกันตนเองหลังจากชำระค่าสินค้าและบริการทางบัตรเครดิต
การหมั่นตรวจสอบยอดการใช้จ่ายและเงินเครดิตคงเหลือของบัตรเครดิต เป็นสิ่งสำคัญพอ ๆ กับการตรวจสอบแหล่งจำหน่ายจำหน่ายสินค้าและบริการ ซึ่งผู้ใช้บริการบัตรเครดิตจะได้รับใบแจ้งหนี้เมื่อครบกำหนดรอบชำระ ดังนั้นต้องตรวจสอบยอดการใช้จ่ายตามใบแจ้งหนี้กับใบเสร็จรับเงินที่ได้จากร้านค้าต่าง ๆ ว่าตรงกันหรือไม่ หากไม่ตรงกันควรโทรแจ้งกลับไปทางบริษัทบัตรเครดิตและหาสาเหตุของการเกิดยอดค่าใช้จ่ายดังกล่าว มีอีกวิธีหนึ่งที่สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอใบแจ้งหนี้ คือ บริการแจ้งยอดใช้จ่ายหลังจากรูดชำระค่าสินค้าและบริการด้วยบัตรเครดิต จะเป็นการป้องกันผู้ใช้บัตรเครดิตได้ทางหนึ่งและช่วยให้ผู้ใช้บัตรเครดิตได้ทราบด้วยว่า บัตรเครดิตของตนเองได้ถูกทำการคัดลอกข้อมูลเพื่อทำบัตรปลอมหรือไม่
เทคนิคการป้องกันตนเองจากการ ใช้บัตรเครดิต เป็นสิ่งช่วยให้ผู้ใช้บัตรเครดิตมีความปลอดภัยในการใช้บัตรเครดิตมากขึ้น ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือวิธีการขโมยข้อมูลบัตรเครดิตใหม่ ๆ ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนตราบใดที่บัตรเครดิตยังเป็นเสมือนเป็นเงินสดล่วงหน้าที่จะสร้างประโยชน์ให้กับมนุษย์ได้