สาหร่ายพวงองุ่น หรืออีกชื่อที่เรียกกันคือ สาหร่ายช่อพริกไทย พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมจากกลุ่มคนรักสุขภาพ ซึ่งเชื่อกันว่าต้นตำหรับของการรับประทาน สาหร่ายพวงองุ่นนั้นมาจากญี่ปุ่นที่มักนิยมทานกันโดยเรียกกันว่า คาเวียร์สีเขียว ซึ่งมักทานกับโชยุ และนำมาประดับตกแต่งอาหารต่างๆ ซึ่งสาหร่ายพวงองุ่นจะไม่มีรสชาติ และพบมากในแถบทะเลญี่ปุ่น ที่โอกินาว่า ฟิลิปปินส์ และไทย
ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาการ เพาะเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น ในแถบชายฝั่งจังหวัดพังงา ซึ่งเมื่อก่อนนั้นชาวไทยแถบทะเลอันดามันรู้จักกันมานานแล้วแต่ไม่ได้แพร่หลายมายังถิ่นอื่นๆ รับประทานกันในท้องถิ่นเท่านั้น แต่ปัจจุบันได้รับความสนใจจากหน่วยงานราชการ รวมถึงโครงการพระราชดำริด้วย จึงได้มีกาสอนการเพาะเลี้ยงทั้งแบบธรรมชาติตามชายฝั่ง และเลี้ยงในพื้นที่อื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างรายได้ และในส่วนของโครงการพระราชดำรินั้นจะมีการจำหน่ายน้ำทะเลเทียมที่เหมาะสมกับการเพาะเลี้ยงด้วย เพื่อให้สามารถเติบโตได้ผลดีนั้นค่าความเค็มของน้ำทะเลเทียมจะต้องมีการควบคุมอย่างถูกวิธี และผู้ที่สนใจอยากเพาะเลี้ยงควรจะผ่านการอบรมเพื่อทำความเข้าใจถึงลักษณะการเติบโตและการจัดเก็บผลผลิตในการจำหน่าย
ซึ่งปัจจุบันนี้นั้น สาหร่ายพวงองุ่นถือว่ามีราคาสูงมากและจะต้องผ่านการคัดเกรดเช่น เกรด A จะอยู่ที่ราคาประมาณ 500 บาท/kg เกรด B ราคาประมาณ 400 บาท/kg และเกรด C ราคาประมาณ 250-300 บาท/kg เกรด แต่ถ้าเป็นแบบคละเกรดจะราคา 220-270 บาท/kg นับว่าราคาสูงเลยทีเดียวแต่การเลี้ยงสาหร่ายพวงองุ่น จะมีต้นทุนคือ การดูแลระบบน้ำ อากาศ ในโรงเพาะเลี้ยงซึ่งต้องลงทุนพอสมควร แต่ระยะเวลาการเพาะเลี้ยงและเก็บเกี่ยวนั้นเพียง 6 สัปดาห์เท่านั้น ถือว่าสามารถสร้างรายได้ให้ผู้เพาะเลี้ยงได้เร็วพอสมควร
คุณค่าทางอาหารมากมายเพราะสาหร่ายพวงองุ่น มีสารอาหารหลายอย่าง เช่น วิตามินเอ, บี, ซี, อี, และเค ที่ร่างกายดูดซับได้ง่ายและมาจากธรรมชาติโดยตรง ซึ่งสามารถช่วยปรับสมดุลในร่างกาย รักษาความชุ่มชื้นของเซลล์ผิว อีกทั้งบำรุงสมอง บำรุงเส้นผม ทั้งยังมีงานวิจัยอีกหลายสถาบันที่เชื่อว่าสาหร่ายให้ผลเป็นยาในการต่อต้าน และยับยั้งเซลล์ผิดปกติ หรือมะเร็ง อีกทั้งเป็นแหล่งอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ มีกากใยสูงป้องกันท้องผูกและริดสีดวงทวาร เหมาะสำหรับผู้ต้องการลดความอ้วน และเป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย นอกจากนี้ในสาหร่ายยังมีแร่ธาตุที่สำคัญ คือ มีแมกนีเซียม ช่วยให้กล้ามเนื้อ และประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีแคลเซียมบำรุงกระดูก มีโปแตสเซียมที่ช่วยควบคุมการทำงานของเซลล์ในร่างกาย และปรับความสมดุลของน้ำในร่างกาย มีธาตุสังกะสีช่วยเสริมระบบคุ้มกัน มีไอโอดีนป้องกันและรักษาโรคคอพอก และมีเบต้าแคโรทีนที่ต้านอนุมูลอิสระและมะเร็ง แล้วก็ยังมีกรดอมิโนที่จำเป็นหลายชนิดที่ไม่พบในพืชบก ถึงแม้จะมีรสเค็มแต่ปริมาณเกลือต่ำ และมีปริมาณไขมันต่ำ ให้พลังงานน้อยแต่มีคุณค่าทางอาหารสูง มีประโยชน์ต่อสุขภาพเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันสูง และโรคหัวใจ เรียกว่าคุณประโยชน์นั้นมหาศาลจริงๆและแนะนำว่าการทานสดๆได้ประโยชน์มากกว่าการทานในรูปแบบของสารสกัด และสาหร่ายพวงองุ่น สามารถนำมาทำเมนูได้หลากหลาย หรือทานเล่นๆแบบชาวใต้ที่นิยมกันก็ยังได้
ใครที่สนใจอยากเป็นเกษตรกรยุคใหม่ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยเพราะเลี้ยงพืชเศรษฐกิจอย่างสาหร่ายพวงองุ่น แนะนำให้หาข้อมูลและติดต่อไปที่ โครงการฟาร์มทะเลตัวอย่างตามแนวพระราชดำริ จ.เพชรบุรี จะได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ได้ความรู้และแนวทางในการประกอบอาชีพ อีกทั้งยังมีการจำหน่ายสาหร่ายพวงองุ่น ในราคาถูกใครที่ทำร้านอาหาร หรือทำอาหารโฮมเมดขายน่าจะลองนำมาทำเป็นเมนูเด็ดประจำร้านเพิ่มมูลค่าและเมนูอาหารใหม่ๆได้อีก และที่น่าสนใจคือ สาหร่ายพวงองุ่น เลี้ยงได้ทั้งแบบธรรมชาติชายฝั่ง เลี้ยงได้ในบ่อน้ำทะเล หรือแม้แต่เลี้ยงในบ่อปูน หรือถังน้ำสำหรับเพาะเลี้ยง แต่ต้องได้รับคำแนะนำที่ถูกวิธีและถูกต้องรับรองว่าเงินทุนที่ลงไปได้กำไรกลับมาอย่างคุ้มค่าแน่นอน