การโจมตีในปารีสแสดงสิ่งที่แย่ที่สุดและดีที่สุดของโซเชียลมีเดีย
เกิดการตื่นตัวจากการโจมตีใน Charlie Hebdo ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสได้มีการออกกฎหมายใหม่เพื่อหยุดการใช้คำพูดที่แสดงความเกลียดชังบนเครือข่ายสังคมออนไลน์โดยผู้สนับสนุนกลุ่ม ISIS ที่มีการใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวประสานงานกับผู้ก่อการร้ายของพวกเขาด้วย
ฮาร์เล็ม ดีเซอร์ รัฐเลขานุการประสานงานยุโรป เสนอกรอบทางกฎหมายระหว่างประเทศที่จะทำให้ Facebook และ Twitter ของคุณมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบ เมื่อมีการกระจายข้อความสำหรับโปรโมทการใช้ความรุนแรง
แต่การโจมตีซึ่งส่งผลกระทบต่อการที่เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศสเมื่อวานนี้แสดงให้เห็นว่าโลกโซเชียลมีเดียมีบทบาทในเชิงบวกขึ้นมาก
การตรวจสอบความปลอดภัยของ Facebook ถูกเปิดใช้งาน เริ่มนำมาใช้ในเดือนตุลาคม 2014 เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ในพื้นที่ที่มีความเสียหายจาก สถานการณ์ในปารีส เกิดขึ้นได้โดยการบอกให้ เพื่อนใน Facebook ของพวกเขาเห็นว่าพวกเขาปลอดภัยดี นอกจากนี้ Twitter ยังมีส่วนช่วยด้วย ประชาชนพลเมืองใช้แฮชแท็ก #porteouverte เพื่อเสนอความช่วยเหลือเรื่องที่พักอาศัยให้ผู้ได้รับความเสียหาย
แฮชแท็กที่สำคัญอีกหนึ่งอันคือ #rechercheParis กำลังถูกใช้ในการค้นหาบุคคลอันเป็นที่รักที่สูญหายไป และถูกพบเห็นเห็นครั้งสุดท้ายใกล้กับสถานที่ที่ถูกโจมตี
#ParisAttacks และ #FranceUnderAttack ใช้แพร่กระจายและการปรับปรุงข้อมูลเกี่ยวกับการโจมตี
ในขณะที่ #PrayForParis จะรวบรวมข้อความแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และสนับสนุน เพื่อเหยื่อและเพื่อนประชาชน
แต่ก็ไม่ได้มีแต่ด้านดีเท่านั้น ยามเกิดเหตุร้ายมันยังเป็นแหล่งปล่อยข้อมูลผิดๆได้อย่างง่ายดาย ดังเช่น เดฟ ลี นักข่าว BBC กล่าวไว้ว่า ท่ามกลางความสับสน มันยากมากในการแยกแยะความแตกต่างระหว่างข่าวลือกับข่าว เมื่อมีผู้ลี้ภัยในค่ายที่ Calai ถูกวางเพลิง ยกตัวอย่างเช่น บางคนที่ทวีตว่า มันเกิดขึ้นเพื่อการแก้แค้น ในขณะที่มีความเป็นไปได้ว่า เนื่องจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรก็เป็นได้
ขอบคุณที่มา : http://www.forbes.com/sites/federicoguerrini/2015/11/14/attacks-in-paris-highlight-the-worst-and-best-of-social-media/