โลกเสมือนบนอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทต่อรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้คนในทุกวันนี้ เนื่องจากความรีบเร่งในการใช้ชีวิต กิจกรรมทุกอย่างถูกกำหนดตามเข็มบนหน้าปัดนาฬิกา คนบางกลุ่มจึงต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง เช่น การจับจ่ายซื้อสินค้าเพื่ออุปโภคและบริโภค การหาแหล่งสร้างความบันเทิง การหาแหล่งข้อมูลความรู้ เป็นต้น ซึ่งนั้นทำให้ธุรกิจออนไลน์บนอินเทอร์เน็ตเกิดขึ้น และมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะสร้างความสะดวกรวดเร็ว ง่ายในการเข้าถึง และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
โดยเฉพาะการซื้อสินค้าออนไลน์ที่มีหลากหลายประเภทให้เลือกสรร เช่น เครื่องแต่งกาย เครื่องประดับ เครื่องสำอาง ของเล่น อาหาร แผ่นดีวีดีภาพยนตร์ แผ่นเกม และสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ เป็นต้น รวมทั้งสินค้าประเภทบริการต่าง ๆ เช่น e-book การชมภาพยนตร์ในรูปแบบ streaming เป็นต้น
การชำระเงินเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์ มีหลายรูปแบบ เช่น ชำระตัดบัญชีธนาคาร ชำระแบบ Paypal และชำระด้วยบัตรเครดิต ซึ่งการ ซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต เป็นการทำธุรกรรมรูปแบบเดียวที่ผู้ซื้อต้องกรอกข้อมูลรายละเอียดบัตรเครดิต ทั้ง ชื่อบนบัตรเครดิต เลขบัตรเครดิต 16 หลัก วันหมดอายุ และรหัส CVV (บัตรเครดิตVISA) หรือ รหัส CVV2 (บัตรเครดิต Master Card) นั่นย่อมทำให้เกิดความเสี่ยงแก่ผู้ใช้จ่ายซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต ที่อาจโดยขโมยข้อมูลโดยไม่รู้ตัว ดังนั้น ผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ต้องเพิ่มความระมัดระวัง เมื่อคิดจะใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าออนไลน์ โดยก่อนซื้อสินค้าออนไลน์ผู้ซื้อต้องสังเกต ตรวจสอบ และหาวิธีป้องกัน เพื่อให้การเลือกซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตไม่ใช่สิ่งที่น่ากังวลอีกต่อไป
อ่านเพิ่มเติม >> ใช้เงิน ซื้อของออนไลน์ ไม่มีบัตรเครดิต ทำอย่างไร <<
คำแนะนำ 2 ข้อหลัก ในการสร้างความปลอดภัยเมื่อต้องใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าออนไลน์ คือ การตรวจสอบผู้ขาย และการป้องกันตัวของผู้ซื้อ หรือผู้ใช้บริการ ดังนี้
1.การตรวจสอบผู้ขาย หรือเว็บไซต์ ประกอบด้วย
1.1 การสังเกตหน้าเว็บไซต์
ผู้ใช้บริการ ควรตรวจดูทุกหน้าของเว็บไซต์ใช้บริการ ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น รายละเอียดติดต่อผู้ขายได้ระบุไว้หรือไม่ หน้าเว็บบอร์ดแสดงการสนทนาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมากน้อยเพียงใด ข้อมูลรายละเอียดวิธีการสั่งซื้อ การชำระเงิน และเนื้อหาข้อมูลสินค้าที่จำหน่ายครบถ้วน น่าเชื่อถือหรือไม่ สังเกตจำนวนผู้เข้าชมมีมากน้อยเพียงใด เป็นต้น หากเว็บไซต์แสดงข้อมูลต่าง ๆ อย่างละเอียด และมีจำนวนผู้เข้าชมและผู้ใช้บริการจำนวนมาก ก็เป็นหนึ่งสิ่งที่สามารถสร้างความมั่นใจในการซื้อสินค้าออนไลน์ได้
1.2 ข้อมูลการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ร้านค้าที่มีการจดทะเบียนพาณิชย์กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จะได้รับเลขทะเบียนพาณิชย์ซึ่งต้องแสดงไว้หน้าเว็บไซต์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะมีข้อมูลรายละเอียดของผู้ขายทั้งหมด และผู้ซื้อสินค้าออนไลน์สามารถตรวจสอบร้านค้าใช้บริการได้ด้วย ว่าได้รับการขึ้นทะเบียนจริงหรือไม่ ดังนั้น ร้านค้าที่มีเลขทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จึงมีความปลอดภัย หากจะใช้บริการซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต
1.3 ลักษณะ URL บนหน้าเว็บไซต์
เว็บไซต์ที่ต้องการสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการ ลักษณะ URL เมื่อทำรายการชำระค่าสินค้าออนไลน์จะขึ้นต้นด้วย https:// และมีรูปแม่กุญแจแสดงขึ้นด้านหน้า URL นั้น ๆ ซึ่งหมายความว่า เว็บไซต์นั้นมีการตั้งระบบความปลอดภัย ให้ข้อมูลที่ผู้ใช้บริการกรอกถูกเข้ารหัสก่อนการส่งไปยังตัวเซิร์ฟเวอร์ของผู้ให้บริการ เพื่อป้องกันการดักจับข้อมูลจากผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ดังนั้นควรสังเกตลักษณะของ URL ก่อนทำรายการชำระเงินค่าสินค้าออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต และหากเว็บไซต์ใดไม่มีลักษณะดังกล่าว พึงต้องระมัดระวัง และอาจเลี่ยงใช้บริการ
1.4 สัญลักษณ์ Verified by VISA หรือ Master Card Secure Code
เว็บไซต์ที่ให้บริการชำระค่าสินค้าออนไลน์ด้วยบัตรเครดิตประเภท VISA หรือ Master Card และเป็นหนึ่งในร้านค้าที่ร่วมโครงการ จะมีการระบุสัญลักษณ์ Verified by VISA หรือ Master Card Secure Code ไว้ในเว็บไซต์ ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัทบัตรเครดิตในเครือธนาคารพาณิชย์ต่าง ๆ (ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ฯลฯ) หรือบริษัทบัตรเครดิตของสถาบันการเงินประเภทอื่น (อิออน ฯลฯ ) กับบริษัทบัตร VISA หรือ Master Card เพื่อสร้างระบบป้องกันความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับผู้ใช้บริการ ดังนั้น ควรใช้บริการกับเว็บไซต์ที่มีสัญลักษณ์ดังกล่าวเพื่อสร้างความมั่นใจในการชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต
2.การป้องกันตัวของผู้ซื้อ หรือผู้ใช้บริการ ประกอบด้วย
2.1 การสมัครสมาชิกระบบ Verified by VISA หรือ Master Card Secure Code
การเป็นสมาชิกระบบความปลอดภัยของบัตรเครดิต VISA หรือ Master Card จะช่วยให้ผู้ใช้บริการมีความปลอดภัยเมื่อซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต เพราะทุกครั้งตัดชำระค่าสินค้าผ่านบัตรเครดิต จะมี SMS ทางโทรศัพท์มือถือ แสดง รหัส OTP ซึ่งเป็นรหัสที่ใช้เพียงครั้งเดียวในการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง และมีระยะเวลาการใช้งานตามกำหนดเวลา เช่น ต้องใช้ภายใน 5 นาที ไม่เช่นนั้นรหัส OTP จะไม่สามารถใช้งานได้ ทำให้ผู้ใช้บริการต้องขอรหัส OTP ใหม่อีกครั้ง เป็นต้น ซึ่งการสมัครใช้บริการสามารถสมัครได้กับบริษัทบัตรเครดิตที่ผู้ถือบัตรใช้บริการอยู่ หรือสมัครผ่านทางเว็บไซต์ผู้ขายสินค้า หากเว็บไซต์ดังกล่าวเข้าร่วมโครงการ
2.2 ทำธุรกรรมอย่างระมัดระวัง
เมื่อต้องกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเพื่อชำระค่าสินค้าออนไลน์ ผู้ใช้บริการต้องสังเกตและกรอกข้อมูลการทำธุรกรรมอย่างรอบคอบ ซึ่งหากเว็บไซต์ใดให้บริการชำระค่าสินค้าด้วยบัตรเครดิต แต่ไม่มีระบบสร้างความปลอดภัย เช่น ข้อ 1.3 หรือ 1.4 เพียงแค่กรอกข้อมูลเลขบัตรเครดิต วันหมดอายุ และ/ หรือ รหัส CVV หรือ CVV2 (เลข 3 ตัว หลังบัตรเครดิต) ก็สามารถทำธุรกรรมชำระค่าสินค้าได้สำเร็จ ผู้ใช้บริการก็ควรเปลี่ยนไปใช้บริการเว็บไซน์อื่นแทน เพราะมีความเสี่ยงที่ข้อมูลดังกล่าวจะรั่วไหลถึงผู้ไม่ประสงค์ดี เช่น เว็บไซต์ผู้ขายสินค้า หรือ บุคคลที่ทราบข้อมูลบนบัตรเครดิตนำข้อมูลลับไปใช้เพื่อทำธุรกรรมทางการเงินอื่น โดยที่เจ้าของบัตรเครดิตไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
2.3 ตรวจสอบหลังทำธุรกรรม
ภายหลังการซื้อสินค้าด้วยบัตรเครดิต ควรตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลที่ทำธุรกรรม และจดบันทึกข้อมูลการซื้อสินค้าทุกครั้ง เช่น วันชำระบัตรเครดิต ยอดตัดชำระบัตรเครดิต เว็บไซต์ที่ซื้อสินค้าออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนั้น เมื่อได้รับใบแจ้งหนี้บัตรเครดิตทุกรอบบัญชี หรือสมัครสมาชิกออนไลน์กับบริษัทบัตรเครดิตเพื่อดูยอดการใช้จ่ายในแต่ละครั้ง ควรสอบทานกับข้อมูลที่ได้จดบันทึกไว้ หรือเอกสารที่ได้จากผู้ขายสินค้าออนไลน์ว่าตรงกันหรือไม่ ซึ่งหากมีข้อสงสัย หรือมีรายการที่ไม่ได้เป็นผู้ทำรายการด้วยตนเอง ควรรีบสอบถามและแจ้งบริษัทบัตรเครดิตเพื่อให้ตรวจสอบหรือระงับการใช้บัตรเครดิต หากบัตรเครดิตถูกลักลอบใช้โดยบุคคลอื่น
2.4 สมัครใช้บริการ SMS เพื่อแจ้งยอดเงินการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
ผู้ใช้บริการบัตรเครดิตควรจะสมัครบริการแจ้งยอดการใช้จ่ายแบบทันทีทาง SMS หรือทาง e-mail กับทางบริษัทบัตรเครดิต เพื่อเป็นเครื่องช่วยเตือนการใช้จ่ายทุกครั้ง และทำให้ทราบว่านอกจากเจ้าของบัตรเครดิตแล้ว ยังมีการใช้บริการตัดชำระผ่านบัตรเครดิตโดยบุคคลอื่นหรือไม่
การ ซื้อสินค้าออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต เป็นทางเลือกหนึ่งที่ได้รับความนิยมในยุคนี้ เพราะสะดวก และรวดเร็ว ทั้งการตัดชำระ และไม่จำเป็นต้องมีเงินสดติดบัญชีธนาคารเพื่อโอนชำระค่าสินค้า เพียงแค่ใช้วงเงินเครดิต ซึ่งเสมือนเป็นเงินในอนาคตที่บริษัทเครดิตให้ไว้เท่านั้น
นอกจากนั้นการใช้บัตรเครดิตชำระค่าสินค้ายังได้แต้มคะแนนสะสม เพื่อใช้แทนเงินสดหรือเพื่อใช้แทนสิทธิประโยชน์อื่น ๆ แม้การใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้าออนไลน์จะมีข้อดีอยู่มาก แต่ก็ต้องพึงระวังรอบคอบ ตรวจสอบและป้องกันล่วงหน้าอยู่เสมอหากจำเป็นต้องใช้บัตรเครดิต เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่างให้เหล่ามิจฉาชีพแสวงหาผลประโยชน์ได้
ช้อปปิ้งออนไลน์ จ่ายด้วยบัตรเครดิต สะดวกกว่า พิเศษ!! โปรโมชั่น สมัครบัตรเครดิตออนไลน์วันนี้ รับเงินคืน 1,000 บาท! >> คลิกเลย!