การมีหนี้นั้น ถ้าเลือกได้คงไม่มีใครอยากมี แต่การมีหนี้หลาย ๆ ครั้งก็มีความจำเป็น เนื่องจากเป็นการสร้างฐานสถานะให้ตัวเองและครอบครัวในอนาคต เช่น หนี้ซื้อบ้าน หนี้เพื่อธุรกิจ นักธุรกิจมีเงินทุนสะสมมากมาย แต่ก็เลือกกู้หนี้มาเพื่อลงทุนขยายกิจการแทนใช้ทุนของตัวเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าการนำเงินลงทุนจากหนี้ มีต้นทุนที่ถูกกว่าทุน ส่วนบุคคลทั่วไปอาจกู้หนี้มาเพื่อใช้จ่ายจำเป็น ฉุกเฉินเพราะกระแสเงินสดขาดมือ ต่างคนต่างเหตุผล แต่ทุกคนที่อยู่ในโลกของทุนนิยมล้วนแล้วมีหนี้กันหมด
ซึ่งแท้จริงแล้วหนี้นอกระบบอาจมีได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การยืมเงินระหว่างเพื่อนด้วยกัน ไปจนกู้หนี้แบบดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อวัน รวมแล้วหนี้นอกระบบหมายถึงการกู้ยืมที่ไม่ได้ผ่านสถาบันการเงินซึ่งเป็นที่ยอมรับและรับรองโดยกฎหมาย
เหตุใดถึงต้องมีหนี้นอกระบบ ในเมื่อเมืองไทยมีสถาบันการเงินมากมาย และพร้อมจะปล่อยกู้ในดอกเบี้ยที่ถูกกว่า เป็นธรรมกว่า
คำตอบ คือ หนี้ตามระบบ หรือในระบบไม่สามารถเข้าถึงได้โดยคนที่มีอาชีพอิสระ เช่น แม่ค้าขายข้าวแกง คนขายของเก่า เป็นต้น เพราะธนาคาร หรือสถาบันการเงินจะคัดกรองผู้กู้โดยดูจากสิ่งที่สามารถยืนยันตรวจสอบได้ เช่น รายได้ที่แน่นอน ระยะเวลาการทำงาน หรือเครดิตคนค้ำประกัน ถ้าผู้กู้ทำงานประจำมีรายได้เดือนละ 15,000 บาท อาจมีโอกาสเข้าถึงการกู้หนี้ในระบบได้มากกว่าผู้กู้ที่ทำอาชีพขับรถแท๊กซี่ที่มีรายได้เฉลี่ยเดือนละ 35,000 บาท ทั้งนี้เพราะธนาคารดูตามหลักฐานทางการเงินที่พิสูจน์ได้ หากผู้กู้รายได้แน่นอน 15,000 บาท ธนาคารจะประเมินศักยภาพในการชำระคืนของผู้กู้ได้ง่ายกว่าคนขับแท๊กซี่ เพราะถึงแม้จะมีรายได้ 35,000 บาทต่อเดือน แต่เงินได้อาจไม่เคยเข้าบัญชีธนาคารเลย เพราะเมื่อได้เงินมาก็ใช้ไป อาจมีเหลือเป็นเงินออมบ้าง แต่นั่นหมายความว่าหลักฐานทางการเงินไม่ปรากฏ ธนาคารย่อมไม่สามารถประเมินศักยภาพในการจ่ายคืนหนี้ได้
แต่ในเมื่อทุกคนก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินเช่นเดียวกัน ไม่ว่าใครจะทำอาชีพอะไร เช่น แม่ค้าขายอาหาร บังเอิญวันนี้เงินหมด แต่จำเป็นต้องใช้เงินสดมาซื้อของก่อน ถ้าเดินไปปรึกษาธนาคาร ธนาคารคงไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่ถ้ายกหูโทรหาอาบังเจ้าเก่า ดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาท (ต่อวัน) อีกไม่เกิน 2 ชั่วโมงแม่ค้าก็จะได้เงินสดมาซื้อของต่อทุนทันที เมื่อพรุ่งนี้ขายอาหารได้ ก็เรียกอาบังมาเก็บเงินทั้งต้นทั้งดอก แต่ถ้าขายไม่ดี ก็อาจจ่ายคืนบางส่วนก่อน หนี้ส่วนที่เหลือก็ค่อยจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ยวันหลัง
อ่านเพิ่มเติม >> ทางออกหนี้นอกระบบ <<
ตัวอย่างของ แม่ค้าขายอาหาร ถือเป็นตัวอย่างของหนี้นอกระบบที่จัดการได้ ถึงแม้ดอกเบี้ยจะแพงกว่าธนาคารมาก แต่รวดเร็ว ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องการหลักฐาน คนค้ำประกันก็ไม่จำเป็น อาบังอาจรับความเสี่ยงสูงอยู่สักหน่อย แต่ก็ได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า (High Risk High Return)
แต่ถ้าแม่ค้าคนเดิม จำเป็นต้องใช้เงินก้อน 10,000 บาท เพราะต้องใช้เงินฉุกเฉิน อาจขอกู้จากอาบังคนเดิม แต่อาบังใจดีลดให้เหลือ 1.50 บาท หมายความว่าร้อยบาทบังขอบาทห้าสิบสตางค์ เมื่อได้เงินแล้ว แม่ค้ามีหน้าที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยให้บังทุกวัน ๆ ละ 150 บาท บังพวกนี้จะเดินเก่งมาก ขยันเดิน เก็บเจ้าละยี่สิบบาทร้อยบาท ลองคิดเล่น ๆ ถ้าบังมีเงินก้อนแค่แสนเดียว บังมีรายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 1,500 บาท เดือนหนึ่งได้ 30,000 บาทอย่างง่าย ๆ เรียกว่า return อาบังถึง 30% ต่อเดือนเลยทีเดียว
ถ้าแม่ค้าสามารถหาเงินจ่ายดอกโปะต้นได้ตลอดก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเกิดเงินขาดมือหรือไม่สามารถขายข้าวได้ ก็จะไม่มีรายได้มาจ่ายดอกเบี้ย ดอกค้างรายวันทบต้นไปเรื่อย ๆ ถ้าเข้ารูปแบบนี้จะต้องระวังให้มาก เพราะถ้าดอกทบต้นเพียง 1 สัปดาห์ ฐานเงินต้นจะพุ่งสูงไปถึง 11,098 บาท ถึงบทนี้อาบังใจดีอาจแปลงร่างเป็นอาบังขาโหด หากแม่ค้ามีท่าทียึกยักจะไม่จ่ายหนี้
เมื่อใดก็ตามที่การจัดการหนี้เริ่มไม่เป็นไปตามกำหนด ก็อาจเป็นจุดเริ่มของความเลวร้ายทุกสิ่งที่คนเป็นหนี้คนหนึ่งอาจจะเผชิญได้ ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่หนี้นอกระบบยังอยู่ในจุดที่จัดการได้ ให้ระลึกถึงเหตุการณ์สุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้น เช่น ฝนตกขายของไม่ได้ คุยกับมนุษย์ ๆ ยังเข้าใจ แต่คุยกับดอกเบี้ย ๆ ไม่เข้าใจ และต้องทำหน้าที่ของมันต่อไปเรื่อย ๆ แต่ในเมื่อเหตุการณ์ฉุกเฉินไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ถ้าจำเป็นต้องกู้เงินฉุกเฉินแล้วจะมีทางเลือกอื่นหรือไม่
การกู้หนี้นอกระบบกับเงินก้อนฉุกเฉินนั้นถือว่าอันตรายอย่างมาก เพราะดอกเบี้ยไม่เป็นธรรมและคิดเป็นรายวัน แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าผู้กู้ยังหากินเหมือนเดิมแล้วจะมีเงินก้อนไปจ่ายต้นของเงินกู้นอกระบบ ทางที่ดีและปลอดภัยกว่าคือการเข้าสู่เงินกู้ในระบบ ที่เรียกว่าบัตรกดเงินสด หรือที่เรียกว่าบัตรเงินกู้ หากประเมินตนแล้วรู้ว่ามีภาวะเสี่ยง เนื่องจากหาเงินเดือนชนเดือน หาเช้ากินค่ำ เมื่อเกิดต้องใช้เงินฉุกเฉินแล้วไม่มีให้ใช้ ก็ให้สมัครบัตรกดเงินสดไว้ก่อนเลย ซึ่งกระบวนการอนุมัติไม่ยากมาก มีแล้วให้เก็บไว้ยังไม่ต้องใช้ และกดใช้เมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น เมื่อเทียบดอกเบี้ยแล้ว บัตรกดเงินสดอยู่ที่ 28%ต่อปี ซึ่งเทียบไม่ได้กับดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบซึ่งดอกเบี้ยเป็นหลักพันเปอร์เซ็นต์ต่อปี
อ่านเพิ่มเติม >> กู้สินเชื่อสถาบันการเงิน มาปิดหนี้นอกระบบ ถูกต้องไหม <<
เงินกู้นอกระบบ อาจจะเข้าถึงได้ง่ายกับทุกคน แต่พึงระลึกไว้เสมอว่าเมื่อได้ง่ายอาจต้องแลกด้วยดอกเบี้ยจำนวนมหาศาล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเงินกู้นอกระบบจะไม่ดีเสมอไป หากอยู่ในกรอบที่สามารถจัดการได้ ก็ย่อมได้ประโยชน์กับเรา แต่เมื่อไหร่ที่เกินกำลังจัดการ ก็จะเป็นอันตรายกับทั้งสถานะการเงินและชีวิตได้โดยไม่ทันตั้งตัว ทางเดียวจัดการกับดอกเบี้ยที่เกินกำลังคือพยายามเข้าสู่ระบบให้เร็วที่สุด กู้จากบัตรเงินสดและนำไปปิดเงินกู้นอกระบบก่อน แล้วค่อยหาวิธีจัดการเงินกู้จากบัตรภายหลัง ซึ่งเป็นทางออกที่ดีกว่า