ในโลกของ Freelance บ่อยครั้งที่การประสานงานกับลูกค้าเป็นไปด้วยความราบรื่น และอาจมีบางครั้งที่เกิดความผิดพลาดในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง ทำให้ Freelance ถูกเบี้ยวค่าจ้างได้ ดังนั้นการทำสัญญาเพื่อระบุรายละเอียดการจ้างงาน จึงถือว่าสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะใน สัญญาจ้างงาน นั้นจะระบุรายละเอียดทั้งหมดที่ตกลงเจรจากันเอาไว้ รวมไปถึงรายละเอียดต่างๆของลูกค้า เพื่อให้คุณสามารถติดตามตัวได้เร็วขึ้น หากพวกเขาเกิดเบี้ยวค่าจ้างขึ้นมาจริงๆ
อ่านเพิ่มเติม >> ฟรีแลนซ์ ความเสี่ยง และข้อจำกัดที่ควรรู้ <<
เอกสารสัญญา หมายถึง เอกสารที่ระบุรายละเอียดการจ้างให้ทำงาน ระหว่างผู้จ้าง และผู้รับจ้าง ซึ่งก็คือตัว Freelance นั่นเอง โดยมีรายละเอียดระบุถึงระยะเวลาในการทำงาน จำนวนเงินค่าจ้าง ค่ามัดจำ หรือแบ่งจ่ายรายงวด และค่าปรับหากงานที่ว่าจ้างไม่เสร็จตามกำหนด เป็นต้น ซึ่งรายละเอียดต่างๆที่ควรกำหนดไว้ในหนังสือสัญญานั้น มีดังนี้
1 .จำนวนครั้งในการแก้ไขงาน และจำนวนแบบที่จะส่งให้พิจารณา
ควรระบุรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวกับเนื้องาน เช่น จำนวนครั้งในการแก้ไขงาน และจำนวนแบบที่จะส่งให้ลูกค้าเลือก เพื่อป้องกันการทำงานที่ไม่รู้จบ และทำให้เสียเวลาในการรับงานจากท่านอื่นๆ ควรระบุไว้ให้ละเอียดว่าในครั้งนี้ที่รับงาน ลูกค้าสามารถแก้งานได้กี่ครั้ง และต้องการดูตัวอย่างงานจำนวนกี่แบบ เป็นต้น
2. ระบุจำนวนเงินมัดจำ และค่าจ้างโดยละเอียด
ส่วนนี้ถือว่าสำคัญมาก คุณควรระบุให้ชัดเจนตั้งแต่ในสัญญา ว่าค่ามัดจำที่ลูกค้าต้องจ่าย เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ รวมไปถึงค่าจ้างทั้งหมด ว่าตกลงกันที่ราคาเท่าไหร่ อย่าลืมทำช่องเล็กๆให้มาร์คเครื่องหมายเอาไว้ด้วย ว่าชำระแล้ว หรือยังไม่ชำระ พร้อมลายเซ็นต์ลูกค้าและคุณ กำกับคู่กันอีกครั้งว่าชำระแล้วในวันที่เท่าไหร่ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันการถูกโกงได้นั่นเอง และที่สำคัญอย่าลืมทำสัญญาไว้สอง ฉบับ โดยไว้ที่ลูกค้า 1 ฉบับและที่ตัวคุณเอง 1 ฉบับ จะได้มั่นใจได้มากขึ้นว่าไม่ถูกโกงแน่นอน
3. ระบุให้ชัดเจน ว่าลิขสิทธิ์เป็นของใคร
เพราะในบางชิ้นงาน ลูกค้าจะเหมาเอาเองโดยอัติโนมัติ ว่างานนี้เป็นลิขสิทธิ์ของเขาแล้วโดยสมบูรณ์ หากคุณมองว่าค่าจ้างในการทำงานชิ้นนี้ ตกลงราคากันในระดับที่ไม่สมควรจะได้ลิขสิทธิ์ คุณก็ต้องปกป้องสิทธิของคุณด้วยการทำสัญญาข้อนี้ขึ้นมาด้วย ตรงกันข้าม หากลูกค้าจ้างให้ทำงานเฉพาะของบริษัทเขา คุณก็ต้องทำความเข้าใจว่า นั่นเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ด้วยเช่นกัน
4. ระยะเวลาในการชำระเงินหลังจากงานเสร็จสิ้นแล้ว
หมายถึงระยะเวลาที่ลูกค้าต้องโอนค่าจ้างที่เหลือทั้งหมด หลังจากได้รับงานไปแล้ว เนื่องจากช่วงเวลานี้ถือว่าเสี่ยงที่สุด เพราะมีลูกค้าหลายท่านที่ติดต่อไม่ได้ ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทเล็กๆ หรือบางท่านไม่หนี แต่ทำเนียนว่าจ่ายไปหมดแล้วก็มี
ทำให้ชัดเจนเหมือนข้อ 2 นั่นคือ ทุกครั้งที่ชำระเงินแล้ว ลูกค้าและคุณต้องเซ็นต์ชื่อกำกับพร้อมวันที่ด้วยทุกครั้ง อย่าวางใจคิดว่ายังไงก็ได้เสมอไปนะคะ เพราะเรื่องเงินอาจถูกโกงได้เสมอ หากคุณไม่ทำสัญญาให้ดีและละเอียดถี่ถ้วนซะก่อน
5. ในกรณีที่ลูกค้าไม่ให้ความร่วมมือ ส่งผลให้งานเสร็จล่าช้ากว่ากำหนด ต้องปรับเท่าไหร่
เพราะในบางครั้งคุณส่งอีเมลไป กว่าลูกค้าจะเปิดอ่าน งานก็แก้ไขไม่เสร็จตามระยะเวลาอยู่ดี แล้วสุดท้ายคุณก็ต้องมานั่งรับผิดชอบกับค่าปรับที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากความผิดของคุณเลยแม้แต่นิดเดียว
ดังนั้น ในข้อสัญญานี้ คุณก็ต้องระบุไว้ให้ชัดเจน ว่าทุกครั้งที่ลูกค้าไม่ให้ความร่วมมือในการทำงานให้เสร็จ จะต้องเสียค่าปรับเป็นเงินเท่าไหร่ เป็นต้น
6. บริการหลังการขายมีอะไรบ้าง
ในกรณีที่รับบริการถ่ายภาพนอกสถานที่ อาจมีบริการหลังการขายพ่วงเข้าไปด้วย เช่น ล้างอัดรูปได้ฟรีกี่ใบ และขนาดไหนบ้าง หรือรับใส่กรอบให้ในราคาพิเศษ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ควรระบุไว้ในสัญญาอย่างชัดเจน เพราะลูกค้าบางท่านอาจเอาเปรียบคุณซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนไม่มีเวลาปลีกตัวไปรับงานอื่น ถือว่าเป็นการทำงานที่ไม่รู้จบกันเลยทีเดียว
7. หากยกเลิกงานกลางคัน ต้องมีค่ายกเลิกงานนอกเหนือจากค่าปรับอีกด้วย
ข้อนี้ถือว่าสำคัญ เพราะการยกเลิกงานกลางคันนั้น ส่งผลเสียหายให้กับคุณหลายเรื่อง ทั้งในแง่ของเวลา และในเรื่องของความรู้สึก ซึ่งคุณอาจต้องปฏิเสธงานบางงานที่มีรายได้งดงามไป เพื่อทำงานให้กับลูกค้ารายนี้ ทำให้คุณขาดรายได้ที่ควรจะได้ไปอย่างน่าเสียดาย
ดังนั้น นอกเหนือจากค่าปรับแล้ว ค่ายกเลิกงานก็ถือเป็นหัวข้อสำคัญที่ควรระบุไว้ในสัญญาอีกด้วย เพราะอย่างน้อยๆก็จะทำให้ลูกค้าเกรงใจ ไม่กล้ายกเลิกงานก่อนกำหนด อย่างน้อยๆก็ประมาณ 80%ของลูกค้าทั้งหมดนั่นเอง ยังไงก็อย่าลืมทำสัญญาให้ครบถ้วนเพื่อผลประโยชน์ของตัวคุณเอง
อ่านเพิ่มเติม >> ดักกลโกงแบบฉบับ ชีวิตฟรีแลนซ์ มืออาชีพ <<
ทั้งหมดนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณต้องระบุไว้ให้ละเอียดใน สัญญาจ้างงาน เพื่อป้องกันการเสียผลประโยชน์ของตัวคุณเองที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เพราะสังคมสมัยนี้มีผู้คนหลากหลายความคิดมาอยู่รวมๆกัน มีทั้งคนดีและไม่ดี ดังนั้น Freelance อย่างพวกเราจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะป้องกันตัวเองไว้เสียแต่เนิ่นๆ ด้วยการทำเอกสารสัญญาการจ้างงานขึ้นมาเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งเอกสารสัญญาเหล่านี้จะช่วยทำให้คุณดูเป็นมืออาชีพในสายตาลูกค้าได้อีกด้วย