จากข่าวนี้ http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1449146997 อ่านแล้วทึ่งกับแนวความคิดและความสามารถจริงๆ นี่ถือเป็นตัวอย่างของการทำอาชีพเกษตรที่น่าสนใจจริงๆ ที่หันมาทำ ฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยว เน้นปลูกพืชเศรษฐกิจแม้ว่าจะไม่ทำส่งขายแต่แค่การขายในฟาร์มก็ถือว่าสร้างรายได้อย่างงามจริงๆ
ฟาร์มสามอังคาร ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 261 หมู่ที่ 5 บ้านหนองยาง ต.พังขว้าง อ.เมือง จ.สกลนคร ซึ่งเจ้าของฟาร์มละทิ้งชีวิตของการทำงานประจำหันมาทำเกษตรเชิงท่องเที่ยว เพราะความชอบศึกษาข้อมูลจากการอ่านหนังสือ และลองทำด้วยตัวเองซึ่งถือว่าเขามีต้นทุนที่ดีเพราะมีที่อยู่แล้วถึง 5 ไร่ไม่ต้องหาซื้อหรือเช่าทำให้ลดต้นทุนเริ่มต้นไปได้พดสมควร ซึงพืชที่ปลูกนั้นบอกเลยว่ามันช่างขัดกับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศของภาคอิสานจริงๆเพราะปลูกพืชเมืองหนาวอย่าง มะเดือฝรั่งสายพันธ์ BTM6 สตรอว์เบอร์รี เมล่อน โดยเน้นที่การทำการเกษตรของตนเองเน้นไปที่ให้การท่องเที่ยว และผู้ซื้อมานั่งทานได้ที่ฟาร์ม ไม่ขายส่ง โดยทางฟาร์มมีเมนูเด็ดที่ทำจากเมล่อนสดๆ ในฟาร์มให้ทานอย่างมีคุณค่า และประโยชน์สูงสุด โดยเมนู จะมาจากเมล่อน เช่น ไอศกรีมเมล่อน (ใหญ่-เล็ก) เมล่อนเค้กโรล เมล่อนมูสเค้ก ยำผลไม้รวม เมล่อนโทสต์ เมล่อนบิงซู ซึ่งเมนูเหล่านี้ลูกค้ามานั่งทานที่ฟาร์มได้ทุกวันไม่มีวันหยุด นอกจากนั้น ที่ฟาร์มมีพื้นที่ให้ถ่ายภาพ เหมาะสมกับทุกวัย โดยเฉพาะเด็กนักเรียนเยาวชน ซึ่งเจ้าของเขาบอกว่าหลังจากเปิดไม่นานได้มีการเข้ามาชมและเที่ยวกันมาก
บอกเลยว่าที่นี่คนมาเที่ยวที่นี่ค่อนข้างเยอะพอสมควรด้วยบรรยากาศสบายๆ วิวสวยๆและผลไม้อร่อยๆราคาถูกทำให้คนที่เดินทางมาสกลนครมักไม่พลาดที่จะต้องแวะสวนสามอังคารเพื่อชิมเมล่อนอร่อยๆหลากหลายเมนู อีกทั้งยังมีกลุ่มนักเรียน นักศึกษาที่มาศึกษาดูงานเป็นประจำทำให้ที่นี่เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้าง และมีการโปรโมทผ่านสื่อออนไลน์ด้วยยิ่งทำให้หลายคนอยากไปเที่ยวมากขึ้น และยังมีการเปิดสั่งจองทางเฟสบุ๊คที่ส่งตรงให้ถึงบ้าน แต่กาสั่งจองนั้นมีจำนวนจำกัดตามปริมาณการออกผลของแต่ละชนิดที่จะเปิดให้จอง ซึ่งเปิดจองตั้งแต่ออกผลลูกเล็กๆกันเลยทีเดียวและมีการอัพเดทการเติบโตของผลไม้ที่จองด้วย เป็นกลยุทธ์ใหม่ที่ทำให้ผู้ชื้อสนใจและสั่งจองกันเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
นี่ถือเป็นอีกตัวอย่างที่น่าเรียนรู้สำหรับคนที่สนใจและอยากทำอาชีพเกษตรเชิงท่องเที่ยว ที่สามารถเป็นทั้งสถานที่เที่ยวและจำหน่ายผลผลิตได้ด้วยซึ่งเจ้าของนั้นเขามีการศึกษาข้อมูลจากช่องทางต่างๆเริ่มจากการอ่านหนังสือ การหาความรู้จริงจากการลงมือและหน่วยงานต่างๆ กว่าจะประสบความสำเร็จได้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยแต่ด้วยความรักและชอบบวกกับต้นทุนที่มีทำให้ประสบความสำเร็จอย่างที่เห็นได้ทุกวันนี้ ซึ่งข้อคิดจากเรื่องนี้คือไม่มีอะไรยากเกินความสามารถของมนุษย์
เพราะเห็นได้ชัดเลยว่าการปลูกเมล่อนพันธุ์ต่างประเทศอย่างญี่ปุ่นในพื้นที่และสภาพอากาศในภาคอิสานนั้นไม่ใช่ง่ายๆเพราะสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนจะมีช่วงหนาวเย็นแค่ไม่กี่เดือนการดูและต้นพันธุ์นั้นไม่ใช่งานง่ายๆต้องศึกษาข้อมูลต่างๆมาอย่างดี และเงินลงทุนที่ต้องเพียงพอตั้งแต่การปรับพื้นที่ การสร้างโรงเรือน การจัดหาต้นพันธุ์ต่างๆ ซึ่งใช้เงินลงทุนเยอะพอสมควร แต่จากการได้รับการยอมรับจนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของ จ.สกลนคร บอกเลยว่าเขาประสบความสำเร็จจริงๆ และน่าจะเป็นตัวอย่างให้กับคนที่คิดจะทำอาชีพเกษตรแนวนี้ได้ด้วย
ซึ่งใครสนใจอยากไปเที่ยวหรือดูงานก็สามารติดต่อไปได้ที่ https://www.facebook.com/3angkarnfarm เขามีรายละเอียดต่างๆให้ครบทั้งแผนที่การเดินทาง เบอร์โทรติดต่อ แนะนำว่าคนที่สนใจอาชีพนี้ควรไปดูตัวอย่างจากที่นี่รับรองว่านำมาต่อยอดไอเดียความฝันของคุณได้แน่ๆ