ทุกวันนี้กระแสการเลย์ออฟกำลังมาแรงกันเลยทีเดียว เพราะสองสามวันก่อนนั้นไม่ว่าใครๆต่างก็ทราบกันเป็นอย่างดีเรื่องการที่ได้ปิดตัวลงอย่างกะทันหัน ของบริษัทยักษ์ใหญ่นั่นเอง แต่คุณอาจไม่ได้คิดอะไร หากมองผ่านๆ ยุคเศรษฐกิจแบบนี้จัดได้เลยว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่บริษัทต่างๆมีความเสี่ยงต่อการขาดทุน แต่สำหรับพนักงานแล้วการตกงาน นั่นหมายถึง ฝันร้ายดีๆนี่เอง
การปิดตัวลงของบริษัทนั้น ทำให้พนักงานโดนลอยแพกันอย่างที่ไม่สามารถที่จะเรียกร้องกับใครได้ ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย หากทุกวันนี้ เต็มไปด้วยอัตราแรงงานที่ล้นเหลือ ผู้คนล้วนแต่อยู่ในสภาวะไม่มีงานทำ หรือ ตกงาน นั่นเอง มันเป็นสิ่งที่บอกได้เลยว่าไม่มีใครอยากเจอ หรือออยากให้เกิดกันเท่าไหร่นัก เพราะใครจะอยากไปนั่งนับหนึ่งใหม่กับที่อื่น หรือต้องการที่จะไร้งาน ไร้เงินกันใช่มั้ยล่ะคะ แต่เมื่อเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็อย่าได้เป็นกังวลเลย เพราะเรามีทางแก้ที่เราเองเคยใช้ได้ผล ไม่ว่าจะกับตัวเอง เพื่อนๆ หรือแวดวงคนสนิท
เมื่อต้อง ตกงาน สิ่งที่หลายคนรู้สึกคงจะหนีไม่พ้นความรู้สึกตกใจ เสียใจและกังวลใจ เพราะหากไม่มีงานทำ นั่นก็แสดงว่ารายได้ที่เคยมีใช้จ่ายในแต่ละเดือนจะต้องหายไปอย่างแน่นอน ซึ่งหากคุณเป็นคนที่ประหยัดและมีเงินเก็บออมอยู่บางส่วน ก็อาจจะช่วยให้คลายความรู้สึกกังวลลงไปได้บ้าง แต่ถ้าใครที่ไม่มีเงินเก็บเลย แถมยังมีภาระเยอะแยะอีกต่างหาก ช่วงเวลา ตกงาน จึงอาจเป็นช่วงที่ทำให้คุณเครียดเอามากๆ
ดังนั้น หนทางแก้ไขสำหรับคนที่กำลังตกงาน และไม่มีเงินเก็บ ก็คือการรีบหางานใหม่ให้เร็วที่สุด อาจจะเป็นงานพาร์ทไทม์หรืองานรายวันไปก่อนก็ได้ จากนั้นจึงมาบริหารเงินที่มีอยู่ในมือให้คุ้มค่า ซึ่งเงินที่คุณจะได้ภายหลังจากตกงานจะประกอบไปด้วย เงินชดเชย ในกรณีที่ถูกเลิกจ้าง เงินชดเชยจากประกันสังคมในกรณีที่คุณส่งเงินสมทบตามเกณฑ์ที่กำหนด และรวมไปถึงเงินเดือนงวดสุดท้ายที่คุณได้รับก่อนตกงาน ซึ่งเงินทั้งหมดนี้เป็นจำนวนเงินที่ต้องเก็บรักษาเอาไว้ให้ดี และใช้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น
เคล็ดลับประหยัดเงินเมื่อต้อง ตกงาน กะทันหัน สามารถทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. เมื่อทราบว่าวันนั้นสภาวะการงานของคุณนั้นไม่ได้เหมือนเดิมอีกแล้ว สิ่งที่ควรจะตระหนักเป็นอันดับแรกนั้นจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นั่นคือ การที่คุณเองไม่สร้างภาระให้กับตนเอง และจะดีไม่น้อยหากช่วยลดภาระเหล่านั้น วิธีแรกที่คุณต้องพึงตระหนักเป็นอย่างมากนั่นคือ การที่คุณเองเลิกใช้บัตรเครดิตทุกใบ ใช้เฉพาะเงินสดสำหรับใช้จ่ายเท่านั้น แบ่งเงินที่ต้องใช้ในแต่ละวันใส่กระเป๋าและพยายามใช้ให้พอ แล้วคุรทราบหรือไม่ว่าการที่ใช้เงินสดเพื่อการใช้จ่ายนั้นจะดีกว่าการเปิดบัตรเครดิต เพราะมันจะทำให้เกิดความเสียดายไม่น้อยเลยในการใช้จ่าย
2. อย่าใช้นิสัยการจับจ่ายใช้สอยเงินอย่างเดิมไม่ได้แล้ว เพราะมิเช่นนั้นเงินเก็บอาจหมดไปก็ได้ ดังนั้นดีไม่น้อยหากคุรได้ทำการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง ด้วยการเดินให้มากขึ้นหรือใช้บริการรถสาธารณะแทนการเรียกแท็กซี่ เลิกสูบบุหรี่หรือเบียร์กระป๋อง เพราะแม้จะเป็นเงินจำนวนที่ไม่มาก แต่เมื่อคุณต้องสูบหรือดื่มบ่อยๆเข้า มันก็เป็นเงินจำนวนไม่น้อย
3. เวลาไปไหนมาไหนก็เต็มไปด้วยคูปองต่างๆที่เป็นส่วนลด ทราบหรือไม่ว่า นั่นคือ ตัวช่วยในการประหยัดการใช้จ่ายได้ดีไม่น้อยเลยล่ะ ใช้คูปองส่วนลดในการซื้อของเข้าบ้านต่างๆ โดยสามารถเช็คโปรโมชั่นส่วนลดได้จากเว็บไซต์ของซุปเปอร์มาร์เก็ต หรือใช้ application มือถือเพื่อหาโปรโมชั่นลดราคา นอกจากนี้ยังสามารถซื้อของดีราคาถูกจากซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ในช่วงเวลาก่อนปิด ซึ่งจะช่วยให้คุณได้อาหารราคาถูกกว่าปกติที่ช่วยประหยัดเงินลงได้มากทีเดียว
4. เสียเวลาสักนิดเพื่อการทบทวนค่าใช้จ่าย ด้วยการที่คุณเองนั้นบันทึกค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน จะทำให้คุณรู้ว่าใช้จ่ายอะไรออกไปบ้าง และจะได้ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปได้ง่ายขึ้น เก็บเงินทอนที่เป็นเหรียญใส่กระปุกเอาไว้ เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งเมื่อนำออกมานับ คุณจะพบว่ามีเงินเหลือใช้อีกเพียบซึ่งสามารถนำไปซื้อสิ่งของที่จำเป็นได้
5. มาถึงขนาดนี้แล้วก็อย่าลืมที่จะ หางานด้วยสื่อต่างๆ ที่บอกได้เลยว่ารวดเร็วกว่าที่คุณคิดเสียอีก สมัครงานทางอินเทอร์เน็ต และใช้บริการรถสาธารณะเมื่อต้องไปสัมภาษณ์งาน เพราะบางคนอาจจะต้องสัมภาษณ์งานหลายแห่งกว่าจะได้งาน วิธีนี้จะช่วยให้ประหยัดเงินได้มากขึ้นกว่าการขับรถหรือเรียกแท็กซี่
การประหยัดเงินในช่วงที่ ตกงาน จะช่วยให้คุณมีเงินเหลือเพียงพอในการใช้ชีวิตประจำวันจนกว่าจะได้งานใหม่ ซึ่งช่วยลดความเครียดและลดปัญหาการเงินที่จะเกิดขึ้นในช่วงตกงาน ได้เป็นอย่างดี ทางที่คุณไม่ควรทำเป็นอย่างมากคือการเครียด การท้อแท้ หมดหวังสิ้นหวัง อย่าลืมที่จะตั้งสติให้ดีๆแล้วค่อยจัดการแก้ไขไปทีละเปราะ