มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้ดีว่า การทำธุรกิจ ต่างๆนั้น สามารถตอบโจทย์ของคำถามที่ว่าทำอย่างไรให้เรานั้นมีอิสระทางการเงินได้มากที่สุด และในจำนวนคนเหล่านั้นอาจจะกำลังพยายามสร้างธุรกิจหรืออาจจะไม่มีวันได้สร้างธุรกิจเลยก็ได้เพราะว่าไม่มีเวลาหรืออาจจะไม่กล้าที่จะเสี่ยง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เมื่อเรารู้ว่า การทำธุรกิจ นั้นคือ ความสำเร็จที่มีมากมายมหาศาล และตัวเรานั้นไม่สามารถทำได้แล้ว เราก็ควรที่จะฝากความหวังไว้ที่ลูกของเรา
การฝากความหวังนี้ไม่ใช่การบังคับลูกให้ทำธุรกิจที่เราต้องการ แต่การฝากความหวังไว้นี้คือการหวังลึกๆว่าลูกต้องประสบความสำเร็จในการเป็นเจ้าของธุรกิจต่างๆหรืออย่างน้อยๆก็ต้องดูแลตัวเองได้ ซึ่งคนเป็นพ่อหรือคนเป็นแม่นั้นไม่อาจที่จะบังคับลูกของตัวเองได้ทุกเมื่อ เมื่อใดก็ตามที่ลูกนั้นหมดความอดทนในการทำสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบแล้วนั้น แน่นอนพวกเราทุกคนคงไม่อยากจะนึกถึงสิ่งต่างๆที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น แต่อย่างไรก็ตามถ้าเราสอนให้ลูกของเราเห็นข้อดีเกี่ยวกับธุรกิจตั้งแต่เล็กๆ และสอนให้ค้าขายตั้งแต่ยังเด็กแล้วนั้น เด็กๆเหล่านั้นก็อาจจะจุดประกายฝันอยากเป็นนักธุรกิจได้เอง และสิ่งที่เราสามารถทำได้นั้นคือ
-
สอนให้รู้จักถึงความลำบากของการหาเงิน
ทุกคนนั้นล้วนรู้ดีว่า การสร้างธุรกิจนั้น เป็นการหาเงินที่สามารถหาเงินเข้ามาได้ในปริมาณที่เยอะและออกแรงที่น้อย แต่นั้นคือกรณีที่ธุรกิจของเรานั้นประสบความสำเร็จที่มากมาย แต่เรานั้นไม่สามารถคาดหวังความสำเร็จของลูกได้ แต่เรานั้นสามารถทำให้ลูกของเรานั้นคาดหวังความสำเร็จของตัวเองได้ การที่เรานั้นให้ลูกของเรารู้จักกับความยากลำบากในการหาเงินหรือรู้จักกับความยากลำบากของพ่อแม่พร้อมกับสอนให้รู้จักการออมแล้วนั้น จะทำให้ลูกของเรารู้จักคิดที่จะประหยัดและคิดที่จะพยายามหาวิธีที่สบายๆในการหาเงินมาใช้จ่าย และวิธีที่สอนให้ลูกรู้ว่าเงินได้มายากนั้นก็คือ การที่ให้ลูกของเรานั้นมีสิ่งของที่อยากได้เสียก่อน เมื่อใดก็ตามที่ลูกของเรามีสิ่งของที่อยากได้แล้วนั้นเราก็สามารถยื่นข้อตกลงกับลูกได้ทันทีว่า อยากได้อะไรต้องเก็บเงินซื้อเอง แต่เรานั้นคงไม่ให้ลูกของเรานั้นลำบากออกไปทำงานข้างนอกเพื่อหาเงินมาซื้อสิ่งของที่อยากได้แต่สิ่งที่เราควรทำนั้นคือการพยายามที่จะชวนลูกออกไปทำงานกับเราแล้วก็พยายามจ่ายค่าตอบแทนต่างๆเหล่านั้น
-
สอนให้ลูกรู้จักความสบายของธุรกิจ
บางครั้งคนเราก็มักจะลำบากจากสิ่งต่างๆก่อนที่จะรู้จักคำว่าสบายเสมอ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่กล้าที่จะทำธุรกิจเพราะการเริ่มต้นอะไรสักอย่างนั้นมักจะลำบากและเริ่มต้นได้ยาก เมื่อเรานั้นได้สอนถึงความยากลำบากของการหาเงินแล้วนั้นสิ่งต่อไปที่เราควรสอนนั้นคือการสอนถึงความสบายของธุรกิจ มีธุรกิจต่างๆจำนวนไม่น้อยที่ไม่จำเป็นที่ต้องเริ่มด้วยความยากลำบากเสมอไป และการเริ่มลงทุนตั้งแต่เด็กๆนั้นก็คือสิ่งที่ควรทำ พ่อแม่นั้นควรที่จะซื้อหุ้นให้ลูกสักหุ้นหนึ่งแล้วก็รอปันผลจากหุ้นนั้นและเมื่อลูกโตขึ้นจึงค่อยยกหุ้นนั้นให้ลูกไปต่อยอดทีหลัง คนเราทุกคนนั้นสามารถทำทุกอย่างเพื่อที่จะสร้างความสบายให้กับตัวเอง วิธีการหาเงินก็เช่นกัน เมื่อใดก็ตามที่ลูกของเรานั้นเห็นความสบายที่เกิดจากการทำธุรกิจ ลูกของเราก็จะไม่ยากเลยที่จะเริ่มสร้างธุรกิจต่างๆ และสิ่งแรกที่เราควรสอนนั้นคือการค้าขายบวกลบขาดทุน ธุรกิจทุกอย่างในโลกใบนี้ล้วนคือการค้าขาย เราทำหน้าที่ผลิตสินค้าต่างๆให้เหล่าคนทั่วไปนั้นเลือกที่จะซื้อไว้เป็นของตัวเองโดยการนำเอาเงินหรือสิ่งอื่นๆนั้นมาแลกเปลี่ยน และยิ่งใครที่เริ่มต้นอาชีพมาจากการค้าขายจากทางบ้านแล้วนั้นย่อมได้เปรียบ และถ้าเราเป็นนักธุรกิจอยู่แล้วนั้น เราก็ไม่ควรที่จะส่งมอบธุรกิจของเราให้ลูกเราเป็นเจ้าของอย่างง่ายๆเพราะลูกของเรานั้นจะไม่รู้จักความลำบาก และไม่รู้จักการแก้ปัญหาที่ควรจะเป็นได้
สองสิ่งที่กล่าวไปนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้ลูกๆของเรานั้นเริ่มต้นที่จะอยากเป็นนักธุรกิจ ถึงแม้ว่าในตอนนี้นั้นลูกๆของเราอาจจะยังไม่คิดมากถึงเรื่องอนาคตหรือเรื่องธุรกิจแต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกๆชองเราโตขึ้นนั้นพวกเขาก็พร้อมที่จะเข้ามาหาเราเองและสิ่งหนึ่งที่สำคัญนั้นคือพ่อแม่ หากบ้านใดที่มีพ่อแม่ที่ใส่ใจลูกนั้น และพยายามจะสอนให้ลูกของตัวเองมองเห็นโอกาสใน การทำธุรกิจ หรืออย่างน้อยๆก็พยายามสอนให้ลูกของเรานั้นรู้จักการออมเงินอย่างที่ควรจะออม
เมื่อลูกของเราโตขึ้นนั้นพวกเขาจะคิดถึงเราและจะคิดว่าเป็นความโชคดีที่มีพ่อแม่คิดถึงอนาคตของเรา พ่อแม่ทุกคนนั้นไม่สามารถดูแลลูกของตัวเองได้ตลอดแต่พ่อแม่ของเรานั้นสามารถที่จะสอนให้ลูกนั้นดูแลตัวเองและเมื่อใดก็ตามที่ลูกของเราสามารถดูแลตัวเองได้แล้วนั้น ลูกของเราก็พร้อมที่จะดูแลคนอื่นด้วยเช่นกัน