นักประชากรศาสตร์กล่าวไว้ว่าในปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในอนาคตเราอาจจะเห็นว่าทุก ๆ 5 คนที่เดินผ่านเราจะมีผู้สูงอายุอย่างน้อย 1 คน และเช่นกันในปีหน้า พ่อแม่ของหลายคนอาจจะเข้าสู่วัยเกษียณอายุการทำงาน ร่างกายที่เหนื่อยล้าอาจจะไม่แข็งแรง เช่น ในอดีต สายตาอาจจะฝ้าฟางลง หรือในบางคนอาจประสบกับภาวะเสื่อมถอยของความจำไปบ้าง ในด้านผลตอบแทน พ่อแม่บางคนที่ตรากตรำมุ่งมั่นและทำงานหนักมาตลอดชีวิตก็อาจจะได้รับผลตอบแทนคืนกลับในรูปของบำนาญและการดูแลสุขภาพจากรัฐ สำหรับบางคนที่ทำงานในภาคเอกชน รายได้และผลตอบแทนต่าง ๆ ที่ลงทุนไว้ในอดีตอาจคืนกลับมาในรูปของเงินก้อน แต่ก็มีอีกหลายคนเช่นกันที่การทำงานหนักอาจจะไม่ได้เป็นการรับประกันว่าในบั้นปลายจะมีเงินเลี้ยงตนเองเพียงพอหากไม่สามารถเก็บออมหรือวางแผนการลงทุนไว้แต่เนิ่น ความทุกข์และความรู้สึกไม่มั่นคงอาจจะมีผลต่อสภาวะอารมณ์ของพ่อแม่ได้
สำหรับลูก ๆ ที่อาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ และเห็นว่าพ่อแม่กำลังก้าวเข้าสู่การเกษียณอายุในปีหน้าแล้ว สิ่งสำคัญที่ลูก ๆ และผู้ที่อยู่รอบตัวอาจจะต้องเตรียมพร้อมสำหรับพ่อแม่ที่กำลังจะหยุดพักจากการทำงานประจำพึงระวังมีหลายประการ แต่อาจแยกออกเป็น 5 ประเด็นต่าง ๆ ได้ดังนี้
-
ด้านการเงิน :
การวางแผนทางการเงินจัดว่าเป็นหัวใจสำคัญประการแรกที่ลูก ๆ หลายคนจะต้องคิดให้มาก ทั้งการเงินของ พ่อแม่เกษียณ แต่มีการวางแผนการเงินไว้ล่วงหน้าแล้ว และสำหรับพ่อแม่ที่ไม่มีการวางแผนทางการเงินมาก่อน สำหรับพ่อแม่วัยเกษียณที่มีการวางแผนการเงินไว้ล่วงหน้าแล้ว เช่น มีการลงทุนในเบี้ยประกันชีวิต ลงทุนในรูปแบบการฝากแบบสะสมทรัพย์กับบริษัทประกัน การซื้อตั๋วหรือพันธบัตรรัฐบาล การใช้ชีวิตในยามชราของพ่อแม่นั้น ลูก ๆ อาจจะไม่ต้องกังวลในการเงินของพ่อแม่นัก แต่สำหรับพ่อแม่ที่ไม่เคยวางแผนทางการเงินมาก่อน อาจไม่สามารถเก็บออมเงินได้ ดังนั้นในยามเกษียณจึงมีเพียงเงินเก็บแต่เดิมของตนเองเท่านั้น ซึ่งในกรณีนี้ลูกอาจจะต้องเป็นผู้ให้คำแนะนำในการลงทุนหรือพาท่านไปพบกับนักวางแผนทางการเงินเพื่อจัดรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมและมีความเสี่ยงในระดับต่ำ ตัวอย่างหนึ่งของการลงทุนที่เสี่ยงต่ำ ได้แก่ การซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล พันธบัตรรัฐบาล เป็นต้น
-
ด้านสุขภาพกาย :
สิ่งที่ลูก ๆ ให้ความกังวลต่อพ่อแม่เป็นอันดับรอง ๆ ลงมาคงไม่พ้นจากประเด็นสุขภาพ ซึ่งหลายท่านจะทราบดีว่าค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุเป็นตัวเลขค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ดังนั้นหลายท่านที่คาดการณ์ไว้แล้ว และต้องการกระจายความเสี่ยงด้านรายจ่ายสุขภาพอาจจะซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่ไว้ก่อนเพื่อกระจายความเสี่ยงในอนาคตและให้บริษัทประกันเป็นผู้ช่วยรับภาระค่าใช้จ่ายดังกล่าวไว้ แต่อย่างไรก็ตามการซื้อประกันสุขภาพนั้นจะต้องศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า พ่อแม่มีโรคประจำตัวอย่างไรบ้าง ควรย้ำให้ตรวจสุขภาพทุกครั้งก่อนรับทำประกัน และอายุที่พ่อแม่ทำประกันต้องไม่มากไปกว่า 60 ปี หากเตรียมพร้อมสิ่งเหล่านี้ได้ก็วางใจไปได้มากแล้ว
อ่านเพิ่มเติม >> เลือก ประกันชีวิตสำหรับพ่อแม่ ยังไงดี ? <<
-
ด้านสุขภาพจิต :
สำหรับพ่อแม่ที่ทำงานมาตลอดทั้งชีวิตมีจำนวนไม่น้อยที่เมื่อหยุดการทำงานและต้องอยู่บ้านเพียงอย่างเดียว จะเกิดภาวะซึมเศร้าและหดหู่ บางรายที่เดิมเคยเป็นผู้นำครอบครัวหรือหาเลี้ยงครอบครัวด้วยรายได้จำนวนมาก เมื่อตนเองไม่ได้เป็นผู้หาเลี้ยงครอบครัวแล้วหรือไม่มีรายได้ให้แก่ที่บ้านอาจมีภาวะเสียความมั่นใจในตนเอง รู้สึกว่าคุณค่าในชีวิตและคุณค่าในตนเองลดน้อยลง และสุดท้ายอาจตามมาด้วยภาวะซึมเศร้า ดังนั้นลูก ๆ ควรแบ่งเวลาและสร้างความมั่นใจให้แก่พ่อแม่วัยเกษียณ โดยอาจต้องหากิจกรรมร่วมกันบ่อยขึ้นเพื่อให้รู้สึกว่าลูกยังคงรักและให้ความเคารพตนเองเช่นเดิม
-
ด้านที่อยู่อาศัย :
สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งคือ พ่อแม่วัยเกษียณมักจะต้องพักอยู่บ้านบ่อยขึ้น ลูกอาจจะต้องเตรียมงบประมาณไว้จำนวนหนึ่งสำหรับเปลี่ยนแปลงบ้านให้เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุ เช่น การสร้างราวจับในห้องน้ำสำหรับผู้สูงอายุ การเปลี่ยนกระเบื้องหรือพื้นห้องน้ำ เตรียมทำทางลาดไว้นอกบ้าน หรือในบางบ้านอาจจะเปลี่ยนห้องใดห้องหนึ่งในชั้นล่างเลยให้เป็นห้องสำหรับพ่อแม่ที่อายุมาก เพื่อลดการขึ้นบันไดและโอกาสอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นภายในบ้าน
-
ด้านกิจกรรมนันทนาการ :
งานศึกษาของแพทย์ด้านสมองยืนยันว่าผู้สูงอายุจำนวนไม่น้อยที่เมื่อหยุดการทำงานประจำไปนาน ๆ แล้ว จะมีปัญหาด้านการทำงานของสมอง เช่น อาจหลงลืม สับสนในตัวเอง คิดคำนวณตัวเลขง่ายไม่ได้ หรือจดจำเรื่องของตนเองไม่ได้ และสุดท้ายอาจกลายเป็นภาวะสมองเสื่อมในที่สุด แนวทางที่ลูกจะสามารถช่วยป้องกันการเกิดสภาวะสมองเสื่อมได้มีหลายวิธี ได้แก่ การพยายามหากิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ให้ผู้สูงอายุเข้าร่วม เช่น กิจกรรมลีลาศ ร้องเพลง เข้าร่วมสโมสรหรือคลับสุขภาพโยคะ หรือรำมวย เดินสายทำบุญตามจังหวัดต่าง ๆ กับกลุ่มเพื่อน เล่นเกมผ่านทางแท็บเล็ต เล่น Facebook หรือแม้แต่การเล่น Line ที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้สูงวัย ก็มีส่วนช่วยชะลอการเกิดสภาวะสมองเสื่อมได้ นอกจากนี้กิจกรรมบางแห่งยังอาจจะสร้างรายได้ให้แก่ผู้สูงอายุด้วย อาทิ เช่น หากพ่อแม่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านมาก่อนก็อาจจะรับเป็นวิทยากร เป็นอาจารย์สอนในบางวิชา หรือหากที่บ้านมีร้านขายของชำอาจจะให้พ่อแม่เป็นผู้ดูแลร้านทำให้ท่านได้ฝึกการคิดคำนวณตลอดเวลา และสร้างสังคมให้พ่อแม่ได้รู้จักผู้คนต่าง ๆ ด้วย เป็นต้น
ทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างการวางแผนล่วงหน้าที่บรรดาลูก ๆ ควรเตรียมพร้อมไว้ ทั้งการเงิน สุขภาพกายใจ ที่อยู่อาศัย และนันทนาการ เพื่อให้พ่อแม่วัยเกษียณของคุณเป็นพ่อแม่วัยสุข ทั้งสุขภาพการเงิน สุขภาพกาย สุขภาพใจ
เตรียมความพร้อมให้พ่อแม่ ในวัยหลังเกษียณ ทำประกันผู้สูงวัย เจ็บป่วยเมื่อไร ก็หายห่วง รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก!