บทความนี้น่าจะเหมาะกับคนที่เป็นหนี้สินเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล หนี้รถยนต์ หนี้จากสินเชื่อบ้าน ไม่ว่าเราจะเป็นหนี้จากสาเหตุอะไรก็ตาม เมื่อเป็นหนี้แล้วก็ต้องใช้หนี้ ดังนั้นก่อนที่จะใช้หนี้ได้ เราก็ต้องรู้ก่อนว่าเรามีหนี้สินทั้งหมดอยู่เท่าไร จ่ายต่อเดือนเท่าไรบ้าง อัตราดอกเบี้ยแต่ละรายการเป็นกี่เปอร์เซนต์…แล้วความสามารถเรามีอยู่เท่าไร ต้องทำเพิ่มอีกเท่าไร และจะปลดหนี้หมดได้ภายในเดือนไหน…. มาเริ่มตั้งเป้าหมายและ วางแผนปลดหนี้ กันดีกว่า
ถ้าเรามาตั้งเป้าหมายกันก่อนเลยว่า เช่น ถ้าเรามีหนี้หลายก้อนเป้าหมายของเราอย่างน้อยก็คือ หนี้ของฉันจะต้องหมดลงอย่างน้อย 2 บัญชีก่อนสิ้นปี 2559….พอเราได้เป้าหมายแล้ว เราก็ต้องมาวางแผนเพื่อจะปลดหนี้กัน แต่ก่อนจะมีแผนเราต้องรู้ก่อนว่าเรามีหนี้สินทั้งหมดเท่าไร วิธีการง่ายๆ และเป็นวิธีการที่โค้ชการเงินหลายๆ คนก็แนะนำให้ทำ ก็คือ ทำรายการหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่ว่าเป็นหนี้อะไรบ้าง ยอดหนี้คงเหลือทั้งหมดเท่าไร ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายกี่เปอร์เซ็นต์ จำนวนเงินที่ต้องจ่ายต่อเดือนเท่าไร และใช้เวลาเท่าไรจึงจะหมด ต่อมาเราจึงมาจัดลำดับการชำระหนี้ให้หมด โดยใช้หนี้คงเหลือหารด้วยยอดชำระขั้นต่ำต่อเดือน ตามตัวอย่างด้านล่างเลยทีนี้เมื่อเราเห็นพอร์ตหนี้สินของเราแล้ว จะเห็นได้ว่าเรามีหนี้สินที่ต้องจ่ายทั้งหมดเดือนละ 38,000 บาท ถ้าเรามีรายได้ประมาณเดือนละ 50,000 บาท เราก็ไม่น่าที่จะเดือดร้อนอะไร แต่ถ้ารายได้เราแค่ 40,000 บาทหรือน้อยกว่านั้นล่ะ หรือมีภาระอย่างอื่นนอกเหนือจากนี้บ้างล่ะจะทำยังไง ฉะนั้นเราต้องมาวางแผนปลดหนี้กันก่อน เราจะเริ่มที่สินเชื่อรถยนต์กันก่อน เพราะว่ารถยนต์เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาอีกมากมายไม่ว่าจะเป็นค่าประกัน ค่าบำรุงรักษา ค่าน้ำมัน หรือจะเป็นค่าที่จอดรถรายเดือนอีก ดังนั้นลองถามตัวเองก่อนว่ารถยนต์จำเป็นกับชีวิตหรือเปล่า มีรถแล้วทำให้รายได้เราเพิ่มขึ้นหรือเปล่า ถ้าคำตอบว่าไม่ก็ตัดใจขายรถเสียเถอะ เพราะรถยนต์ขายได้ง่ายและบางครั้งถ้าขายไปแล้วเราอาจจะเหลือเงินมาปิดยอดหนี้อื่นๆ ได้อีก
รายการสินเชื่อบ้านอันนี้ถ้าเรารู้ตัวว่าผ่อนไม่ไหวแล้วก็เดินเข้าไปหาธนาคารแล้วบอกว่าจะขอลดจำนวนเงินผ่อนต่อเดือนลง หรือจะขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ก็ได้ ธนาคารก็จะอธิบายรายละเอียดและวิธีการให้เราฟัง เพราะผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ เราจะมีเงินเหลือในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้น
ถัดมาเป็นกลุ่มหนี้สินที่เกิดจากสินเชื่อไม่มีหลักประกัน ก็คือ บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และ สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งมีดอกเบี้ยที่แพงมาก โดยเรามียอดหนี้ที่ต้องจ่ายทั้งหมดเดือนละ 23,500 บาท ก่อนอื่นเราต้องเก็บบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสดไว้ในที่ที่ปลอดภัยจากการหยิบมาใช้งาน เพื่อที่เราจะได้ไม่มีหนี้เพิ่มขึ้น ต่อจากนั้นก็มาดูเงินคงเหลือจากที่เราขายรถยนต์ และการขอลดจำนวนเงินที่ผ่อนบ้านให้กับธนาคารในแต่ละเดือนทำให้เรามีเงินเหลืออีกเดือนละ 10,000 บาท ได้เลยทีเดียว สิ่งที่ควรจะทำต่อไปคือ แบ่งเงิน 10,000 บาท ออกมาชำระหนี้ส่วนหนึ่ง และก็นำไปออมหรือลงทุนอีกส่วนหนึ่งเพื่อให้ได้ผลตอบแทน อย่านำเงิน 10,000 บาทไปชำระหนี้ให้หมดซะทีเดียวนะ เพราะเดียวเราจะไม่เหลือเงินไว้ใช้อีก
จากนั้นเราก็ต้องมีวินัยในการในเงินให้มากขึ้น บัตรเครดิตห้ามใช้ บัตรกดเงินสดห้ามใช้ ห้ามขอสินเชื่อส่วนบุคคลอีก เพื่อไม่ให้เรามีหนี้สินเพิ่มขึ้น ต่อไปเราก็หาทางเพิ่มรายได้จากความถนัดของเรา เพื่อให้มีเงินเข้ามาเพิ่มขึ้น และก็ทำเหมือนเดิม คือ แบ่งเงินมาชำระหนี้ส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งก็ออมหรือลงทุน ทำอย่างนี้ไป 12 เดือน อย่างน้อยหนี้บัตรเครดิต 2 ใบก็น่าจะหมดได้ภายในปี 2559
ที่สำคัญในการปลดหนี้ คือ อย่าเพิ่มหนี้ ให้เพิ่มรายได้ ถ้าไม่ไหวให้เข้าไปคุยกับธนาคาร อะไรที่สามารถขายได้ก็ต้องตัดใจขาย อย่ายึดติด แค่นี้ก็น่าจะทำให้เราสามารถปลดหนี้ได้แน่นอน