จากข่าว http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1450786986 สรุปใจความของข่าวคือ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อพิจารณามาตรการภาษีเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 58 จำนวน 1 มาตรการ ได้แก่ มาตรการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการในระหว่างวันที่ 25 -31 ธ.ค.58 จากผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท โดยให้ผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้าหรือรับบริการเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบตาม ม.86/4 แห่งป.รัษฎากร แต่ไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ น้ำมันและก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ
นั่นหมายความว่าช่วงเทศกาลปีใหม่ ใครที่ได้จับจ่ายซื้อสินค้าต่างๆ หรือเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงสิ้นปี สามารถ เอาบิลมาลดภาษี นำมาหักภาษีบุคคลได้ ซึ่งคนที่อยู่ในข่ายเสียภาษีห้ามพลาดโดยเด็ดขาด เพราะตามมาตรการตามกฎกระทรวงมีผลใช้บังคับก่อนหน้านี้ตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. ถึงวันที่ 31 ธ.ค.58 กรณีเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวหรือที่ได้จ่ายเป็นค่าโรงแรมภายในประเทศตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15,000 บาท ดังนั้น รวม 2 มาตรการ ก็เป็นจำนวน 30,000 บาทเชียวนะ ! เงื่อนไขง่ายๆใช้จ่ายที่ไหนก็ขอให้เขาออกใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบเพื่อนำมายื่นเป็นส่วนลดในการเสียภาษี ซึ่งมาตรการนี้รองรับกับกิจการต่างๆที่จดทะเบียนการค้าและเสียภาษีอย่างถูกต้อง และเอื้อประโยชน์กับคนที่มีรายได้ในเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี นอกจากนี้มาตรการนี้ยังเน้นให้ประชาชนออกมาจับจ่ายใช้สอยเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในทางอ้อมด้วย
จากมาตรการนี้เชื่อว่าแนวโน้มของยอดขายและยอดผู้ใช้บริการในสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆน่าจะมีเพิ่มมากขึ้น เพราะเงินที่จ่ายไปจะถูกนำไปลดภาษีที่ต้องยื่นชำระในช่วงปีหน้า จะทำให้ได้ส่วนลดภาษีมากขึ้นหรืออาจได้คืนเงินภาษีกลับมาด้วยเพราะบางคนอาจหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดแล้วยังเหลือส่วนที่จะได้คืนภาษีด้วย นอกจากนี้การกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีนี้จะช่วยให้ผู้ประกอบการมียอดรายได้ในช่วงปลายปีเพิ่มขึ้น สามารถมีรายได้นำจ่ายภาษีทั้งในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีนิติบุคคลประจำปี แม้ว่าเงื่อนไขจะออกมาให้ใช้ใบเสร็จในช่วงของวันที่ 25 -31 ธ.ค.58 เพียงแค่ 5 วัน แต่นั่นก็สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในระดับหนึ่ง เพราะอยู่ในช่วงของการจับจ่ายใช้สอยพอดี
ซึ่งขั้นตอนการขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบนั้นหากเป็นห้างสรรพสินค้าต่างๆ เมื่อเราจ่ายเงินตามเคาน์เตอร์เสร็จแล้ว ให้นำสลิปไปยื่นยังจุดออกใบกำกับภาษี แจ้งชื่อที่อยู่ ซึ่งทางพนักงานจะจัดทำใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบให้ ส่วนสถานที่อื่นๆเช่น โรงแรม รีสอร์ท ให้ติดต่อกับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ว่าเราต้องการใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ซึ่งหากเป็นโรงแรมใหญ่ๆจะไม่มีปัญหา แต่สำหรับรีสอร์ทเล็กๆต้องโทรเช็คกันก่อนว่าสามารถออกให้ได้หรือไม่ในช่วงที่โทรไปจอง หรือหากจองไปแล้วก็โทรแจ้งล่วงหน้าว่าต้องการใบกำกับภาษีด้วย หรือวันที่ไปพักต้องแจ้งพนักงานอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งรีสอร์ทบางแห่งนั้นเป็นรีสอร์ทเล็กๆ แบบโฮมเสตย์อาจไม่ได้มีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่จะเสียภาษีในอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งต้องตรวจสอบกับรีสอร์ทที่เราไปพักว่ามีให้หรือไม่
นอกจากนี้คนที่ไม่ได้ไปเที่ยวปีใหม่ที่ไหน แต่อยากได้ส่วนลดภาษีจะทำอย่างไร ข้อนี้ไม่ยากเลยหากคุณอยู่ในข่ายของผู้ที่ต้องเสียภาษี เพียงแค่คุณไปจับจ่ายใช้สอยตามห้างสรรพสินค้าหรือพาครอบครัวไปทานอาหารตามห้างร้านต่างๆ คุณก็ขอใบกำกับภาษีเขามาเพื่อนำมาลดหย่อนภาษีก็ได้เช่นกัน แต่ต้องไม่มีรายการต้องห้ามเช่น สุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ และ บิลเติมน้ำมันที่เป็นข้อยกเว้น พูดง่ายๆก็คือซื้อของนอนพักกินอิ่ม กับร้านหรือสถานที่ที่เป็นผู้จดทะเบียนการค้าอย่างถูกต้อง รับรองว่าคุณได้ภาษีคืนแน่นอน
แต่อย่า ซื้อของ นอนพัก กินอิ่ม จนเพลินเงินหมดกระเป๋าหรือรูดบัตรจนหนี้เพิ่ม คำนวณกันให้ดีๆก่อนว่าเงินได้ปีนี้อยู่ในข่ายเสียภาษีไหม หักลบกลบส่วนลดต่างๆหากมีส่วนเกินที่ต้องจ่ายภาษีก็ใช้ส่วนนี้มาลดหย่อนกันไป แต่คำนวณแล้วไม่ต้องจ่ายภาษีก็ไม่ต้องเห่อตามกระแสไปใช้เงินให้มันเปลืองเขาไปเพื่อจะเอามาหักภาษี คิดให้ถ้วนถี่กันก่อนนะจะได้ไม่เสียเงินเพราะคำว่า ลดหย่อนภาษี