จากที่เคยนำเสนอไปแล้วว่า เทรนด์ธุรกิจในปี 2559 นั้น เทรนด์สุขภาพ ยังมาแรงและมีแนวโน้มที่จะทำเงินและเป็นช่องทางให้ทำธุรกิจได้ แต่ควรจะทำแนวไหนถึงจะเห็นผลหรือเทรนด์สุขภาพแบบไหนที่ยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มลูกค้าเราลองมาหาคำตอบกัน
1.ฟิตเนส
ธุรกิจสถานออกกำลังกายยังคงมีเปิดใหม่เรื่อยๆ โดยส่วนใหญ่จะมีราคาสำหรับการเข้าใช้บริการหรือสมัครสมาชิกค่อนข้างแพง จึงทำให้นิยมกันในกลุ่มคนที่มีรายได้ค่อนข้างดี และ สถานที่ออกกำลังกายเหล่านี้มีค่าใช้จ่ายสูงเพราะต้องเลือกทำเลที่เหมาะสมเช่น ใกล้แหล่งย่านที่พักอาศัยเยอะๆ หรือ อยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือทำเลใกล้ๆออฟฟิศ และสถานที่เหล่านี้มักจะเสียค่าเช่าที่ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูง อุปกรณ์ต่างๆต้องทันสมัยและมีสภาพดีพร้อมใช้งาน และต้องมีรูปแบบการออกกำลังที่หลากหลาย เรียกได้ว่าเทรนด์ไหนมาเทรนด์ไหนนิยมในต่างประเทศต้องมีให้ครบ และต้องมีผู้ดูแลหรือเทรนเนอร์ที่เชี่ยวชาญซึ่งต้องจ้างกันแพงๆเลยทีเดียว หรือบางแห่งเน้นให้บริการเครื่องออกกำลังกายอย่างเดียวก็ต้องมีครบทุกอุปกรณ์และต้องมีคนดูแล ที่สำคัญคือราคาค่าบริการหากแพงมากและอยู่ในทำเลที่ไม่ดีก็จะไม่คุ้มทุนในการทำธุรกิจแนวนี้ แนวโน้มของปี 2559 ธุรกิจสถานออกกำลังกายยังสามารถทำเงินให้กับผู้ลงทุนได้แต่อย่างที่บอกคือการแข่งขันสูงและดูจะอิ่มตัวหากไม่มีอะไรใหม่ๆมาแข่งกับคู่แข่งหรือมีราคาที่แพงเกินไป โอกาสที่จะไม่มีคนใช้บริการนั้นมีมากเพราะปัจจุบันคนส่วนใหญ่เลือกจ่ายเงินกับสิ่งเหล่านี้มากขึ้นหากมีตัวเลือกที่ถูกกว่าและสามารถทดแทนกันได้ก็มักจะไปหาสิ่งนั้น
อ่านเพิ่มเติม >> เริ่มต้น ธุรกิจฟิตเนส ธุรกิจของคนรักสุขภาพ <<
2.อาหารเสริมสุขภาพ
สิ่งนี้ยังคงเป็นที่ต้องการของคนรักสุขภาพแต่เทรนด์จะเปลี่ยนไปในเรื่องของการบำรุง และดูแลป้องกันมากกว่าเดิม และเน้นในสิ่งที่ผลิตหรือสกัดจากธรรมชาติมากขึ้น หรือผลิตจากธรรมชาติ 100% ไม่มีสารเคมีเจือปน ซึ่งจากระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมาเรื่องของอาหารเสริมสุขภาพนิยมมากในบ้านเราและจะยังนิยมไปได้เรื่อยๆ แต่แบรนด์ที่จะขายได้คือต้องเน้นธรรมชาติล้วนๆ ไม่มีการเกิดผลข้างเคียง และที่สำคัญข้อมูลต่างๆต้องเป็นความจริง มีการผ่านการรับรองและมีคำแนะนำที่ไม่เกินจริง ราคาที่เหมาะสม ซึ่งแนวโน้มในปีหน้าเรื่องของอาหารเสริมยังอยู่ในกระแสแต่จะขายดีจริงๆจะมีไม่กี่แบรนด์เท่านั้น และพวกอาหารเสิรมนำเข้าจากต่างประเทศจะมีคนนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มคนออกกำลังกายหรือความสวยความงาม ซึ่งปัจจุบันก็มีดาราเซเลปหลายคนหันมานำเข้าอาหารเสริมสุขภาพกันมาก กลายเป็นกระแสนิยมที่ฮือฮากันพอสมควรในช่วงนี้
3.อาหารคลีน และ อาหารปลอดสารพิษ
ทั้งสองชนิดนี้จะได้รับความนิยมขึ้นเรื่อยๆเพราะคนกลัวการเป็นโรคเรื้อรังต่างๆ การเลือกทานอาหารจึงมีบทบาทมากขึ้น ยิ่งมีบริการอาหารเหล่านี้แบบเดลิเวอรี่ยิ่งทำให้เกิดกระแสนิยมขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าบางร้านจะมีราคาแพงก็ตาม ด้วยคุณภาพของวัตถุดิบที่เน้นประโยชน์กับร่างกายอย่างครบถ้วน เน้นใช้วัตถุดิบปลอดสารพิษ อีกทั้งยังสามารถช่วยควบคุมน้ำหนักทำให้อาหารคลีนได้รับความนิยมอย่างมากมาย
4.เทรนเนอร์ส่วนตัว
การเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวกำลังได้รับความนิยมอย่างมาก ซึ่งเทรนเนอร์ส่วนตัวนั้นจะมีทั้งเทรนเนอร์ในการออกกำลังกาย และดูแลเรื่องบุคลิก อาหาร และด้านอื่นๆในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมาอาชีพเทรนเนอร์ส่วนตัวสามารถทำรายได้ค่อนข้างดี แต่คนที่จะเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวนั้นต้องมีความรู้ทางด้านต่างๆเฉพาะทางเช่น การออกกำลัง , โภชนาการ , และอื่นๆ โดยส่วนใหญ่เทรนเนอร์ส่วนตัวนั้นจะอยู่ตามสถานที่ออกกำลังกายหากเป็นเทรนเนอร์ด้านนี้ และจะมีการว่าจ้างกันเป็นพิเศษ รายได้นั้นจะคิดกันเป็นรายชั่วโมง หรือเป็นคอร์ส
5.สถานพักฟื้น หรือ รีสอร์ทสุขภาพ
สำหรับสองธุรกิจนี้มองว่าสามารถทำกำไรได้ในระยะยาว แม้ว่าในตอนนี้บ้านเรายังไม่ตื่นตัวเรื่องนี้มากนัก แต่ก็มีผู้ประกอบการเปิดกิจการบ้างแล้ว เช่นสถานพักฟื้นสำหรับผู้ป่วยที่มีเปิดใหม่ตามต่างจังหวัดที่เน้นธรรมชาติที่สะอาด สงบ และมีบริการแบบครบวงจร คือมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล มีแพทย์ประจำ และใกล้โรงพยาบาล ส่วน รีสอร์ทสุขภาพ ก็ยังมีผู้ประกอบการไม่มากนักและอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวที่มีอากาศดีๆซะเป็นส่วนใหญ่เช่น เชียงราย ราชบุรี ซึ่งรีสอร์ทแนวนี้จะเน้นการพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ มีคอร์สบำบัดร่างกายเช่น การนวดสปา การทำสมาธิ การดีท๊อกซ์และเน้นเรื่องของอาหารที่เป็นคลีนและใช้วัตถุดิบที่ปลูกเองหรือปลอดสารพิษ พร้อมทั้งมีกิจกรรมอื่นๆที่เน้นใกล้ชิดธรรมชาติด้วย
จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะเป็นเทรนด์ของธุรกิจและอาชีพแนวสุขภาพที่ยังสามารถเติบโตได้ในปีหน้าและปีต่อๆไป หากใครมีไอเดียมีทุนและอยากลองทำธุรกิจก็ลองหันมาต่อยอดกับ เทรนด์สุขภาพ กันดู