เส้นทางสู่ความสำเร็จในการทำงานนั้นใช้ว่าจะได้มาอย่างง่ายดาย จะต้องใช้การเรียนรู้ พัฒนาและใช้ระยะเวลาในการก้าวไปให้ถึงจุดนั้น ซึ่งแต่ละคนที่ประสบความสำเร็จได้ล้วนเคยประสบปัญหากันมาก่อนทั้งนั้น ทั้งปัญหาที่เกิดจากงาน ปัญหาที่เกิดจากตัวเอง ปัญหาจากลูกค้าหรือแม้แต่ปัญหาที่เกิดจากเพื่อนร่วมงาน ซึ่งเส้นทางที่คุณจะประสบความสำเร็จได้นั้นต้องผ่านบททดสอบหลาย ๆ อย่างเพื่อพิสูจน์ว่าคุณแกร่งแค่ไหน คุณจะผ่านมันไปได้หรือเปล่า เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยพิสูจน์ตัวเองคุณความสามารถของคุณ ซึ่งในบทความนี้ได้นำแนวคิดและวิธีช่วยให้การทำงานของคุณประสบ ความสำเร็จในการทำงาน ไปได้มาฝากไว้เพื่อให้คุณได้ดำเนินรอยตามต่อไป ดังนี้
-
การเปิดใจและคิดบวก
เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การทำงานนั้นไปสู่ความสำเร็จ การที่คุณเริ่มเปิดใจกับงานที่ทำ จะแสดงถึงศักยภาพในตัวคุณว่ามีความพร้อมในการทำงานมากแค่ไหน ช่วยให้คุณได้เรียนรู้และมองสิ่งที่เห็นได้แตกต่างจากเดิมที่เคยรู้จัก ซึ่งการเปิดใจนี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้งานได้เร็วและเข้าใจผู้คนรอบข้างได้ง่ายขึ้น เข้าใจการแสดงออกทางความคิดของผู้อื่นได้มากขึ้น เมื่อเกิดปัญหากับงานที่ทำ หากคุณเป็นผู้ที่คิดบวก คุณจะนำปัญหาเหล่านั้นมาปรับปรุงและแก้ไขในข้อผิดพลาดเพื่อพัฒนาให้ดีขึ้น โดยที่ไม่ต้องกังวลหรือปวดหัวกับจิตที่มักจะสร้างความท้อแท้เมื่อเจอกับอุปสรรคอีกต่อไป
2. การรับฟัง
การรับฟังเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับการทำงาน ถือได้ว่าสำคัญมากกว่าคำพูด เพราะการรับฟังทั้งจากเจ้านายหรือเพื่อนร่วมงาน จะช่วยให้คุณได้ทราบข้อมูลที่พวกเขาเหล่านั้นต้องการสื่อสารกับคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การรับฟังคำวิจารณ์และนำคำวิจารณ์เหล่านั้นเพื่อมาปรับปรุงให้งานที่คุณทำอยู่นั้นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ในทางตรงกันข้ามหากคุณไม่รับฟังข้อติชมหรือคำแนะนำจากผู้อื่นเลย ก็จะทำให้คุณเป็นผู้ที่มีทัศนคติแคบ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนกำลังทำนั้นถูกหรือผิดและไม่สามารถพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้ ส่งผลไปถึงคุณภาพของงานให้ออกมาไม่ดี ส่งผลเสียต่อบริษัทอีกมากมาย
3. จิตใจที่สงบ
เป็นสิ่งหนึ่งที่คนทำงานควรมี เพราะการที่คุณมีจิตใจสงบเมื่อประสบปัญหา จะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับปัญหานั้น ไม่รู้สึกกังวลและสับสน ความสงบก่อให้เกิดความมีสติ สติจะช่วยให้คุณคิดและหาวิธีแก้ปัญหานั้นออกมาให้ดีได้ ที่สำคัญยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของคุณอีกด้วย เพราะหากมีสติ จะสามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดี ไม่ก่อให้เกิดความเครียดหรือกังวลใด ๆ
4. ความอดทน
เป็นสิ่งที่คนทำงานทุกคนจะต้องเจอ การทำงานทุกตำแหน่งนั้นย่อมมีแรงกดดัน และปัญหาที่เข้ามาเพื่อพิสูจน์ความสามารถการทำงานอยู่เสมอ เมื่อคุณทำงานได้ดี จะได้รับคำชม เมื่อคุณทำงานออกมาไม่ดี คุณจะต้องได้รับการคอมเพลนจากหัวหน้างาน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติและคุณต้องใช้ความอดทนในการฟังความผิดจากการทำงานที่คุณได้ก่อขึ้นและนำสิ่งเหล่านั้นมาปรับปรุง หากตัวคุณขาดความอดทนจากแรงกดดันต่าง ๆ จากการทำงาน คุณก็จะไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ซึ่งมักจะเห็นได้จากการทำงานของคนรุ่นใหม่ในสมัยนี้ที่ขาดคุณสมบัติเรื่องความอดทน พวกเขานั้นมักทำงานได้ไม่นาน เมื่อเกิดปัญหา มักจะตัดสินและแก้ไขปัญหาด้วยการลาออก
5. การตรงต่อเวลา
เป็นบทเรียนบทหนึ่งที่สะท้อนคุณภาพการทำงาน การตรงต่อเวลาเป็นสิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญทั้งการมาทำงานตรงเวลา การส่งงานที่ตรงเวลาหรือการไปให้ทันนัดของลูกค้า เพราะเรื่องของการตรงเวลานั้นเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบที่คุณต้องมี เพราะมันจะส่งผลลัพธ์ไปถึงเรื่องความน่าเชื่อถือทั้งของตัวคุณและองค์กรที่คุณทำอยู่ เช่น หากคุณส่งงานไม่ทันเวลา สิ่งที่เกิดขึ้นคือลูกค้าก็จะได้รับงานล่าช้า เกิดความเสียหายแก่ธุรกิจของลูกค้าและส่งผลกระทบต่อบริษัทที่คุณทำงาน ซึ่งผลเสียนั้นจะมาเป็นทอด ๆ มากมาย ดังนั้นเรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญที่คุณต้องเอาใจใส่มากเพราะเป็นอีกหนึ่งก้าวของความสำเร็จในการทำงาน
6. ความสุภาพ
เป็นสิ่งที่ช่วยให้การทำงานของเรานั้นสามารถประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี ทั้งในเรื่องของคำพูดที่พูดจาไพเราะ ความนอบน้อมถ่อมตน การรู้จักกาลเทศะและการให้อภัย สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณดูเป็นคนมีเสน่ห์ เมื่อใครพบเห็นก็จะรู้สึกดีกับคุณซึ่งส่งผลไปถึงเรื่องงาน หากคุณเป็นคนสุภาพต่อผู้อื่น ในยามที่คุณมีปัญหาหรือไม่เข้าใจในเรื่องการทำงาน เพื่อนร่วมงานจะยินดีให้ความช่วยเหลือ ซึ่งในคุณสมบัติข้อนี้จะช่วยให้การทำงานก้าวหน้าไปได้ง่าย ทั้งยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกับคุณในทางอ้อมด้วยเช่นกัน ซึ่งจะต่างจากผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติในข้อนี้ นอกจากจะทำให้ตัวเขาดูไม่ดีแล้ว ยังส่งผลไปถึงการทำงานที่ไม่มีใครอยากให้ความช่วยเหลือ
7. ความเป็นมืออาชีพ
คือการที่คุณฝึกฝนจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานที่เราทำ เกิดความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจทั้งจากลูกค้าและนายจ้าง นอกจากนี้การฝึกฝนฝีมือ การเรียนรู้เพื่อเพิ่มทักษะและความสามารถในด้านสายงานของตัวเองนั้นจะช่วยส่งเสริมให้คุณเป็นคนที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความชำนาญในงานมากขึ้นและสามารถทำงานนั้น ๆ ให้ออกมาดีได้ เป็นการแสดงออกให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจที่คุณมีให้กับงานที่ทำ
อ่านเพิ่มเติม >> เคล็ดลับอัพเกรดตัวเองให้เป็น สุดยอดมนุษย์เงินเดือน <<
ทั้ง 7 ข้อนี้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนเพื่อก้าวสู่ความสำเร็จโดยจะเห็นได้ว่าเป็นการฝึกฝนทั้งทางด้านทักษะความสามารถและฝึกฝนทักษะด้านจิตใจควบคู่กันไป ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานได้ทั้งผู้ที่เริ่มทำงานและผู้ที่มีอายุงานสูง ทั้งบุคคลทั่วไปยังสามารถนำแนวทางทั้ง 7 ข้อนี้ไปปรับใช้กับการใช้ชีวิตประจำวัน ถือเป็นแนวคิดที่ให้ประโยชน์ทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิตที่จะช่วยส่งผลให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น