จากข่าวนี้ : กรมบัญชีกลางกำลังศึกษาปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ และให้บุคลากรของรัฐได้รับฐานเงินเดือนที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน คาดได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ เมื่อวานนี้ (4 ม.ค.2559) นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า หลังจากตัวแทนสมาพันธ์และหน่วยงานต่างๆ ของรัฐได้ยื่นหนังสือถึงนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เสนอปรับโครงสร้างเงินเดือนข้าราชการ โดยการปรับเงินเดือนราชการในปัจจุบันมีทั้งการปรับเพิ่มตามผลงานของแต่ละคนภายในหน่วยงานแต่ละปีประมาณร้อยละ 5-6 และอีกส่วนหนึ่ง คือการปรับโครงสร้างทั้งระบบ โดยจะปรับขึ้น 3-4 ปีต่อครั้ง นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า ปัจจุบันยังมีความเหลื่อมล้ำระหว่างส่วนราชการกับองค์การมหาชน ขณะที่องค์การมหาชนผู้บริหารได้รับเงินเดือนสูงสุด 150,000-300,000 บาทต่อเดือน แต่ส่วนราชการได้รับแค่ 76,000 บาท บางครั้งผู้บริหารส่วนราชการไปดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดองค์การมหาชนยังได้รับเงินเดือนน้อยกว่าผู้อำนวยการองค์การมหาชน แม้จะมีความรับผิดชอบสูงกว่า คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
( ที่มา http://money.sanook.com/346341/)
อยากบอกว่าเรื่องขึ้นเงินเดือนราชการนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะหากดูตามข่าวแล้วทางผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนำเงินเดือนของข้าราชการระดับสูงเทียบกับ CEO หรือพนักงานระดับสูงในองค์กรเอกชนนั้นมันจะเห็นส่วนต่างอย่างเห็นได้ชัด แต่หากเทียบกับพนักงานระดับล่างกับข้าราชการระดับล่างจะเห็นได้ว่าไม่ค่อยแตกต่างกันมากนักเพราะฐานเงินเดือนที่เริ่มต้นของข้าราชการในระดับปริญญาตรีจะสตาร์ทที่ 15,000 บาทและมีสวัสดิการอื่นๆแต่ของเอกชนส่วนใหญ่จะสตาร์ทต่ำกว่า 15,000 บาทนอกจากนี้ในระบบราชการ ปัจจุบันหลายหน่วยงานในภาครัฐจ้างงานแบบอัตราจ้างคือ ไม่บรรจุเป็นข้าราชการประจำ ไม่มีสวัสดิการอื่นๆนอกเหนือจาก ประกันสังคมเท่านั้นซึ่งหน่วยงานที่เห็นได้ชัดตอนนี้คือ ครูอัตราจ้าง ที่กระจายอยู่ตามโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ นอกจากนี้ในหน่วยงานรัฐหลายแห่งแม้แต่ตามกระทรวงก็มีลูกจ้างอัตราจ้างเช่นกัน ซึ่งหากมองอย่างเป็นธรรมการประกาศขึ้นเงินเดือนให้แต่ข้าราชการแต่ไม่มีการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับลูกจ้างรายวันและคนทำงานที่เงินเดือนต่ำกว่า 15,000 บาทก็ดูจะไม่เป็นธรรมมากนักเพราะด้วยค่าครองชีพที่สูงขึ้นในทุกๆวัน คนทำงานที่ได้ค่าแรงเป็นรายวันหรือลูกจ้างที่รายได้ต่ำกว่าที่กล่าวมาอาจจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน
ที่ว่าจะได้รับผลกระทบนั้นส่วนหนึ่งจะมาจากราคาสินค้าต่างๆที่มักจะมีการฉวยโอกาสขึ้นราคาพร้อมๆกับมีการประกาศขึ้นเงินเดือนทั้งเอกชนและภาครัฐซึ่งเป็นปัญหาที่เห็นกันมาทุกปี จากการประกาศขึ้นเงินเดือนทั้งค่าแรงขั้นต่ำและปรับเงินเดือนข้าราชการ แม้ว่าจะยังไม่มีการปรับจริงแต่ราคาสินค้าจะขึ้นไปรอก่อนล่วงหน้าแล้ว
ซึ่งในเรื่องนี้นั้นหลายคนคิดว่ามันเป็นกลไกตลาดแต่ในความเป็นจริงอยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบนั้นออกมาตรการคุมราคาสินค้าก่อนที่จะมีการปรับขึ้นเงินเดือนทั้งในส่วนของราชการและค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องได้รับผลกระทบจากการที่จะ ปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ เพราะในปีนี้นั้นแนวโน้มค่าแรงขั้นต่ำอาจจะยังไม่มีการปรับตัวขึ้น และในภาคเอกชนส่วนใหญ่ไม่มีการปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานเพราะโดนผลกระทบจากเศรษฐกิจที่เงียบ
เพิ่มเติม : บัตรเครดิต ซิตี้แบงก์ ครบทุกสไตล์ ในการใช้จ่าย