คุณเป็นหนี้เพราะนิสัยแบบนี้รึเปล่า ?
ในยุคที่ไม่ว่าเราจะหันไปทางไหนก็ต้องใช้เงินซื้อไปหมดทุกอย่าง การใช้ชีวิตประจำวันมีพิธีรีตองมากขึ้น สังคมอยู่ยากขึ้น เนื่องจากการแข่งขันสูงในทุกเรื่อง เมื่อการเข้าสังคมเป็นสิ่งสำคัญที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เราจึงต้องสร้างภาพลักษณ์ที่คล้ายคลึงกับคนในสังคมที่เราอยู่เพื่อไม่ให้เกิดความแปลกแยก ไม่ว่าจะเป็นการมีรถยนต์ขับ มีกระเป๋าหรู หรือการกินกาแฟแก้วละร้อยทุกวัน เหล่านี้ล้วนเป็นค่านิยมที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อตอบสนองความรู้สึกต้องการเป็นที่หนึ่งเหนือกว่าใคร ๆ ซึ่งเป็นสัญชาติญาณพื้นฐานของสัตว์สังคม เช่น มนุษย์ นี่เอง
ด้วยเหตุนี้คนเราจึงขวนขวายอยากได้สิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองอย่างไม่จบไม่สิ้น สำหรับคนที่มีกำลังทรัพย์มากก็คงไม่ใช่เรื่องยากนักหาซื้อสิ่งของต่าง ๆ มาตอบสนองความต้องการของตนเอง แต่หากเป็นคนที่มีฐานะปานกลาง หรือมีรายได้น้อย กว่าจะซื้อของพิเศษสักชิ้นนั้นดูจะเป็นเรื่องที่ยากเหลือเกิน เพราะลำพังรายรับที่หามาได้ก็ต้องจ่ายไปกับเรื่องจำเป็นในการดำรงชีวิตเสียหมดแล้ว ดังนั้นจึงทำให้เกิดการก่อหนี้สิน ทำให้เกิดหนี้ ขึ้นมา เนื่องจากความไม่สมดุลของรายรับและรายจ่ายประกอบกับความต้องการที่มากเกินจำเป็น การหยิบยืมเงินผู้อื่นก็ดี การกู้เงิน จำนำ-จำนองก็ดี หรือแม้แต่การใช้บัตรเครดิตเหล่านี้ล้วนเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้องนักในระยะยาว
อ่านเพิ่มเติม >> ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ทำให้เป็นหนี้ ! <<
1.ไม่รู้จักประหยัดเก็บออม
เมื่อมีรายรับเข้ามาก็นำเงินไปใช้จ่ายในสิ่งที่ต้องการ เช่น กินอาหารนอกบ้านในร้านหรู ซื้อเสื้อผ้าราคาแพง หรือซื้อของที่เกินความจำเป็น ในยามที่ยังมีรายได้ไม่มากนักเมื่อเงินเดือนออกเราต้องรู้จักวางแผนการใช้เงินเสียก่อนด้วยการสำรวจค่าใช้จ่ายรายเดือนของตนเองอย่างละเอียด เพื่อจะได้ทราบว่ามีค่าใช้จ่ายในส่วนใดที่พอจะปรับลดลงได้บ้าง สิ่งไหนจำเป็นกว่ากันมากน้อยเพียงใดควรมีการจัดลำดับความสำคัญเสียก่อน เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าที่พัก หากคุณลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นได้แล้วคุณจะมีเงินเก็บเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
2.ไม่รู้จักประมาณตน ทำอะไรเกินตัว
คนที่มีนิสัยเช่นนี้มักเป็นคนที่ต้องการถูกยอมรับจากผู้อื่นสูง จึงต้องแสดงให้เห็นและรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่มีฐานะอยู่เสมอ มีหน้าตาในสังคมมักมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ที่มากกว่าคนปกติทั่วไป ด้วยต้องการโอ้อวดเพื่อให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในสังคมคนประเภทนี้จึงต้องทำทุกอย่างเพื่อสร้างภาพลักษณ์อยู่เสมอ แม้จะต้องหยิบยืมเงิน เป็นหนี้สินก็ตามดังคำที่ว่า “เสียเงินไม่ว่า แต่เสียหน้าข้าไม่ยอม”
3. ชอบเล่นการพนัน ติดอบายมุข
คนสมัยก่อนจะสอนลูกหลานด้วยสุภาษิตว่า “ถูกโจรปล้น 10 ครั้ง ยังไม่เท่าไฟไหม้หนึ่งครั้ง ถูกไฟไหม้สิบครั้งยังไม่เท่าเสียพนันครั้งเดียว” เป็นคำกล่าวที่อธิบายได้ดีถึงคนที่มีนิสัยชอบเสี่ยงดวงพนันขันต่อ หาเงินมาได้เท่าไหร่ก็หมดไปกับการพนัน บางรายอาจหนักถึงขั้นเสียบ้านเสียรถ หมดตัวบ้านแตกสาแหรกขาดเลยก็มี ยังรวมไปถึงการติดสุราและอบายมุขอื่น ๆ อีกด้วย
4. นิสัยเกียจคร้าน รักสบาย
ความเกียจคร้านเป็นอุปสรรคตัวสำคัญที่ทำให้คนไม่เจริญก้าวหน้า คนที่ขี้เกียจไม่มะนะบากบั่นทำอะไรมักไม่มีความอดทน ในที่สุดสิ่งที่ลงทุนทั้งหมดไปจึงเสียเปล่า หากเกียจคร้านไม่มีวินัยในตนเองเสียแล้วการจะลงแรงทำอะไรสักอย่างย่อมไม่ได้ผลตอบแทนที่ดีกลับคืนมา ดังคำในโฆษณาที่ว่า “ทำงานให้เหงื่อออกตามรูขุมขน ดีกว่าขี้เกียจแล้วยากจนจนน้ำล้นออกทางตา” เป็นสิ่งที่คอยเตือนใจไม่ให้เราเกียจคร้านได้ดีอย่างยิ่ง
5. ไม่พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่รู้จักพอมักมีความต้องการใหม่ ๆ อยู่เสมอ บางคนทะเยอทะยานทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้สิ่งนั้นสิ่งนี้มาครอบครองโดยที่ไม่คำนึงถึงวิธีการ หรือผลลัพธ์ในภายหลัง ยอมสบายวันนี้ลำบากวันหน้าจึงทำให้เป็นหนี้สินที่เกิดจากการใช้จ่ายมากเกินความจำเป็น
ตัวอย่างการเป็นหนี้ เช่น การใช้บัตรเครดิตเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มนุษย์เงินเดือนในปัจจุบันนิยมใช้เพื่อตอบสนองความต้องการของตน เปรียบเสมือนการนำเงินในอนาคตมาใช้ก่อนโดยที่ยังไม่ได้ลงแรงทำงานโดยหารู้ไม่ว่ามันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราต้องทำงานหนักเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า เนื่องจากต้องใช้หนี้ค่าดอกเบื้อบัตรเครดิตที่สูงลิ่วเมื่อถึงสิ้นเดือน ในขณะที่รายรับยังเท่าเดิมเมื่อเงินที่เหลืออยู่ใช้ไม่พอสำหรับเดือนถัดไปจึงต้องหยิบยืมเงินจากบัตรเครดิตมาใช้อีก ซ้ำแล้วซ้ำเล่า กลายเป็นวัฏจักรแห่งหนี้สินที่ไม่มีวันสิ้นสุดและมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
หากต้องการปลดหนี้ หนึ่งทางเลือกที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากตัวเองคือการลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออกไป ไม่ใช้เงินเกินกำลัง ลดการซื้อสิ่งของฟุ่มเฟือยรวมไปถึงการใช้บัตรเครดิตเฉพาะยามจำเป็นเท่านั้น เพื่อคุณจะได้ไม่เป็นหนี้อีกต่อไป แล้วชีวิตของคุณจะมีความสุขมากขึ้นเมื่อรู้จักควบคุมความต้องการให้พอประมาณ รู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองมี ไม่ยึดติดกับวัตถุนิยมจนเกินไปนัก ผลพลอยได้จากการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นอาจทำให้คุณมีเงินออมมากขึ้นอีกด้วยเพื่อนำไปสร้างเป้าหมายชีวิตที่ดีกว่าในอนาคต
เพิ่มเติม : บัตรเครดิต ซิตี้แบงก์ แคชแบ็ก คืนเงินทุกครั้งที่ใช้จ่าย