ตลอดช่วงปี พ.ศ. 2558 ที่ผ่านมา คงต้องยอมรับว่าภาคเศรษฐกิจจริงของไทยยังไม่พ้นจากอิทธิพลของภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ปรากฏอยู่ทั่วโลก ส่งผลทำให้สถานการณ์และการตัดสินใจในการลงทุนทั้งในตลาดเงินและตลาดทุนของนักธุรกิจส่วนหนึ่งต่าง ๆ ค่อนข้างจะหยุดชะงัก ดังนั้นในวันนี้ได้รวบรวมทรรศนะของกูรูตลาดหลักทรัพย์หลายท่านมาให้ความเห็นต่อ อนาคตตลาดหุ้นไทย ในปีลิงนี้
ก่อนจะปิดตลาดหุ้นปี 2558:
สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในปีนี้ ทุกสำนักล้วนคาดการณ์ไปในทิศทางใกล้เคียงกันว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยน่าจะอยู่ในช่วงประมาณ 1,400-1,450 จุด ซึ่งส่วนใหญ่เห็นว่าผลกระทบจากความผันผวนของภาคเศรษฐกิจจริง ทั้งเศรษฐกิจที่ผันผวนในจีน การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ราคาน้ำมันดิบตลาดโลก เหล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อการเติบโตของตลาดหุ้นไทย ซึ่ง 2-3 สำนักอย่าง นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ และ นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. กสิกรไทย จำกัด ให้ข้อสรุปที่เหมือนกันว่าในภาพรวมคาดการณ์ว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยสิ้นปีนี้น่าจะปิดอยู่ในระดับ 1,450 จุด ขณะที่บางสำนักให้ความเห็นการปิดตลาดหุ้นในระดับที่ต่ำกว่าเล็กน้อย เช่น ความเห็นของ คุณชวินดา หาญรัตนกุล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย ที่คาดการณ์ไว้ว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ สิ้นปีนี้จะปิดตลาดในระดับ 1,410 จุด
ทั้งนี้ความเห็นหนึ่งจาก ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ มองว่าแม้ว่าประเทศไทยจะมีแผนการลงทุนในในโครงพื้นฐาน เช่น เส้นทางคมนาคมที่มุ่งสู่เขตเศรษฐกิจพิเศษต่าง ๆ ที่สำคัญในปีหน้าแต่งบประมาณจริงยังไม่ได้รับการอนุมัติ ดังนั้นเมื่อประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองและความมั่นคงของรัฐบาล ความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติจึงยังไม่สูงนัก ดังนั้นนักลงทุนอาจจะต้องระวังและประเมินสถานการณ์ในตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง
อนาคตหุ้นไทยในปีลิง :
อย่างไรก็ตาม สำหรับอนาคตตลาดหุ้นไทยในปี พ.ศ. 2559 ทุกสำนักล้วนคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะมีการปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น และโดยรวมแล้วในปี พ.ศ. 2559 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยน่าจะเกาะกลุ่มกันอยู่ในช่วงระหว่าง 1,600 จุด ถึง 1,800 จุด ทั้งนี้ความเห็นของ บล.เอเซีย พลัสฯ ประเมินดัชนีหุ้นไทยในปีหน้าว่าน่าจะอยู่ที่ระดับ 1,575 จุด (อิง P/E 16 เท่า) ขณะที่บลจ.กรุงไทยคาดการณ์ในระดับที่ใกล้เคียงกันว่าตลาดหุ้นในปีลิงจะขยับระดับเพิ่มขึ้นสู่ 1,580 จุด อันเป็นผลตามมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้า นอกจากนี้ สำหรับบลจ. กสิกรไทย โดย นายพงศ์พิเชษญ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ. เห็นว่าตลาดหุ้นจะได้รับปัจจัยบวกจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งปัจจัยบวกในประเทศที่สำคัญ ได้แก่ โครงการลงทุนในการก่อสร้างเส้นทางคมนาคมของภาครัฐที่มีความชัดเจนมากขึ้น และรวมถึงความชัดเจนในเรื่องการประมูลคลื่นความถี่ 4G ตลอดจนสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา หรือกลุ่มประเทศยุโรป ดังนั้น บลจ.กสิกรไทยจึงประเมินความเป็นไปได้ว่าตลาดหุ้นไทยจะเติบโตไปแตะที่ระดับ 1,600 จุด ด้วยอัตราส่วน Forward P/E ที่ระดับ 15 เท่า และสำหรับความเห็นจากสำนักสุดท้ายที่ประเมินสถานการณ์หุ้นไทยในปีหน้า คือ บลจ.ไทยพาณิชย์ ที่คาดการณ์ในทางบวกมากกว่าทุกสำนัก โดยเห็นว่าอนาคตตลาดหุ้นไทยค่อนข้างสดใสมากที่สุด ซึ่งประเมินว่าจะแตะที่ระดับ 1,800 จุดในปี พ.ศ. 2559
อ่านเพิ่มเติม >> จับตา หุ้นเด่น ปี 2559 <<
หุ้นกลุ่มพลังงานยังไม่ควรเสี่ยงลงทุน :
จากผลการประชุมของ กลุ่มประเทศโอเปคที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ส่งสัญญาณให้นักวิเคราะห์หลายท่านคาดการณ์ว่า เมื่อราคาน้ำมันปรับลงอย่างรุนแรงใกล้ระดับต่ำที่สุดในรอบ 11 ปี ประกอบกับการปรับอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา ทำให้สถานการณ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานคาดว่าจะมีการปรับฐานกันครั้งใหญ่ ดังนั้นสำหรับหุ้นกลุ่มพลังงานที่หลายคนอาจจะมองไว้ควรจะชะลอหรือรอดูสถานการณ์ไปก่อน ซึ่งข้อเสนออื่น ๆ จากนักวิเคราะห์ระบุว่าควรให้ความสำคัญกับรายงานของ IAEA ในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ว่า ประเทศอิหร่านจะได้รับการผ่อนปรนและสามารถส่งออกน้ำมันดิบตามข้อตกลงได้หรือไม่
สถานการณ์หุ้นกลุ่มสื่อสาร :
สำหรับหลายฝ่ายที่กำลังติดตามการประมูลคลื่นความถี่ 900MHz นักวิเคราะห์ประเมินว่าอาจมีภาวะความกดดันต่อราคาหุ้นสื่อสารได้หากการประมูลคลื่นความถี่ 4G ยืดเยื้อต่อไป อีกทั้งส่วนหนึ่งยังไม่แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหรือเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มนี้หากนักลงทุนไม่สามารถรับความเสี่ยงระดับสูงได้
อนาคตของหุ้นไทยปีหน้ายึดหัวหาดภาคก่อสร้าง:
จากโครงการก่อสร้างขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมกว่า 30,000 ล้านบาทที่รัฐบาลวางนโยบายการลงทุนไว้ในปีหน้า ส่งผลทำให้กลุ่มหุ้นไทยในส่วนของการก่อสร้าง กลุ่มค้าปลีก และรวมถึงภาคการท่องเที่ยวยังคงเป็นหุ้นที่มีอนาคตค่อนข้างชัดเจน ซึ่งแรงกระตุ้นสำคัญจากปัจจัยภายในประเทศและรวมถึงมาตรการประกาศของรัฐว่า ปี พ.ศ. 2559 จะเป็นปีแห่งการลงทุน โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ทำให้มีส่วนสนับสนุนให้หุ้นในกลุ่มข้างต้นมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในการกระจายความเสี่ยง ทรรศนะของกูรูบางท่านอย่าง ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ให้ความเห็นในทิศทางที่ต่างออกไป ทั้งนี้มีข้อเสนอว่านักลงทุนควรกระจายการลงทุนในกลุ่มหุ้นต่างประเทศเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากมีแนวโน้มว่าตลาดโลกในปีหน้าจะฟื้นตัวได้ในกลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา หรือสำหรับนักลงทุนบางกลุ่มที่ต้องการตลาดใหม่ที่น่าสนใจ ตลาดหุ้นจีนก็นับว่าเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่น่าสนใจในการลงทุน แต่ทั้งนี้ควรเลือกกลุ่มบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ที่ราคาหุ้นไม่สูงมากนัก
อ่านเพิ่มเติม >> วิเคราะห์แนวโน้มการ ลงทุนตามเส้นทางรถไฟฟ้า ตอนที่ 1 <<