วันนี้มีเกร็ดความรู้ การใช้ชีวิตที่ดีๆมาบอกกันนะคะ สิ่งที่เราจะกล่าวดังต่อไปนี้นั้น รู้ไว้ใช่ว่านะคะ วันนี้ลองมา สำรวจการเงินในกระเป๋า ของคุณกันดีกว่าว่ายังคงสมบูรณ์หรือไม่ และหากคุณต้องเจอกับ หรือเป็นอีกคนหนึ่งที่ได้อยู่ในกระแสเลย์ออฟจะสามารถที่อยู่ได้หรือเปล่า ? หรือจะต้องทำอย่างไร หากวันนี้การเงินในกระเป๋าคุณนั้นไม่ได้แข็งแรงพอนั่นเอง วันนี้เรามีมีมาตรฐานมาวัดกันค่ะ
สิ่งที่คุณเองควรที่จะมอง หรือทำการสำรวจนั้นคือการที่คุณต้องเริ่มที่จะทำการเช็คสภาพความเป็นอยู่ หรือการใช้ชีวิตประจำวันก่อนนะคะ ด้วยดูสิ่งต่างๆดังต่อไปนั้น
1. มีเงินเก็บหรือยัง ?
สำรวจเงินจำนวนเงินในบัญชีของคุณว่าตอนนี้หากเกิดการว่างงานนั้น มีเงินสำรองเพื่อที่จะรองรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นได้นานเท่าไหร่ แต่หากวันนี้เงินสำรองไม่มีหลงเหลืออยู่เลยนั้นบอกได้เลยว่าเข้าขั้นวิกฤติอย่างรุนแรงแล้วล่ะค่ะ เพราะถึงแม้ว่าสถานภาพทางการเงินของคุณ จะอยู่ในระดับที่ปก แต่วันหนึ่งเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเรื่องยุ่งยากทางการเงินคุณอาจแย่ก็ได้ ถ้าพบว่าคุณไม่เคยมีเงินเหลือเก็บในบัญชีเลย ไม่มีเงินเหลือพอที่จะเก็บเอาไว้ให้อุ่นใจ เมื่อไรที่เกิดเหตุฉุกเฉินในชีวิตขึ้นมา คราวนี้ล่ะหาทางออกลำบาก เพราะการเป็นผู้ปลอดเงินออมคือ อาการเบื้องต้นของผู้ที่มีสุขภาพทางการเงินอันย่ำแย่
ต่อมาเรื่องที่มาน่าจะเกิดขึ้นกับคุณเลย จะหาเรื่องเป็นหนี้เป็นสินกันทำไมก็ไม่รู้นะคะ นั่นคือการที่คุณเองพกบัตรเครดิตนั่นเองค่ะ ยอมรับมาเถอะว่าการเงินของคุณนั้นเข้าขั้นวิกฤติแล้วนั่นเอง หากวันนี้คุณเองต้องแบกภาระกับบัตรเครดิตมากกว่า 10 ใบ
2. ต้องจ่ายหนี้แต่ละเดือนเท่าไหร่บ้างล่ะ ?
สำรวจภาระหนี้สินที่คุณต้องรับผิดชอบในแต่ละเดือนเพื่อที่จะได้วางแผนทางการเงินที่ถูกต้อง อ่อ…อย่าลืมหนี้จากบัตรเครดิตด้วยนะ เพราะบัตรเครดิตก็เปรียบเสมือนเหมือนแหล่งเพาะชำหนี้ชั้นดีทีเดียวไม่ต้องทำบัตรเครดิตถึง 10 ใบ คุณก็เท่และบุคลิกดีได้ ตรงกันข้ามเมื่อไรที่พกบัตรเครดิตมากกว่า 10 ใบ นั่นแหละ สัญญาณไม่ดีเริ่มมาเยือนแล้ว
รู้ตัวเองได้เลยว่าการเงินของคุณถึงขั้นวิกฤติแล้ว หากเดือนที่ผ่านมาๆนั้นคุณได้ชำระค่าบัตรเครดิตด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แต่ปัจจุบันนี้ได้เลือกที่จะผ่อน หรือชำระตามเงินขั้นต่ำนั่นเอง
3. หนี้ใหม่ หนี้เก่า พันกันวุ่น
ยืมเงินจากเจ้าหนี้รายใหม่มาชำระเจ้าหนี้รายเดิม อีกอาการหนึ่ง ที่บ่งบอกได้ว่า ฐานะการเงินของคุณกำลังทำท่าว่าจะไม่ค่อยดี นั่นคือ การยืมเงินจากเจ้าหนี้รายใหม่มาชำระเจ้าหนี้รายเดิม หรือกู้เงินก้อนใหม่มาโปะหนี้ก้อนเก่า จากเดิมที่แค่หมุนเงินเฉพาะจากบัตรเครดิตใบต่างๆ อาจจะเริ่มหันไปกู้สินเชื่อบุคคล กู้เงินด่วน หรือแย่กว่านั้นคือ กู้เงินจากเจ้าหนี้นอกระบบ
การเงินในกระเป๋านี้ไม่เข้าใครออกใครเสียจริงๆนะคะ คุณควรจะรู้ตัวได้แล้วว่าระบบการเงินย่ำแย่มากเมื่อคุณต้องการเงิน โดยทำการกู้เพิ่มมากยิ่งขึ้น ยอมรับว่าตอนนี้คุณอาจมีกำลังในการผ่อน หรือจ่าย แต่เชื่อเถอะหากเกิดเหตุการณ์ที่ได้กล่าวมานั้น คุณจะอ้าปากค้างกับความบานปลายของหนี้สินเลยก็ว่าได้นั่นเองค่ะ
4. บอกไม่ได้ว่ามีหนี้เท่าไหร่
และแล้วก็มาถึงจุดนี้จนได้นะคะเมื่อถึงเวลาที่คุณไม่สามารถประมาณการหนี้สินทั้งหมดเมื่อไรก็ตาม ที่คุณแค่รู้สึกว่า กลายเป็นคนที่มีหนี้รุงรังเต็มไปหมด และเริ่มจับต้นชนปลายไม่ได้ว่ามูลหนี้ทั้งหมดมีอะไรบ้าง หรือหนี้ที่งอกงามขึ้นนั้นเกิดจากอะไรบ้าง และรวมกันทั้งก้อนเป็นเงินเท่าไร พูดง่ายๆ คือ ไม่สามารถประมาณการได้มีหนี้สินรวมทั้งหมดเท่าไร
5. ส่งค่างวดไม่ไหว หมุนเงินไม่ทัน
ถ้าจู่ๆ ก็ปล่อยให้การผ่อนรถ บ้าน ล่าช้าขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยแบบนี้ เขาเรียกเกิดอาการสภาพคล่องติดขัด กระแสเงินสดหมุนเวียนไม่เป็นปกติ สัญญาณแบบนี้อย่านิ่งนอนใจไป ต้องรีบตรวจเช็คว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้นกับสุขภาพทางการเงินของคุณเมื่อพบว่าต้นตอของปัญหาอยู่ตรงไหน ต้องรีบสะสางให้จบโดยเร็ว อย่าปล่อยปละละเลยด้วยการส่งค่างวดบ้านและรถล่าช้า เพราะนั่นอาจกระทบถึงเครดิตทางการเงินในระยะยาวของคุณ ทางที่ดี ถ้าเริ่มมีปัญหาในการผ่อนชำระ รีบเข้าไปหารือกับสถาบันการเงินเจ้าหนี้ บอกกล่าวถึงปัญหาอย่างตรงไปตรงมา เพื่อหาทางคลี่คลายปัญหา
เริ่มสงสัยตัวเองได้แล้วหากคุณเป็นคนหนึ่งที่รักสุขภาพ แต่อยู่ๆขอหยุดส่งประกันกลางทาง เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ส่งสัญญาณเตือนให้คุณหันมาใส่ใจกับสุขภาพทางการเงินให้มากขึ้น ทางที่ดี ถ้ารู้ว่ามีภาระต้องส่งประกันแบบนี้ และไม่อยากเกิดอาการสะดุด ก็ลองเก็บออมเงินไว้เป็นเดือนๆ
และที่กล่าวมานั้นก็เป็นระบบการเงินที่บอกได้เลยว่ามันแย่มากๆ หากคุณต้องเจอกับสภาวะว่างงานแล้วล่ะก็ คุณไม่มีกำลังเสริม หรือเงินสำรองการใช้จ่ายอย่างแน่นอน ไม่เพียงเท่านี้เพราะคุณเองอาจต้องแบกรับภาระที่หนักอึ้งกับการผ่อนหนี้ บัตรเครดิต บ้าน หรือรถ ทั้งๆที่ไม่มีเงินเหลือเลยก็ได้ ดังนั้นเมื่อเวลานี้ยังไม่ได้เกิดเหตุการณ์ที่ได้กล่าวไว้ ก็ต้องรีบร้อนเลยทีเดียวที่จะปรับดุลระบบการเงินในกระเป๋าให้มีความมั่นคงขึ้น อย่างลืมว่าอะไรๆก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ในยุคเศรษฐกิจที่ไม่แน่ไม่นอนแบบนี้ ดังนั้นวันนี้เราควรที่จะเตรียมการไว้บ้างก็จัดว่าดีนะ