เขาว่ากันว่าเป็น มนุษย์เงินเดือน ไม่มีวันรวย ค่าใช้จ่ายเดินทาง สังสรรค์ ตามเทรนด์ “แล้วเมื่อไหร่ ฉันจะรวย” คำติดปากของเหล่าแฟนพันธุ์แท้กินเงินเดือนอย่างเรา กลายมาเป็นการเรียนรู้ คำถามต่อๆไปของเด็กมหาวิทยาลัยรุ่นใหม่ ที่ไม่กล้าจะสมัครงานเพราะกลัวไม่รวย อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจหลังเรียนจบเพราะ เขาว่ากันว่า มนุษย์เงินเดือนทำงานไปก็ไม่มีเงินเหลือ แล้วจะสมัครงานรับเงินเดือนน้อยๆไปทำไม สู้ทำงานเป็นนายตัวเอง ขายของออนไลน์ ทำเบเกอรี่ เบอร์เกอร์หรือ ของ Hand Made ฮิตๆในตอนนี้ดีกว่า ไม่ต้องมีใครมาบ่น ไม่ต้องไปดมเต่า คนในรถไฟฟ้า ตื่นเช้าอีก กลับบ้านดึก ความอิสระมันไม่มีเลย
… หลากหลายความคิดเห็นของเด็กที่เรียนจบใหม่หรือเด็กยุค Digital มองว่ารวยได้ไม่ต้องพึ่งเงินเดือน ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะคิดต่างมุนมองออกได้ เรามาส่องพฤติกรรมของ มนุษย์เงินเดือนที่ประสบความสำเร็จ ก่อสร้างตัวได้จากเงินเดือนจนรวยได้จริง กับ มนุษย์เงินเดือนที่ไม่มีวันประสบความสำเร็จ ร่ำรวยได้เลย ต่างมีพฤติกรรมความคิดกันอย่างไร
รวยได้จริง จากเงินเดือน
1.ตั้งคำถามของเป้าหมายที่เราจะทำให้ชัดเจนก่อน เพื่อจะได้มองเห็นแนวทางในการเดินไปสู่เป้าหมายนั้น
อยากรวยต้องมีเงินเท่าไหร่ ถึงจะเรียกว่ารวย หรือพอใจแล้ว และต้องกี่ปี ฉันจะรวย เช่น มีเงิน 1 ล้าน เที่ยวเมืองนอกปีละ 2 ครั้ง ใช้เวลา 2 ปี พอใจและ หรือบางคนอาจคิดมากกว่านั้นหรือเอาที่พอใจละกัน ลองตั้งเล่นๆดูก่อน
2) จดบันทึกรับ-จ่าย
ถ้าได้ลงมือเขียนเรื่องตัวเองสักอย่างลงในบันทึกแล้วเราจะมีเวลาทบทวนและเข้าใจตัวเองมากขึ้น สำรวจพฤติกรรมการใช้เงินของตัวเอง ช่วยให้เราสามารถตัดค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย รู้อย่างมีสติเลยว่า เมื่อวานเราใช้ไปเกินงบ วันนี้เราจะใช่น้อยลงไปโดยอัตโนมัติ ความเป็นไปได้คือ เงินที่เหลือจะถูกแปลงเป็นเงินออม
3) ออมเงินก่อนนำมาใช้
เงินเดือนออกเมื่อไหร่ต้องใช้หนี้ทุกที จนไม่เหลือเงินออม ข้อนี้บอกเลยว่าคุณต้องบังคับตัวเองก่อนเลย ถ้าเมื่อวันคุณต้องใช้หนี้นั้นลดลงเปลี่ยนแปลงความคิดใหม่ทันทีว่า คุณต้องออมเงินจากเงินเดือนแบ่งออกมา 10 – 20% ของเงินเดือน รู้จักบริหารบัตรเครดิต จำเป็นไม่จำเป็นคิดก่อนใช้ หรืออะไรที่ลดหย่อนภาษีได้ เอามาเป็นเงินออมต่อทุนก็ควรจัดระบบให้ดี แต่ก็ไม่ต้องกดดันมากจนไม่ใช้จ่ายเลย อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของภาระด้วยเช่นกัน ทางที่ดีค่อยๆออมจนเป็นนิสัยก่อน
4) ใช้สิทธิประกันสังคม
หลายๆ คนมักมองข้ามสิทธิประกันสังคมไป และเห็นว่าเงินที่หักเข้ากองทุนประกันสังคมในแต่ละเดือนนั้นไม่ใช่สิ่งจำ เป็น แต่จริงๆ แล้วการใช้สิทธิประกันสังคมช่วยเราได้เยอะนะในเรื่องของค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งในส่วนของค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและนอก ในส่วนของค่าคลอดและเลี้ยงดูบุตร รวมถึงในกรณีของการว่างงานอีกด้วย
5) รู้จักลงทุน
การออมไว้เฉยๆ ในบัญชีออมทรัพย์ต่อสู้อัตราเงินเฟ้อไม่ไหว ดังนั้นเราควรแบ่งเงินส่วนหนึ่งออกมาลงทุนตามความเสี่ยงที่รับได้เพื่อให้ เงินทำงานและงอกเงย และควรลงทุนอย่าสม่ำเสมอ แต่ก่อนลงทุนก็ควรมีเงินออมเผื่อสำรองฉุกเฉินไว้ 3-6 เท่าของรายจ่ายรายเดือนก่อน เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น อุบัติเหตุหรือลงทุนผิดพลาด จะได้มีเงินสำรองไว้รับมือ เมื่อรู้จักที่จะลงทุนแล้วคราวนี้ก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าเราจะรับเงินในแต่ละเดือนได้อย่างเดียว เราสามารถทำในสิ่งที่เราชอบถนัดเพื่อสร้างรายได้ใหม่ให้กับเรา เพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย แค่นั้นเอง
แค่นี้คุณก็สามารถสร้างเงินทุน เก็บเงินออมจากเงินเดือนไม่มากก็น้อยได้พอตั้งตัวบ้าง ถ้ามีโอกาศหาเงินเพิ่มดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเตรียมความพร้อมในการบริหารงานเงินได้อย่างไม่ประมาท คุณก็จัดได้ว่าเป็นคนรวยได้จริง จากเงินเดือนได้เลยทีเดียว สามารถนำแนวคิด 5 ข้อนี้มาใช้และหมุนเงินสร้างเงิน ได้อย่างดีเลยทีเดียวเพียงแค่ไม่หยุดที่จะเรียนรู้รับรองคุณไม่มีวันจนแน่นอน
แล้วพฤติกรรมแบบไหนละที่ “เรื่องจริง มนุษย์เงินเดือนไม่มีวันรวย”
1) นักโชว์หรู
อันดับแรกเลย อดไม่เป็นไรขอดูดีไว้ก่อน ถ่ายรูปกับกาแฟสตาร์บัค โชว์มือถือรุ่นใหม่ เซลฟี่อาหารหรู บุฟเฟ่ต์ทุกมื้อ ถ้าทำงานบริษัทดังก็จะโพสเกี่ยวกับที่ทำงานบ่อยๆๆจนไม่ต้องทำงานกันเลยทีเดียวให้คนอื่นอิจฉาเล่น
2) ขยันผิดที่ ไม่ใช้สมอง
ดึงความชอบสิ่งที่ตัวเองถนัดเอามาใช้ ขอแค่ได้เงินเยอะเป็นพอ ขอบอกเลยว่า คุณกำลังคิดสั้นไป เพราะว่าสิ่งแรกเลยในการทำงาน คุณต้องรักในงานที่ทำ ก่อนที่จะรักอะไรสักอย่างต้องชอบและหลงใหลกับมัน ค้นหา เปลียนแปลง ฝึกฝน ปรับปรุง พัฒนา ทั้งหมดนี้มันหลั่งมาจากโซนสมองของคุณให้คิด แต่ถ้าคุณไม่ชอบมันเลยหวังแต่กอดเงินเดือยก้อนใหญ่ไว้ก่อน เพราะคิดว่าถ้ามาทางนี้รวยแน่ คุณกำลังทำงานผิดที่ ผิดทางเพราะคุณต้องใช้เวลากับมันมากกว่าคนอื่นด้วยซ้ำ อีกอย่างบั่นทอนกับสุขภาพของคุณอาจจะได้เงินเพียงไม่กี่เดือน ก็ต้องลาจากเพราะโรครุมเร้า ถ้าหากเราไม่มีความสุขในการทำงาน มันก็เหมือนกับตายทั้งเป็น เพราะงานที่ไม่มีความสุข ย่อมทำให้สุขภาพจิตไม่ดี มีปัญหาชีวิตตามมา เกิดความเบื่อหน่าย และท้ายที่สุดผลของงานที่ได้ก็ไม่ดีในทีสุด
3) ไม่รู้จักการวางแผนการเงินและชีวิตที่ดี
การวางแผนการเงินตั้งแต่อายุยังน้อยนั้นเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะจะทำให้เราไม่ลำบากตอนใกล้เกษียณ แต่ว่ามนุษย์เงินเดือนบางคนไม่เคยรู้จักวางแผนชีวิต เอาแต่คิดใช้เงินทิ้งๆขว้างๆ ไปวันๆ บางครั้งหนักถึงขั้นใช้เงินเดือนชนเดือน หรือเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้เพื่อนร่วมงาน ถึงแม้ต่อให้หน้าที่การงานดีแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้ายังมัวเป็นหนี้ รับประกันได้ว่าชีวิตนี้ยากที่จะประสบความสำเร็จยากมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็ต้องกลับมาคิดว่าเมื่อไหร่ละ จะได้พักสักที เพราะเริ่มไม่ดีก็มีผลเสียตอนปลายได้
4) กลัวการลงทุน
คิดแล้วคิดอีกกับการลงทุนที่จะยอม เอาเงินสักก้อนที่ตนเก็บไว้ออกมาเสี่ยงลงทุน เพราะว่ากลัวเงินนั้นหายไปในไม่กี่วัน กล้าๆกลัวๆแล้วอายุเท่าไหร่ถึงจะได้ลองผิด คิด แก้ การเริ่มทำอะไรใหม่ๆสักที มนุษย์เงินเดือนหลายท่านที่อายุ มากกว่า 40 ปีขึ้นไปแล้วไม่เคยที่จะกล้าลงทุน เพราะว่าคุณไม่คิดที่จะเริ่มลองผิดลองถูก ตั้งแต่ยังเด็ก พอเมื่ออายุมากคุณต้องการความมั่นคง จะลงทุนก็กลายเป็นความมั่นคงที่เก็บมาหายไปไม่มีแรงเก็บเงินนี้ต่อได้อีกหรือต้องเริ่มเก็บใหม่ แต่คุณต้องคิดใหม่ว่า ทุกปัญหามีการเรียนรู้ซ่อนอยู่อาจจะทำอะไรง่ายๆลงทุนน้อยๆสร้างได้เองไม่ต้องออกจากงานก็ทำได้ อยู่ที่ว่าจะกลัวไปถึงเมื่อไหร่
อ่านเพิ่มเติม >> 4 วิธีขจัดปัญหา กลัวการลงทุน <<
4 ปัญหาหลักๆที่เป็นประเด็นของมนุษย์เงินเดือนแล้วคุณละอยู่กลุ่มไหน รวยได้จริงหรือไม่จริง?