สวัสดีครับผู้อ่านที่น่ารักทุกท่านกลับมาเจอกันกับพวกเรา moneyhub ตามสัญญา ในตอนที่สองของซีรี่ย์ชุดนี้อาจจะไม่ได้มีดราม่าเคล้าน้ำตาซักเท่าไร แต่บอกเลยว่าสาระเน้นๆครับ หลังจากที่ครั้งที่แล้วทิ้งท้ายกันไว้ในเรื่องของ แบบประเมินความเสี่ยง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะต้องทำอย่างแรกเลยในการลงทุน เพราะก่อนจะตัดสินใจลงทุนเราต้อง “รู้จักตัวเองก่อน” เอ้า !! แล้วใครที่ไหนจะไม่รู้จักตัวเองล่ะ บ้าแล้ว.. เดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งตกใจครับ
อ่านบทที่แล้ว : Happy Investing The Series : อยากลงทุนเริ่มต้นที่ไหนดี ?
การรู้จักตัวเองในการลงทุนคือการที่เรารู้ว่าเงื่อนไขหรือภาระทางการเงินที่เรามีอยู่ และ ความเสี่ยงในการลงทุนที่เรารับได้นั้น ควรจัดสรรเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ใดบ้าง ในตราสารหนี้ ตราสารทุน หรือ เงินฝาก เป็นจำนวนเท่าไรครับโดยเราจะเห็นภาพของตนเองชัดเจนผ่านการทำแบบประเมินประเมินความเสี่ยง
ต้องขอย้ำ!! ว่าต้องทำด้วยตัวคุณเองนะเพราะคงไม่มีใครรู้จักคุณดีเท่ากับตัวคุณเองนะครับ และเพื่อประโยชน์ต่อตัวคุณอีกด้วย โดยเป็นคำถามจะมีสามหมวดหลักๆ ดังนี้ครับ ถือว่าเป็นการเก็งข้อสอบไปในตัวล่ะกันนะ
หมวดคำถามพื้นฐาน
– อายุ
เรามาถึงจุดนี้… อายุนั้นไม่ใช่แค่ตัวเลขอีกต่อไปครับ เพราะอายุของผู้ลงทุนมีผลต่อการรับความเสี่ยงมาก
ถ้าอายุน้อยจะรับความเสี่ยงได้มากกว่าผู้ลงทุนอายุมาก ในที่นี่ไม่ใช่ว่าผู้มีอายุมากจะเลือดลมไม่ค่อยดี เสี่ยงที่จะลมพัดตึง !! ในการที่จะรับความเสี่ยงเท่าวัยละอ่อนแต่อย่างใด แต่เพราะว่าผู้ที่มีอายุน้อยจะมีเวลาหาเงินได้อีกนาน และสามารถทำงานเก็บเงินใหม่ได้ หากการลงทุนผิดพลาดไปจากที่คิด แล้วก็มีช่วงเวลาลงทุนที่ยาวนานกว่า มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่สูงอีกด้วย แต่ทั้งนี้ยังต้องมีอย่างอื่นพิจารณาประกอบกันไปด้วยครับ ไปลุย !!
– การศึกษา
รากฐานของตึกคืออิฐ รากฐานของชีวิตคือการศึกษา แหม่ !! จั่วหัวมาแบบหล่อเลือกได้มากๆ ในส่วนของการศึกษาเป็นตัวบอกความสามารถพื้นฐานในตัวเราในการทำความเข้าใจในการลงทุนครับแต่ทั้งนี้ต้องดูจากประสบการณ์ลงทุนด้วยครับ สมมุตินายอดัมจบปริญญาเอกด้านศิลปะจากอังกฤษ ฝีมือการวาดภาพระดับเมพขิงๆ แต่ไม่เคยผ่านการลงทุนมาเลย ก็ควรจะเริ่มลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป อย่าเพิ่งทุ่มสุดตัวแบบออกตัวล้อฟรีขนาดนั้นครับ เอาแค่พอได้ศึกษาและเก็บประสบการณ์ไปก่อน เพราะหากเจอช่วงหุ้นตกขึ้นมาอาจจะจิตตกจนเข็ดการลงทุนไปเลย ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายนะครับ
– รายได้และภาระหนี้สิน
ถึงตรงนี้บอกเลยว่าดอกจันตัวโตๆห้าร้อยดวงเลยนะครับ เพราะสำคัญมากกกก !! โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ หากต้องเจียดรายได้มาลงทุน แต่ยังมีภาระหนี้ที่ยังต้องจ่าย ต้องผ่อนไอโฟน6s หรือรถสปอร์ตขับส่งสาว ต้องตัดสินใจให้ดีนะครับ ว่าเงินที่นำมาลงทุนนั้นผลตอบแทนคุ้มค่าดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายหรือไม่ หรือการที่เจียดรายได้มาลงทุนนั้น กระทบต่อการชำระหนี้หรือเปล่า เพราะหากหุ้นตกขึ้นมาจำเป็นต้องขายขาดทุนเพื่อชำระหนี้ เกิดเงินที่ขายไม่พอขึ้นมาอีก ทีนี้ดอกเบี้ยบานเป็นไร่แน่ๆครับ
และหมวดคำถามต่อไปว่าด้วยเรื่องเกี่ยวกับการลงทุนครับ
-ประสบการณ์ในการลงทุน
อยู่ที่เรียนรู้ อยู่ที่ยอมรับมัน…เปิดท่อนฮุคแบบแกรนด์โอเพ่นนิ่งซักหน่อย ผู้ที่แก่ เอ้ย แกร่งประสบการณ์ในการลงทุน ยิ่งประสบการณ์มากก็จะเข้าใจในวัฏจักรการลงทุน และก็จะยอมรับในความเสี่ยงได้มากขึ้น ด้วยความที่ผู้ลงทุนมีความเข้าใจในธรรมชาติของสินทรัพย์แต่ละประเภท และยอมรับในความผันผวนของราคาสินทรัพย์ได้นั่นเอง
-ระยะเวลาการลงทุน
ในเมื่ออกหักยังมีระยะทำใจ การลงทุนก็เช่นกันครับ! เราต้องมีความเข้าใจก่อนว่าเงินที่เราจะนำมาลงทุนนั้น จะสามารถลงทุนได้นานแค่ไหน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับตัวเราว่ากำหนดการใช้เงินก้อนนี้เมื่อไร ถ้าจะต้องใช้ในอนาคตอันใกล้ เช่น นายอดัม ต้องใช้เงินก้อนนี้เป็นสินสอดไปขอแต่งงานนางแบบวิคตอเรียซีเคร็ท ในอีกหกเดือนข้างหน้า ก็ควรจะลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนน้อย ง่ายต่อการคาดการณ์ผลตอบแทน ได้เงินต้นคืนเมื่อครบโครงการ นำเงินไปแต่งเมียได้อย่างสบายใจครับ แต่ถ้าไม่มีกำหนดต้องลนลานรีบใช้ แต่อย่างใด ลงทุนไปยาวๆความผันผวนอาจจะเกิดขึ้นได้แต่ก็ยังไม่ถึงขนาดเดือดร้อนเนอะ
-ต้องการรายได้จากเงินลงทุนก้อนนี้หรือไม่
ถ้าหากเราต้องการใช้เงิน คำตอบนี้จะช่วยให้เราสามารถจัดสรรเงินเป็นส่วนๆเลือกลงทุนในตราสารหนี้บ้าง หรือลงทุนในกองทุนหุ้นบ้าง เพราะจะมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างปีให้เราได้ นับว่าเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจที่ดีเลยทีเดียว
ต่อไปหมวดสุดท้ายที่วัดว่าคุณมีความเสี่ยงที่เรายอมรับได้ ผลตอบแทนที่คาดหวัง ความอดทนต่อความผันผวน อะไรอย่างไรบ้าง ต้องติดตาม ! (มีแบบทดสอบที่จะปลุกความเป็นนักลงทุนในตัวคุณด้วยนะ )