ความจนเป็นสิ่งที่น่ากลัวมากๆเลยนะคะ ดังนั้นการที่เราจะคิด หรือจะทำอะไรนั้นย่อมต้องการที่จะพาตัวเองเข้าสู้เส้นทางรวยได้ก่อน แต่ถ้าคุณเดินผิดทาง เดินให้ตายจุดหมายก็ไม่รวยหรอก
เคยคิดกันบ้างหรือไม่ว่าอนาคตนั้นจะตัวเองจะเป็นอย่างไร จะส่งลูกเรียนได้มากน้อยเพียงไหน ระบบการเงินจะเป็นเช่นไร หากเกิดการเจ็บป่วยนั้นจะมีพอค่ารักษาหรือไม่ หรือจะใช้ชีวิตแบบไหน อยู่อย่างสุขสบายมากด้วยเงินทอง หรือต้องเป็นคนที่หาเช้ากินค่ำแบบนี้ไปตลอด เพราะหากวันนี้เราไม่กล้าที่จะเปลี่ยนรับรองได้เลยว่าสิ่งดีๆที่มาพร้อมกับเส้นทางเศรษฐีนั้นคุณเองจะไม่มีวันได้สัมผัสอย่างแน่นอน
ก่อนที่จะคิดไปไกลนั้นทุกวันนี้ลองมาจัดสรรปันส่วนและเพิ่มพูนสิ่งที่มีอยู่กันดีกว่า ลองมาทำคงวามเข้าใจกับตัวเองดูว่าหากไม่มีงานประจำจะอยู่ได้มั้ย พร้อมหรือยังกับการก้าวออกมาเพื่อยืนด้วยตนเอง เพราะเห็นท่าแล้วการเป็นพนังงานนั้นไม่ได้ทำให้เรารวยกันได้หรอก
1. การที่จะทำอะไรนั้นก่อนอื่นเลยนั้นต้องให้ความเชื่อมั่นเรื่องระบบการเงินกับตัวเองเสียก่อน
คิดเสมอว่าเราเองมีความพร้อมในการดำเนินการเหล่านั้น มีความเชื่อมั่นว่าต้องรวย ความต้องการและความปรารถนาที่จะร่ำรวยเป็นขั้นตอนแรกที่มีความสำคัญยิ่ง คนส่วนมากมักจะกลัวที่จะจินตนาการว่าตนเองร่ำรวย และนั่นทำให้พวกเขาเหล่านั้นไม่กล้าที่จะคิดทำการใหญ่ และในเมื่อไม่มีแม้กระทั่งความคิด การกระทำก็เลยไม่เกิดแต่อย่าลืมไปล่ะว่าเศรษฐีบางคนนั้นได้เริ่มต้นด้วยการไม่มีเงิน แต่เขาเลือกที่จะเชื่อและยอมเสี่ยงจึงทำให้หลายๆคนได้เติบโตมาทุกวันนี้
2. ในการลงทุนจำเป็นที่สุดคือการศึกษาและทำความเข้าใจ รวมไปถึงการขอข้อมูลและคำปรึกษาจากผู้ที่เคยผ่านประสบการณ์เรื่องธุรกิจมาก่อน
ไม่จำเป็นต้องเป็นถึงขนาดกูรูของการลงทุน แต่อย่างน้อยที่สุด ก็ควรจะมีพื้นฐานในการลงทุนอยู่บ้าง ทุกวันนี้ พวกเราหลายๆคนลงทุนเงินที่มีอยู่กับธนาคารเสียเป็นส่วนใหญ่ด้วยเหตุผลที่ว่ามันไม่มีความเสี่ยง แต่ในความเป็นจริงก็คือ พวกเราไม่มีความรู้จริงๆจังๆในเรื่องของการลงทุนต่างหาก
3. เมื่อได้มีการลงทุนเป็นของตัวเองแล้วก็อย่าพลาดที่จะทำในสิ่งที่ชอบและถนัดเสียล่ะ
บางคนอาจแย้งกับความคิดนี้แต่จะดีกว่ามั้ยหากทำให้สิ่งที่รักควบคู่ไปกับความถนัดของตัวเอง เพราะจะมีโอกาสประสบความสำเร็จในอัตราที่สูง ลองนึกดูนะคะมันจะเป็นไปได้มั้ยกับความสำเร็จในการลงทุนในสิ่งที่คุณเองไม่ถนัดเอาเสียเลย เมื่อเรามีพร้อมทั้งความถนัดและความชอบ อาจสวนกระแสเล็กน้อย แต่เชื่อเถอะหลายคนดังก็รวยขึ้นมาเพียงเพราะว่าตนเองหัวดื้อ
4. จงอย่าหวังพึ่งพารายได้จากทางเดียว เมื่อมีกำลัง หรือต้นทุนนั้นก้อย่าพลาดในการขยับขยายเงินก้อนนั้น
หมั่นทำให้เงินของคุณเติบโต พวกเราส่วนใหญ่มักจะรู้จักกับการใช้ชีวิตเป็นวงจรภายในหนึ่งเดือน การที่จะหลุดออกจากวงจรนั้นได้คือการกันเงินส่วนหนึ่ง แล้วเอาเงินนั้นไปลงทุนในที่ที่มันจะสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งมีอยู่หลากหลายทางเลือก โดยเฉพาะปัจจุบันในโลกของอินเตอร์เน็ต ที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อเงินที่เรานำเอาไปลงทุนเริ่มที่จะออกดอกออกผลแล้ว อย่าเอามันไปใช้เด็ดขาด! แต่ให้ใส่เงินนั้นกลับเข้าไปใหม่ จนกระทั่งการลงทุนที่มีอยู่เติบโตจนหยุดไม่อยู่ นั่นแหละครับถึงจะเป็นเวลาที่จะคิดนำเงินนั้นไปใช้หรือให้รางวัลกับตัวเองได้ตลอดชีวิตที่เหลืออยู่ และที่สำคัญ หากเห็นว่าพอทีจะมีลู่ทางก็อย่าพลาดที่จะนำเงินที่ได้เก็บเหล่านั้นไปต่อเติมเพื่อให้ได้รายได้อีกหลายต่อหลายช่องทาง แต่ขอย้ำไว้ก่อนเลยว่าต้องไม่เกินกำลังของตัวเองเด็ดขาด
5. คนที่รวยจริงนั้นไม่ได้มีสิ่งของ หรือของใช้ราคาแพงหรอก
โดยทั่วไปแล้วการใช้เงินก็อยู่ในระดับกลางๆ เพราะแท้จริงแล้วสิ่งเหล่านั้นแทบไม่มีค่าในสายตาพวกเขาเลย ลองนึกดูนะคะ หากเป็นกระเป๋าจะดีกว่ามากหากซื้อใบที่ถูกและคุณประโยชน์ก็สามารถใช้งานได้ไม่แพ้ของแบรนด์ราคาแพงเลย ดังนั้นหากต้องการที่จะใช้จ่ายอะไรนั้นก็ควรที่จะใช้วิจารณญาณที่ดีก่อน แล้วมั่นใจว่าสิ่งเหล่านั้นสำคัญอย่างจริงจัง
5. การประกอบการหรือการดำเนินกิจการนั้นจำเป็นทีจะต้องมีเงินทุนสำรองด้วย
เพราะในการดำเนินงานนั้นไม่สามารถกำหนดล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นการเตรียมความพร้อมเพื่อการรับมือต่อเหตุการณ์ต่างๆนั้นย่อมมีผลต่อและสามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้อีกด้วย แบบนี้ไม่รวยแล้วจะไปไหนเสีย