สนใจอยากลงทุนกับทองคำ มีทางเลือกในการลงทุนอะไรบ้าง
เมื่อราคาทองคำขึ้นๆ ลงๆ แบบนี้ แต่ถ้ายังอยากลงทุนในทองคำจะเลือกลงทุนอะไรได้บ้าง
กองทุนรวมทองคำ (Gold Fund)
การลงทุนแบบแรกที่จะนำเสนอก็คือ กองทุนรวมทองคำ (Gold Fund) คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ โดยที่ราคาของกองทุนรวมนั้นจะเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก ซึ่งกองทุนรวมทองคำส่วนใหญ่ในบ้านเรา มักจะไปลงทุนผ่านกองทุนรวมทองคำในต่างประเทศที่มีการไปลงทุนในทองคำแท่ง 99.99% หรือ 99.05% มากกว่าที่จะให้กองทุนไปลงทุนในทองคำจริงๆ เพราะบางที บลจ.ก็มองว่าตัวเองอาจจะยังมีประสบการณ์ในการตีราคาและดูแลรักษาทองคำแท่งที่ไม่เพียงพอ จึงเลือกที่จะไปลงทุนในกองทุนรวมทองคำในต่างประเทศแทน แต่การที่กองทุนมีการลงทุนผ่านกองทุนรวมในต่างประเทศนั้น อย่าลืมว่าจะทำให้เรามีความเสี่ยงในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนขึ้นมาอีกหนึ่งตัว
ซึ่งเราก็ไม่ต้องกังวลกันมากนักเกี่ยวกับความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับกองทุนรวมทองคำ เพราะส่วนใหญ่ บลจ.ที่ออกกองทุนทองคำมาซื้อขายในตลาดนั้น จะมีทางเลือกให้เราเสมอว่าจะเลือกกองทุนทองคำแบบมีการป้องกันความเสี่ยงหรือไม่มีการป้องกันก็ได้ ก็อยู่กับการตัดสินใจของเรา เช่น ถ้าเราสนใจเฉพาะผลตอบแทนจากราคาทองคำเพียงอย่างเดียว ไม่สนใจผลตอบแทนจากอัตราแลกเปลี่ยน เราก็เลือกลงทุนในกองทุนรวมทองคำที่มีการป้องกันความเสี่ยงไว้เต็มจำนวน แต่ถ้าเรามองหาโอกาสการทำกำไรเพิ่มเติมจากอัตราแลกเปลี่ยนด้วย เราก็ควรเลือกลงทุนในกองทุนรวมทองคำที่ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงไว้เลย แต่ก็อย่าลืมว่ามีกำไรก็ต้องมีขาดทุน เพราะเราก็อาจจะขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนได้ด้วยเหมือนกัน
ข้อดีของการลงทุนในกองทุนรวมทองคำก็คือ เราใช้เงินลงทุนไม่มากเพราะส่วนใหญ่กำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 10,000 บาท ซึ่งน้อยกว่าการซื้อทองคำน้ำหนัก 1 บาทเสียอีก ไม่ต้องไปร้านทองเพื่อซื้อทองคำจริงๆ และไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของตัวทองคำอีกต่างหาก มีข้อดีแล้วก็ต้องมีข้อเสีย คือ เราอาจจะต้องเสียค่าธรรมเนียมในการบริหารจัดการกองทุนให้กับ บลจ. รวมทั้งกองทุนรวมทองคำมีการคำนวณมูลค่าหน่วยลงทุนเพียงวันละ 1 ครั้งเหมือนกองทุนรวมทั่วไป จึงทำให้ไม่สามารถซื้อและขายคืนได้ในระหว่างวันเพื่อทำกำไรได้เหมือนกองทุน ETF และ Gold Future
กองทุน Gold ETF
การลงทุนในทองคำที่จะแนะนำถัดมา คือ กองทุน Gold ETF เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่งที่มีการจดทะเบียนซื้อขายเหมือนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้ลงทุนจึงสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนผ่านบริษัทหลักทรัพย์ เหมือนการซื้อขายหุ้นทั่วไปได้ในแบบ Real Time และทำได้ตลอดเวลาที่ตลาดเปิดทำการซื้อขาย ไม่ต้องรอให้สิ้นวันก่อนถึงจะรู้ว่าได้กำไรหรือขาดทุนจากการซื้อขายเท่าไร จึงทำให้มีโอกาสในการทำกำไรในระหว่างวันได้ ซึ่งรูปแบบของกองทุน Gold ETF มี 2 รูปแบบ คือ Gold ETF ที่ไปลงทุนในกองทุนรวมทองคำในต่างประเทศ เช่นเดียวกับกองทุนทองคำ แต่ บลจ.จะต้องขออนุมัติวงเงินจากธนาคารแห่งประเทศไทยก่อนนำเงินออกไปลงทุนในต่างประเทศ และ Gold ETF ที่ลงทุนโดยตรงในทองคำแท่ง ซึ่งถ้าเป็นการลงทุนแบบนี้แล้ว บลจ.จะต้องมีผู้รับรองคุณภาพและผู้เก็บรักษาทองคำแท่งที่มีความสามารถ ความชำนาญและระบบงานที่ได้มาตรฐาน เพื่อมั่นใจในความปลอดภัยของทองคำแท่ง
Gold Future
ส่วนทางเลือกการลงทุนในทองคำอีกประเภท คือ Gold Future คือ สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า เป็นเครื่องมือที่ทำให้เราสามารถใช้ทำกำไรได้ทั้งในช่วงที่ราคาทองคำขึ้นและลง เราสามารถซื้อก่อนขายหรือขายก่อนซื้อก็ได้ ใช้เงินลงทุนน้อย มีโอกาสได้ผลตอบแทนสูง เมื่อเทียบกับการซื้อทองคำจริงๆ ด้วยจำนวนเงินเท่ากัน โดยการซื้อ Gold Future นั่นไม่ได้มีการส่งมอบทองคำกันจริงๆ ใช้แต่เพียงการจ่ายชำระเงินตามส่วนต่างกำไรขาดทุนที่เกิดขึ้น
ส่วนการทำกำไรแบบ “ซื้อก่อนขาย” หรือ “ขายก่อนซื้อ” นั้นก็สามารถทำได้ เช่น หาเรามองว่าราคาทองคำจะต้องปรับตัวขึ้น เราซื้อ Gold Future ไว้ก่อน และเมื่อราคาทองคำปรับขึ้นเราก็ค่อยขาย Gold Future ออกไป ก็จะทำให้เราได้รับกำไรเท่ากับส่วนต่างของราคาซื้อและขาย หรือในทางตรงกันข้ามกันถ้าเรามองว่าราคาทองจะปรับลดลง เราก็สั่งขาย Gold Future ไว้ก่อนได้ โดยที่เราไม่มี Gold Future ในมือมาก่อนก็ได้ แล้วพอราคาทองลดลงจริง เราก็ค่อยซื้อ Gold Future ในภายหลังได้ ทำให้เราได้จะได้กำไรตามส่วนต่างของราคาทองใน ขาลง
มาลองเปรียบเทียบกันดูดีกว่าว่าการซื้อขายทองคำ กองทุนทองคำ กองทุน ETF ทองคำ และ Gold Future นั้นแตกต่างหรือเหมือนกันตรงไหนบ้าง
น่าจะเป็นข้อมูลสำหรับการตัดสินใจเลือก ลงทุนในทองคำ กันได้บ้าง เพราะการลงทุนในทองคำทั้ง 3 ประเภทนี้ไม่ได้เป็นการ ลงทุนในทองคำ จริงๆ จึงใช้เงินลงทุนไม่มากในแต่ละครั้ง ไม่ต้องกังวลในเรื่องการเก็บรักษาทองคำ แต่การลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง เราต้องศึกษาให้รู้จริงก่อนการลงทุนด้วยนะ