หากติดตามข่าวกันในช่วงนี้จะเห็นข่าวน้ำน้อย หรือ น้ำไม่พอเพียงในหลายพื้นที่เช่นภาคเหนือ และภาคอื่นๆ ซึ่งนี่ดูจะเป็นปัญหาเรื้อรังกันมานานแต่มันหนักในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยงานภาครัฐยังแก้ปัญหาไม่ได้หรือแก้ไม่ถูกจุดก็ไม่อาจจะเดาได้ แต่ที่แน่ๆคือทำไมภาคเกษตรที่เป็นหน่วยงานรัฐไม่สนับสนุนหรือแนะนำการทำเกษตรแบบน้ำน้อย หรือปลูกพืชทดแทน
แม้ว่าการทำนาจะเป็นอาชีพหลักของกลุ่มเกษตรกร เป็นสินค้าหลักของคนไทยที่ส่งออกไปทั่วโลกและใช้บริโภคภายในประเทศ การทำเกษตรแบบน้ำน้อยได้รับความนิยมในบางพื้นที่และในกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้จากกลุ่มคนรุ่นใหม่ทางวิชาการที่เจาะกลุ่มในบางพื้นที่จริงๆเช่น พื้นที่ที่มีความแห้งแล้งต่อเนื่องมานาน แต่ในพื้นที่อื่นๆก็มีแค่ประปราย นี่คือสิ่งที่บอกได้ว่าภาคเกษตรของเราไม่มีการพัฒนาไม่มีการต่อยอดองค์ความรู้ที่ดี และปัญหาแล้งน้ำก็มีทุกปีหนักขึ้นทุกปี
หากตอนนี้ใครมีที่ดินในต่างจังหวัดเช่น ที่นามรดก หรือ คิดจะไปทำไร่ทำสวนหลังเกษียณขอแนะนำให้ศึกษาแนวทางการทำเกษตรแบบน้ำน้อย และ เกษตรพอเพียงไว้เลย เลือกศึกษาพืชที่ราคาแพงในฤดูแล้ง เช่นมะนาว หรือปลูกพืชทนแล้งแต่ให้ผลผลิตดี ให้ราคาดี ไม่จำเป็นต้องเป็นพืชราคาแพงแต่ปลูกแล้วขายได้ กินเองได้ ตลาดต้องการ และศึกษาแนวทางการขนส่ง การขายด้วยตัวเองผ่านสื่อต่างๆ เพราะการขายผ่านพ่อค้าคนกลางจะถูกกดราคามากแต่หากคุณส่งขายเองได้ ราคาจะดีกว่า และการทำเกษตรอินทรีย์เพื่อลดการใช้ปุ๋ย รวมถึงเกษตรพอเพียงที่เน้นการจัดการบริการพื้นที่ให้แบ่งสัดส่วนการปลูกพืช การเก็บกักน้ำ เพื่อที่จะสามารถมีน้ำใช้ทั้งปี มีพืชหมุนเวียนทั้งขายและกินได้ทั้งปี
อย่ามองว่าการทำการการทำ เกษตรน้ำน้อย เป็นเรื่องไร้สาระ หากคุณไม่ปิดหูปิดตาเกินไปจะเห็นว่าปัญหานี้มีทุกปี พืชผักผลไม้ราคาแพงในหน้าแล้งคนบ่นกันทุกปีแต่ก็ไม่มีการทำเป็นเรื่องเป็นราว ชาวนาก็แย่งน้ำกันทุกปี ปัญหาเดิมๆทั้งนั้นและสุดท้ายมนุษย์ทุกอาชีพก็ต้องมาซื้อของแพงขึ้น ข้าวสารแพงขึ้น มะนาวแพงขึ้น แม้ว่าหลายคนบอกว่าต้องแก้ที่ภาครัฐที่บริหารงานจุดนี้ไม่ดี แต่เชื่อเถอะแก้ที่ตัวเราเองดีที่สุดเปลี่ยนแนวความคิดกันใหม่สำหรับคนที่อยากทำเกษตรลองหาแนวทางทำไร่ทำนาทำสวนแบบใช้น้ำน้อยๆ เลือกปลูกพืชเศรษฐกิจที่ขายได้ตลอดทั้งปี หรือคนทำอยู่แล้วก็ต้องปรับวิถีกันใหม่เพื่อที่จะลดปัญหานี้ แน่นอนว่าคนทำเกษตรส่วนมากคือชาวนา ชาวบ้านจริงๆ ที่อาจไม่มีความรู้หรือสามารถค้นหาวิธีการจากสื่อต่างๆ ก็คงต้องอาศัยลูกๆหลานๆและหน่วยงานภาครัฐไปแนะนำกันดูว่าจะทำอย่างไรให้ทำเกษตรได้อย่างยั่งยืนทั้งปีไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ ซึ่งก็คงต้องอาศัยคนรุ่นใหม่ที่จะไปพัฒนาแทนคนรุ่นเก่าทีทำอาชีพเกษตรกันอยู่ตอนนี้
นอกจากนี้ปัญหาที่พบอีกอย่างคือ คนไทยหัวโบราณไม่นิยมทำเกษตรแบบสมัยใหม่ และเงินทุนที่เป็นปัญหา ในต่างประเทศเกษตรกรคืออาชีพที่ทำเงินได้ดีมากๆแต่ในบ้านเราคืออาชีพที่โดนกดขี่ข่มเหงและเอาเปรียบทำให้จนแล้วจนอีกแม้จะมีที่นามากมายก็รายได้ไม่พอจ่ายค่ายาค่าปุ๋ยและค่าอุปกรณ์ที่ทันสมัย อีกทั้งความเชื่อในแบบเดิมๆที่สืบต่อกันมาจากคนรุ่นเก่าทำให้ไม่ค่อยยอมรับเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ด้วย แม้ว่าบ้านเราจะมีคนรุ่นใหม่ที่ยังรักการทำเกษตรแต่สุดท้ายก็หวนกลับไปสู่วิถีทางเดิมๆเพราะขัดผู้ใหญ่ที่บ้านไม่ได้ หรือบางคนไม่สนใจเลยก็มี นี่คือปัญหาที่พบบ่อยๆ และในหน้าแล้งปีนี้ ชาวออนไลน์ก็เตรียมตัวเจอปัญหาน้ำไม่พอใช้ในบ้างพื้นที่และผักผลไม้มีราคาแพงกันต่อไปนะจ๊ะ