หลายคนคงคิดเสมอว่ารายได้เป็นทรัพย์สินที่หามาได้ช่วยให้เรามั่นคง ให้เราได้มีกิน มีใช้ ยิ่งมีมากเท่าไรเราก็จะยิ่งมั่นคงเพิ่มขึ้นตามรายได้ที่เข้ามา แต่เคยคิดหรือไม่ว่ารายจ่ายต่างหากที่ช่วยให้เรามั่นคงได้มากกว่า เพราะถ้าเรายิ่งหาเงินได้มากขึ้น แล้วยังใช่จ่ายแบบฟุ่มเฟือยไม่คิดหน้าคิดหลัง อาจจะทำให้เราเป็นหนี้ได้ เช่น ในหนึ่งวันเราหาเงินได้ 100 บาท แต่เราใช่จ่ายไป 120 บาทแถมยังต้องไปยืมคนอื่นอีก 20 บาท แน่นอน เกิดการเป็นหนี้เป็นสินแล้ว หรือ หาได้ 100 บาท ใช่จ่าย 100 บาท ก็เสมอตัวแต่ไม่มีเงินเก็บ ฉะนั้นการกำหนดรายจ่าย จะช่วยให้เรามั่นคงมากกว่ารายรับที่เราหามาได้เสียอีก
แต่จะทำอย่างไรให้รายจ่ายน้อยลงแล้วรายได้เท่าเดิมหรือเพิ่มมากขึ้น วันนี้มีเคล็ดไม่ลับการวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้ามาบอกกัน
อย่างแรกรายได้ที่เข้ามานั้นให้กำหนดวงเงินการใช้จ่ายต่อเดือน
ว่าในแต่ละเดือนนั้นมีค่าใช้จ่ายใดบ้าง จากนั้นนำงบประมาณที่กำหนดได้มาซอยออกเป็นรายวันเพื่อให้เห็นว่าในหนึ่งวันเราใช้อะไรบ้าง เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ฯลฯ โดยอาจจะกำหนดค่าอาหารต่อเดือน เดือนละ 5,000 บาท จากนั้นก็เฉลี่ย 5,000 ออกมาเป็นค่าอาหารในแต่ละวัน จะตกวันละ 160 บาท วันใดเราทานเกินเป็น 200 บาท วันต่อไปก็ควรทานเพียงแค่ 120 บาท เป็นต้น หรือ จัดสรรเงินรายรับที่ได้มาเป็นรายปักษ์ โดยที่ใน 1 อาทิตย์จะใช้เงินค่าอาหาร 1,250 บาทก็ทำได้ วิธีนี้จะช่วยให้เราไม่ทานจุกจิกและเป็นข้อดีสำหรับคนที่ต้องการลดหุ่นนำไปประยุกต์ใช้ได้อีกด้วย
อย่างที่สอง การซื้อสินค้าข้าวของเครื่องใช้ประจำวัน
ก่อนเดินทางออกไปซื้อควรจดรายการสิ่งของที่ต้องซื้อทุกครั้ง เพื่อป้องกันตนเองไม่ให้เอนเอียงไปหาสินค้าที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะสาวๆที่ไม่มีรายการสินค้าอยู่กับมือ จะเดินเตร็ดเตร่ทั่วห้าง เลือกซื้อสินค้าแบบเรื่อยเปื่อยทำให้ได้สินค้ามากเกินความต้องการ
อย่างที่สามค่าใช้จ่ายตามตัวให้แยกออกจากค่าครองชีพ
เช่น ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ อย่านำเงินเหล่านี้ไปปนกับค่าใช้จ่ายประจำวัน เพราะนอกจากจะทำให้เราไม่ได้นำเงินไปจ่ายแล้ว ยังไมรู้อีกว่าเงินที่ใช้ไปนั้นหมดไปกับอะไร ทำให้เราต้องหาเข้ามาเพิ่ม
เมื่อคำนวณค่าใช่จ่ายในแต่ละเดือนคร่าวๆได้แล้ว ให้สำรองเงินเอาไว้บวกลบได้นิดหน่อย จากนั้นให้นำเงินที่เหลือเก็บออมหรือนำไปลงทุนต่อไปและถ้าเดือนนั้นขาดไม่ควรนำเงินเก็บมาใช้ ให้นำยอดเงินที่จะจ่ายมาคำนวณในเดือนต่อไปแล้วตัดจากค่าใช่จ่ายประจำวันออกไป อย่างเช่นค่าอาหาร ที่สามารถลดลงได้อีก
สุดท้ายคือการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในแต่ละวันออกมา
ให้คลอบคลุมมากที่สุด เพียงเท่านี้เราก็สามารถวางแผนการเงินใช้จ่ายล่วงหน้าได้อีกหลายเดือน จากบัญชีที่เราจัดทำขึ้น สามารถคาดคะเนได้ว่าเดือนไหนจะใช้จ่ายอะไรและมีเงินเก็บเท่าไร ก็รู้ได้ทันที