ที่ดินเป็นสินทรัพย์อันมีค่าที่ใครต่อใครต่างก็อยากจะได้มาไว้ในครอบครอง โดยเฉพาะหากเป็นที่ดินในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครเสียแล้วก็ยิ่งต้องนับว่าเป็นทำเลทองสำหรับนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่ผู้ที่เช่าซื้อเพื่อใช้เป็นพื้นที่ปลูกสร้างที่พักอาศัยโดยทั่วไปก็ตามแต่การเช่าซื้อที่ดินไม่ว่าจะเพื่อเก็งกำไรหรือเพื่อใช้สอยประโยชน์โดยตรงนั้นล้วนต้องใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจ ทั้งยังต้องประเมินความคุ้มค่าโดยรอบด้าน และสำหรับวันนี้เพื่อเป็นอีกช่องทางให้ทุกท่านได้ศึกษาเพิ่มเติมข้อมูล จึงขอเลือกนำเสนอสาระดี ๆ เกี่ยวกับแนวโน้มราคาที่ดินในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร หากท่านเป็นหนึ่งคนที่กำลังสนใจหรือกำลังมองหาที่ดินสักผืนอยู่แล้วละก็ ขอเชิญติดตามรับชมกันเลยครับ
โดยปกติแล้วการประเมินราคาที่ดินอย่างเป็นทางการนับว่าเป็นหน้าที่หลักประการหนึ่งของกรมธนารักษ์ ซึ่งจะทำการประเมินและประกาศผลในทุกช่วงต้นปี และถึงแม้ว่าผลการประเมินดังกล่าวจะไม่ใช่ราคาสุดท้ายในการซื้อขายจริง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดิน อีกทั้งยังเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ในอนาคต ทั้งนี้ เมื่อเจาะจงศึกษาแนวโน้มราคาที่ดินในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครจากผลการประเมินของกรมธนารักษ์ก็จะพบว่าโดยภาพรวมนั้น ราคาที่ดินใน กทม. 2559 มีแนวโน้มขยับตัวสูงยิ่งขึ้นในอัตราเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ 15.78 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นที่ดินบริเวณพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าก็จะยิ่งมีอัตราราคาที่ขยับตัวสูงยิ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด ดังรายละเอียดต่อไปนี้
ผลการประเมินราคาที่ดินตามแนวรถไฟฟ้า
- สายสีเขียว บริเวณถนนหพลโยธิน มีราคาประเมินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 215,000 บาทต่อตารางวา
- บริเวณราชดำริ-สีลม มีราคาประเมินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 850,000 บาทต่อตารางวา
- สายสีน้ำเงิน บริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ เพชรเกษม ประชาราษฏร์ 2 มีราคาประเมินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 170,000 บาทต่อตารางวา
- สายสีม่วง บริเวณถนนกรุงเทพ-นนทบุรี มีราคาประเมินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 227,500 บาทต่อตารางวา
- สายสีแดง บริเวณชานเมือง มีราคาประเมินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 170,000 บาทต่อตารางวา
(จากข้อมูลราคาประเมินที่ดินบริเวณพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าข้างต้น ประกอบกับราคาประเมินเดิม เมื่อนำมาคิดคำนวณแล้วจะพบว่ามีการปรับตัวสูงขึ้นจากเดิมถึงร้อยละ 75)
และไม่เพียงตามแนวรถไฟฟ้าเท่านั้น แต่พื้นที่บริเวณอื่นภายในเขตกรุงเทพมหานครต่างก็มีแนวโน้มขยับราคาสูงยิ่งขึ้นเช่นกัน อาทิเช่น ที่ดินที่สังกัดภายใต้สำนักงานที่ดินเขตพระโขนง เขตจตุจักร เขตบางกะปิ เขตลาดพร้าว เขตลาดกระบัง เขตประเวศ และเขตมีนบุรี พื้นที่ในบริเวณดังกล่าวนี้ต่างมีราคาประเมินที่สูงกว่าฐานราคาประเมินจากครั้งก่อนเป็นอย่างมาก โดยมีอัตราเฉลี่ยของราคาที่สูงยิ่งขึ้นคิดเป็นร้อยละ 21.43 ไปจนถึงร้อยละ 33.54 ซึ่งนับว่าเป็นอัตราที่สูงมาก หรือที่ดินที่สังกัดภายใต้สำนักงานที่ดินเขตบางเขน เขตบึงกุ่ม เขตบางขุนเทียน เขตธนบุรี เขตบางกอกน้อย เขตหนองจอก เขตกรุงเทพมหานคร เขตหนองแขม เขตดอนเมือง เขตห้วยขวาง ตลอดจนพื้นที่เขตอื่น ๆ ต่างก็มีราคาประเมินที่สูงขึ้น ในอัตราที่ลดหลั่นกันลงไป โดยมีอัตราเฉลี่ยของราคาที่สูงยิ่งขึ้นตั้งแต่ร้อยละ 1.04 ไปจนถึงร้อยละ 19.85
ทั้งนี้ เมื่อมองจากตัวเลขสถิติในส่วนของอันดับราคาประเมินสูงสุดจากที่ดินทั่วทั้งประเทศ ก็จะพบว่าที่ดินที่มีราคาสูงขึ้นจากราคาประเมินเดิมมากที่สุดนั้นล้วนอยู่ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครทั้งสิ้น
โดยเริ่มตั้งแต่บริเวณถนนสีลมจากแยกศาลาแดงถึงแยกนราธิวาสราชนครินทร์ มีราคาประเมินอยู่ที่ตารางวาละ 1,000,000 บาท จากราคาประเมินเดิมตารางวาละ 850,000 บาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.65)
รองลงมาเป็นบริเวณถนนราชดำริจากแยกราชประสงค์ถึงคลองแสนแสบ บริเวณถนนพระรามที่ 1 จากแยกปทุมวันถึงแยกราชประสงค์ และบริเวณถนนเพลินจิตตลอดสาย ราคาประเมินที่ดินใหม่มีราคาประเมินอยู่ที่ตารางวาละ 900,000 บาท จากราคาประเมินเดิมตารางวาละ 800,000 บาท (เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.50)
ส่วนลำดับที่สาม เป็นบริเวณถนนราชดำริช่วงจากแยกศาลาแดงถึงแยกราชประสงค์ บริเวณถนนวิทยุช่วงจากถนนเพลินจิตถึงถนนพระรามที่ 4 และบริเวณถนนสาทรช่วงจากถนนพระรามที่ 4 ถึง ถนนสุรศักดิ์ มีราคาประเมินอยู่ที่ตารางวาละ 750,000 บาท จากราคาประเมินเดิมตารางวาละ 600,000 – 700,000 บาท (เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยร้อยละ 13.09)
แต่ทั้งนี้ สำหรับท่านที่ต้องการจะเช่าซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไรก็ควรจะดูข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มราคาที่ดินในเขตพื้นที่ปริมณฑลและส่วนภูมิภาคประกอบด้วย เพราะถึงแม้จะมีราคาไม่สูงนักและไม่ติดอันดับพื้นที่ที่มีแนวโน้มราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด แต่เมื่อพิจารณาจากสัดส่วนก็จะพบว่าในปีเดียวกัน พื้นที่นอกเขตกรุงเทพมหานครก็มีแนวโน้มราคาที่สูงขึ้นโดยเฉลี่ยถึงร้อยละ 27.88 จึงนับว่าเป็นพื้นที่ที่มีความน่าสนใจเช่นกัน
หลังจากที่ได้รับชมข้อมูลกันไปแล้วก็จะเห็นว่าที่ดินในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครมีแนวโน้มขยับราคาสูงยิ่งขึ้น ประกอบกับการเป็นทิศทางที่มีความต่อเนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมา จึงอาจสรุปในเบื้องต้นได้ว่าเวลานี้เป็นช่วงที่เหมาะอย่างยิ่งในการรีบซื้อรีบหาที่ดินกันไว้ เนื่องจากในอนาคตราคาที่ดินก็ย่อมจะมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นไปอีก สุดท้ายนี้ หวังว่าข้อมูลที่นำมาเสนอจะเป็นประโยชน์ และขอให้ทุกท่านเลือกซื้อที่ดินได้เหมาะสม ตอบโจทย์ทุกความต้องการครับ