ความประสบความสำเร็จในชีวิต เป็นคำหนึ่งที่มีการพูดกันอย่างมากให้เราได้ยิน และเป็นคำที่เราต้องทำให้ตัวเองรู้สึกว่ามีให้ได้ ซึ่งหลายๆคนอาจจะเคยรู้สึกสงสัยว่า ต้องมีชีวิตแบบไหนล่ะถึงจะบอกว่าตัวเองประสบความสำเร็จ เราต้องมีอะไรบ้างที่เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าเราประสบความสำเร็จแล้ว เรามาดูกันเลยดีกว่า
ความสำเร็จในชีวิต มาจากหลายๆสิ่งประกอบกัน โดยทุกอย่างนั้นจะประกอบกันขึ้นมาแล้วเกิดเป็นความสบายให้กับตัวเอง อย่างเช่นการที่เราต้องการรถยนต์สักคัน เราก็ต้องพยายามทำงาน เก็บเงิน เพื่อที่จะได้รถยนต์คันนั้นมาใช้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เรามีรถยนต์ใช้ ก็เท่ากับว่าเราประสบความสำเร็จ
แต่คำว่าประสบความสำเร็จในชีวิตนั้น ถึงแม้ว่าจะมีพื้นฐานมาจากทำงานแล้วเก็บเงินก็จริง แต่ปลายทางของเราต้องมีอะไรบ้างล่ะ เรามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ที่เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าตัวเองได้ประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นแล้ว
- สิ่งแรกก็คือเงินออมที่เรามีอยู่
ความสำเร็จในชีวิตของเราที่มาจากการทำงานนั้น สิ่งแรกที่เราต้องดูก่อนเลยก็คือเงินออมหรือเงินเก็บนะ เพราะว่าเงินในส่วนนี้จะเป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงความมั่นคงทางการเงินได้เป็นอย่างดี โดยจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และเงินออมนี้ก็มาจากการวางแผนบริหารจัดเงิน มาจากความสามารถในการบริหารและการใช้จ่ายเงิน ยิ่งใครที่มีเงินออมมากเท่าไหร่ ก็ถือว่าเป็นบุคคลที่มีความมั่นคงทางการเงินสูงมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
เมื่อเรามีเงินออมที่เยอะขึ้น นั่นก็เท่ากับว่าเรามีกำลังที่จะลงทุนหรือมีกำลังในการจะต่อยอดเงินด้วยเช่นกัน เราสามารถแบ่งเงินในส่วนนี้เพื่อนำไปซื้อกองทุนหรือลงทุนต่างๆ และต้องคำนึงไว้เสมอว่ายิ่งมีความเสี่ยงสูง ก็ยิ่งมีผลตอบแทนที่สูง โดยสมมุติว่าเรามีเงินออมทั้งหมดในตอนนี้อยู่ 300,000 บาท เราสามารถแบ่งเงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อนำไปลงทุน และเก็บเงิน 100,000 บาทไว้ใช้ยามตอนฉุกเฉิน เงินที่ใช้ในการลงทุน เราสามารถเลือกลงทุนด้วยวิธีการฝากประจำกับธนาคารเพราะมีความเสี่ยงต่ำและได้รับค่าตอบแทนที่มากกว่าการฝากธรรมดา เพียงเท่านี้เราก็จะยิ่งประสบความสำเร็จมากกว่าเดิมนะ
- สิ่งที่สอง เรามีเงินเหลือในแต่ละเดือนหรือว่าใช้เดือนชนเดือนกันแน่
การที่เราใช้เดือนชนเดือน นั่นเป็นสัญญาณที่ค่อนข้างอันตรายสำหรับเรานะ เพราะนั่นหมายถึงว่าเราจะมีสภาพทางการเงินที่ทรุดตัวลงได้ง่ายอย่างมาก เมื่อไหร่ก็ตามที่มีรายจ่ายอื่นๆที่นอกเหนือในแต่ละเดือนเพิ่มเข้ามา ซึ่งแน่นอนว่าหากใครที่รู้ตัวเองดีว่ากำลังอยู่ในช่วงที่ใช้เดือนชนเดือนอยู่ ก็ให้รีบบริหารจัดการเงินของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้
แต่ถ้าหากว่าเราสามารถทำได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นค่าที่พัก ค่าอาหารในแต่ละเดือน ค่าน้ำ ค่าไฟและค่าใช้จ่ายต่างๆนั้น ก็แทบจะไม่พอในแต่ละเดือนอยู่แล้ว อย่างน้อยๆที่สุดให้เราพยายามแบ่งเงินเดือนออกมาสักนิดนึงเพื่อเป็นเงินเก็บให้กับตัวเอง และถึงแม้ว่าเราเลือกที่จะเก็บเดือนละ 100 บาทก็จริง แต่ในอนาคต เราสามารถเก็บได้มากกว่านั้นแน่
- สิ่งที่สาม หนี้สินหมดไปหรือลดลง
ด้วยทักษะในการบริหารเงินที่ดี จะช่วยให้เรื่องของหนี้สินหมดไปได้ด้วยนะ ซึ่งคนจำนวนไม่น้อยนั้น มักจะหมดเงินในแต่ละเดือนไปกับการจ่ายหนี้สินต่างๆอย่างมากเลยล่ะไม่ว่าจะเป็นค่าผ่อนมือถือ ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถและอื่นๆอีกมากมาย แน่นอนว่าการที่หนี้สินมีจำนวนน้อยลง นั่นแสดงถึงความสามารถในการบริหารเงิน และหนี้สินที่เป็นก้อนใหญ่ๆอย่างเช่นค่าบ้านหรือค่ารถนั้น ถ้าหากว่าเราบริหารเงินจ่ายหนี้ได้ไม่ดีจริง เราจะเดือดร้อนอย่างมากและก็รู้สึกว่าหนี้เหล่านั้นไม่ลดลงอีกด้วย
ซึ่งวิธีการที่ง่ายที่สุดในการทำให้หนี้สินลดลงก็คือการโปะ พยายามบริหารเงินให้เรามีเงินก้อนในการโปะหนี้ของเรา ยิ่งเราโปะหนี้ในแต่ละเดือนได้เยอะเท่าไหร่ หนี้ของเราก็จะหมดเร็วมากยิ่งขึ้นนะ และหลังจากที่หนี้หมดแล้ว เราก็เตรียมตัวรองรับเงินเก็บได้เลย
- สิ่งที่สี่ ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้น
ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นนั้น เป็นความรู้สึกที่มักจะเกิดกับคนที่รู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นคงทางการเงิน มีเงินเก็บที่มาก มีเงินอยู่ในกองทุน ไม่ได้ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน และไม่มีหนี้สิน ซึ่งความมั่งคั่งนี้ ไม่จำเป็นที่ว่าจะต้องอยู่ในบ้านที่ใหญ่โต มีรถขับหลายๆคันเสมอไป แต่ความมั่งคั่งนี้ เพียงเรารู้สึกว่าในอนาคตของเรา เราจะไม่อดตายอย่างแน่นอน เพราะว่าเรามีเงินในส่วนต่างๆที่จะช่วยหนุนเราในอนาคต มีเงินที่เราจะใช้เมื่อเราเกษียณตัวเอง เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วนะ