บัตรกดเงินสด คือ วงเงินพร้อมใช้ในรูปของเงินสด ซึ่งสามารถกดออกมาได้จากตู้ ATM ของธนาคาร หรือตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ตามที่กำหนด ส่วนใหญ่บัตรกดบัตรที่มักเปิดพร้อมกับบัตรเครดิต เหมาะสำหรับใช้ยามฉุกเฉิน จำเป็นต้องใช้เงินสดไม่สามารถรูดจากบัตรเครดิตได้ ซึ่งบัตรกดเงินสดดีกว่าการกดเงินจากบัตรเครดิตเพราะไม่เสียค่าธรรมเนียม และกดกี่ครั้งก็ได้ภายในวงเงินที่มี ปัจจุบันบัตรกดเงินสดยังสามารถใช้ในการผ่อนสินค้าและบริการได้ด้วย ดังนั้นอาจเป็นเรื่องใหญ่หากเราทำบัตรกดเงินสดหาย เพราะผู้ไม่ประสงค์ดีอาจสวมรอยกดเงินหรือรูดผ่อนสินค้าโดยที่เราไม่รู้ตัว 3 สิ่งต้องทำเมื่อ บัตรกดเงินสดหาย ได้แก่
1.แจ้งอายัดบัตร
ติดต่อ call center ของธนาคารหรือผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อขอทำการอายัดบัตรโดยเร็วที่สุด เราควรทำการอายัดบัตรทุกครั้งที่บัตรหายเพราะบางครั้งบัตรของเราอาจจะค้างอยู่ที่ตู้ ซึ่งอาจมีใครสวมรอบกดเงินสดออกไปได้ จึงมีข้อควรระวังที่กล่าวว่า ห้ามเขียนรหัสบัตรไว้บนบัตรโดยเด็ดขาด แม้แต่บริเวณใกล้เคียงก็ไม่ควรระบุ การอายัดบัตรจึงเป็นสิ่งที่ต้องทำอันดับแรกๆ เมื่อบัตรสำคัญของเราหาย ยิ่งเรารู้ตัวเร็วเท่าไหร่เงินของเราจะยิ่งปลอดภัยเท่านั้น เมื่อติดต่อไปที่ call center เจ้าหน้าที่จะสอบถามข้อมูลพื้นฐานของเราเพื่อยืนยันตัวตนเจ้าของบัตร เช่น ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด เลขที่บัตรประชาชน ที่อยู่ที่แจ้งจัดส่งบัตร วงเงินของบัตรที่ได้รับการอนุมัติ เป็นต้น หลังจากแจ้งอายัดบัตรแล้ว เราสามารถดำเนินการขอรับบัตรใหม่ ใช้เวลา 3-5 วัน ก็จะมีบัตรใหม่ส่งมาที่บ้าน กรณีนี้ต้องเสียค่าธรรมเนียมสำหรับการออกบัตรใหม่ 150-300 บาท แล้วแต่เงื่อนไขของธนาคารและชนิดของบัตร อย่างไรก็ตาม บางธนาคารไม่จำเป็นต้องขอบัตรใหม่ หากเรามั่นใจว่าบัตรไม่ได้หายไปไหน เราสามารถอายัดบัตรกับทางธนาคารก่อน แล้วหากเจอบัตรทีหลังก็สามารถทำเรื่องยกเลิกการอายัดบัตรและใช้บัตรเก่าต่อไปได้
1.แจ้งความลงบันทึกประจำวัน
ใครจะรู้หากมีโจรขโมยบัตรของเราไปใช้ เราคงไม่อยากจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ดังนั้นกันไว้ย่อมดีกว่าแก้ เสียเวลานิดหน่อยไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันก่อนเสียให้เรียบร้อย เก็บใบแจ้งความไว้ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันอย่างน้อยเราก็มีหลักฐานแจ้งความยืนยันว่าบัตรของเราหายจริงๆ เพื่อที่จะไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เราไม่ได้ถือครองบัตร โดยเฉพาะหากหายไปทั้งกะเป๋าสตางค์ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องแจ้งความ เพราะในกระเป๋าสตางค์มีทั้งบัตรประชาชน บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และข้อมูลสำคัญ อื่นๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การปลอมแปลงเอกสารได้
1.เคล็ดลับการเก็บรักษาบัตร ไม่หาย! ไม่พัง!
1.ควรเก็บบัตรไว้ในที่ประจำ ทำให้เป็นนิสัย เพื่อป้องกันการสูญหายที่เกิดจากตัวเราเอง
2.มีสติทุกครั้งที่ใช้บัตร ตรวจดูให้แน่ใจว่า ทุกครั้งที่ทำธุรกรรมทางการเงินที่ตู้ ATM ธนาคาร หรือ ที่ร้านค้า เราได้รับเงิน สลิป และบัตรครบถูกต้องทุกใบหรือไม่ก่อนออกจากร้าน
3.ควรเก็บบัตรในซองพลาสติก หรือ card holder แต่ละใบแยกกันเพื่อไม่ให้แถบแม่เหล็กของบัตรสัมผัสกัน
4.ควรเก็บบัตรให้ห่างไกลจากวัตถุที่มีแม่เหล็ก เช่น ตู้เย็น หรือ ไมโครเวฟ ฯลฯ
5.แผ่นพลาสติกเคลือบบัตรต้องระมัดระวังตรงขอบไม่ให้ชำรุดหรือเปิดออก เพราะจะส่งผลต่อแถบแม่เหล็ก ทำให้บัตรไม่สามารถใช้งานได้
6.ป้องกันแถบแม่เหล็กไม่ให้ถูกขีดข่วน เพราะแถบแม่เหล็กที่ไม่สมบูรณ์อาจเป็นอุปสรรค์ในการอ่านข้อมูลในบัตร
7.ควรหันหน้าบัตรไปในทางเดียวกัน หากแถบแม่เหล็กชนกันอาจทำให้แถบแม่เหล็กเสีย หรือทำงานผิดพลาด
8.ควรเก็บบัตรในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงการเก็บบัตรในบริเวณที่มีความร้อน
9.ระวังบัตรหัก บิดหรืองอ โดยเฉพาะการเก็บบัตรในกระเป๋าสตางค์