ใครจะรู้ว่าธุรกิจเบเกอรี่เล็ก ๆ จะมีฟีดแบ็กที่ดีเกินคาดจนมีแฟรนไชส์เป็นของตัวเอง และเคยผลิตเบเกอรี่ออกมามากสุดถึง 20,000 ชิ้นต่อวัน เพราะด้วยคุณภาพของตัวเบเกอรี่และรสชาติที่ถูกปากลูกค้า จึงทำให้เทศกาลต่าง ๆ ทั้งตรุษจีน ปีใหม่ก็ผลิตกันแทบไม่ทันเลยทีเดียว พายหมูแดงสูตรฮ่องกงที่เป็นเจ้าแรกของไทย ภายใต้แบรนด์ เอพริล เบเกอรี่ ที่ได้รับการตอบรับที่ดีเยี่ยม เพราะหลังจากการประกาศขายแฟรนไชส์ออกไปได้ไม่นาน ก็มีผู้ที่สนใจต้องการทำธุรกิจร่วมด้วยมากกว่า 40 ราย ภายในระยะเวลาเพียงแค่ 6 เดือนเศษ
โดย คุณอร ณธนพร เอื้อวันทนาคูณ เจ้าของได้กล่าวถึงการใช้ชีวิตก่อนหน้านี้ว่าตัวเองนั้นจบทางด้านบริหารธุรกิจมา เคยทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของสายการบินต่างชาติอยู่ 2 ปีเศษก่อนลาออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ด้วยความที่เป็นคนช่างคิดช่างทำ มีความรู้ในการทำอาหาร จึงขอทุนทางบ้านมาเปิดร้านกาแฟเล็ก ๆ ในกรุงเทพ แต่สุดท้ายด้วยความไม่รอบคอบและศึกษามาไม่ดีจึงทำให้เปิดได้ไม่ถึงปีก็ต้องปิดกิจการไปเพราะไม่มีกำไรเลย กิจการแรกจึงต้องปิดตัวลงไปอย่างไม่สวยงามนัก
“ถ้าไม่กล้าทุบหม้อข้าวตัวเองก็ไม่โตหรอก” คือคำคมสั้่นๆ ที่พี่ชายของ “สาวอร” ให้ไว้ หลังเธอขอคำปรึกษาในยามที่เหน็ดหน่ายว่า ถ้าหากในวันข้างหน้าไม่มีเงินเดือนประจำแล้วจะทำอย่างไร จึงต้องตัดสินใจ “ทุบหม้อข้าว” ตามคำแนะนำ
บทสัมภาษณ์จาก คมชัดลึก
แต่อย่างไรก็ตามในขณะที่เปิดร้านอยู่ก็ได้มีโอกาสฝึกการทำเบเกอรี่อยู่หลายชนิด เน้นทำขนมสไตล์อิตาเลียนอย่างพิซซ่าโรลเบคอนและสแน็กผักโขม เป็นต้น จนกระทั่งมาขายดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทางห้างจึงขอให้ขยายสาขาเพิ่ม จึงต้องมีการขยายการลงทุน ด้วยการซื้อตู้แช่ใบละ 50,000 บาท นำไปวางขายตามห้างในเครือนับสิบแห่ง แต่ผลปรากฏกลับเจ๊งไม่เป็นท่าในเวลาแค่เดือนเศษ จนสุดท้ายเอาความรู้จากการที่ได้ไปฮ่องกงอยู่บ่อย ๆ และมีเพื่อนที่ชวนทานพายหมูแดงเจ้าดัง เมื่อนั้นเธอก็ปิ๊งแนวทางขึ้นมาว่าทำไมถึงไม่ทำขายเองดูบ้าง เมื่อเจอประสบการณ์ที่ไม่ดีมาเยอะ รอบนี้คุณอรจึงทำพายหมูแดงออกมาขายแล้วแจกไม่อั้นไปด้วย ทั้งคนใกล้ตัวและเพื่อนฝูงไปจนถึงญาติผู้ใหญ่ เรียกได้ว่าเจอใครก็แจกให้ชิมทั้งหมดเพื่อหวังให้บอกกันไปแบบปากต่อปาก เมื่อผลประกอบการเริ่มดีขึ้น จึงมีการขยายสาขาอีกครั้ง จนกระทั่งมีร้านมากกว่า 10 แห่ง และทำให้กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนที่มีคนมาขอเป็นแฟรนไชส์ จนทุกวันนี้มีมากกว่า 50 สาขาทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด
เมื่อประสบความสำเร็จจนสามารถเพิ่มสาขาได้มากกว่า 56 แห่งและมีแฟรนไชส์ที่สนใจอีก 50 ราย จึงได้มีการมองการขยายสาขาไปที่ต่างจังหวัดเป็นหลักเพื่อให้ครอบคลุมไปสู่ทุกเป้าหมาย ในวันที่มีการสั่งซื้อสูงนั้น สาขาหนึ่ง ๆ จะมีออเดอร์ขนมมากกว่า 20,000 ชิ้นต่อวันเลยทีเดียว ซึ่งพายหมูแดงนี้ทางเอพริลถือว่าเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา มีการตั้งเป้าหมายไว้ที่แฟรนไชส์ 100 รายทั่วประเทศ หลังจากการวางตลาดได้ไม่นานยอดขายก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ มีลูกค้าที่ซื้อไปทานแล้วกลับมาซื้อซ้ำใหม่ นั่นแสดงถึงความอร่อยอย่างแท้จริงของพายหมูแดงเอพริล จึงมีการตั้งราคาของแฟรนไชส์ 5 แสนบาทต่อร้าน ซึ่งผู้ที่ซื้อแฟรนไชส์ไปก็จะได้รับสัญลักษณ์แบรนด์ของเอพริลที่เป็นตัวการันตีความอร่อย และมีสิทธิ์สั่งซื้อขนมในราคาแฟรนไชส์ แต่ในส่วนของตู้แช่และอุปกรณ์ต่าง ๆ ทางผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปต้องไปหาซื้อเอาเอง
ทั้งนี้เรื่องราคาก็ถือว่าสูงพอสมควร เพราะฉะนั้นก่อนซื้อไปทางคุณอรจะมีการถามอย่างตรงไปตรงมาก่อนว่ามีทุนมากน้อยแค่ไหน แล้วจะซื้อไปทำเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลักเพื่อนำมาปรับการใช้งานให้ตรงต่อความต้องการ นอกจากนี้คุณอรยังได้เตรียมจัดตั้งบริษัทจินชา ทีเฮาส์ ในประเทศฮ่องกงเพื่อขยายธุรกิจไปที่ประเทศฮ่องกง พร้อมเตรียมไปออกงานฟู้ดแฟร์ที่ฮ่องกงเพื่อเป็นการไปหาโอกาสในการทำธุรกิจที่ต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และยังมีความคิดขยายแฟรนไชส์ต่อไปในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีการคิดอัตราค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ยังผลิตสินค้าที่เป็นเค้กสัปปะรดฮ่องกงที่เป็นแบรนด์ใหม่ คือ มณี ออกสู่ตลาดที่คาดว่าจะสามารถส่งสินค้านี้ไปจำหน่ายตามซุปเปอร์มาเก็ตในฮ่องกง จีนและไต้หวัน ด้านแผนธุรกิจนี้ก็คาดว่าจะสามารถเพิ่มยอดขายได้เท่าตัวเป็น 300 ล้านบาทในอนาคตข้างหน้าอันใกล้
ทั้งนี้คุณอรในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท ไทยไดมอนด์ฟู้ด จำกัด เจ้าของและผู้ผลิตขนมพายหมูแดงที่เป็นสัญชาติไทยแท้ภายใต้ชื่อเอพริล เบเกอรี่ เปิดเผยว่า ภายหลังจากการประสบความสำเร็จในการทำตลาดพายหมูแดงสูตรฮ่องกงเป็นรายแรกของประเทศไทย ทางบริษัทก็ได้เตรียมทำแผนรุกตลาดอย่างจริงจังในตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน ภายหลังจากการได้ไปออกงานฟู้ดแฟร์ที่สิงคโปร์ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่างประเทศอย่างจีน สหรัฐอเมริกา ฮ่องกง เวียดนามและสิงคโปร์ ทางบริษัทจึงมีการเตรียมขยายธุรกิจในต่างประเทศต่อไป โดยทางบริษัทได้เริ่มทำการทดสอบคุณภาพสินค้า พร้อมทั้งการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทในต่างประเทศเพื่อพัฒนาและสินค้าตามเมนูต่าง ๆ ต่อไป ทั้งนี้พายที่แสนอร่อยนี้มีไส้ถึง 13 ไส้ให้ได้เลือกตามความชอบ ได้แก่ พายหมูแดง พายไก่อบกะหรี่ พายไก่อบน้ำผึ้ง พายทูน่า พายเผือกแปะก๊วย พายมะพร้าว พายงาดำ พายถั่วเหลือง พายถั่วแดง พายชาเขียว พายกล้วย พายคัสตาร์ดและพายสัปปะรด ซึ่งพายที่ขายดีที่สุดคือพายหมูแดง ตัวเอกของแฟรนไชส์เอพริลนั่นเอง
ข้อมูลอ้างอิง