ด้วยภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เราอาจจะเพิ่มรายได้ให้ตัวเองได้ยากอยู่สักหน่อย ดังนั้นสิ่งที่เราจะทำได้ก็คือ การควบคุมค่าใช้จ่ายนั้นเอง ซึ่งจริงๆมันก็เป็นเรื่องที่หลายๆ คนอาจจะทำกันอยู่แล้วก็ได้ แต่วันนี้จะมาย้ำกันอีกที สำหรับใครที่ยังไม่เคย ควบคุมค่าใช้จ่าย ของตัวเองแบบจริงจังสักที
ซึ่งเชื่อได้ว่าทุกคนที่ทำงานบริษัทหรือหน่วยงานราชการต่างๆ จะต้องได้ยินคำว่างบประมาณกันแน่นอน เพราะเป็นเครื่องที่ช่วยทำให้บริษัทหรือหน่วยงานต่างๆ รู้ว่าภายใน 1 ปี ข้างหน้าจะต้องจ่ายเงินเป็นค่าอะไรบ้าง และจะมีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่ายนั้นหรือเปล่า ดังนั้นถ้าหากลองย้อนกลับมาดูที่ตัวเราแล้ว เราก็น่าจะลองทำงบประมาณค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเราดูบ้าง เพื่อที่เราจะได้วางแผนการใช้เงินของเราที่ถูกต้อง แม้ในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยราบรื่นแบบตอนนี้สักเท่าไร และเมื่อวางแผนงบประมาณค่าใช้จ่ายส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็มาหาทางคุมค่าใช้จ่ายกันดีกว่า เรามาดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้าง
แบ่งเงินใช้เป็นรายวัน
นั่นก็คือ การนำงบประมาณรายเดือนที่เราตั้งไว้มาแบ่งเป็นรายวัน เพื่อจะช่วยให้การควบคุมงบประมาณของเราทำได้ง่ายขึ้น เพราะจะทำให้เรารู้ได้ทันทีเลยว่าเราใช้เงินอยู่ในงบหรือเกินงบไปมากน้อยแค่ไหน และวันต่อๆ ไปเราควรจะต้องปรับปรุงการใช้จ่ายเงินของเรายังไงบ้าง และถ้าวันไหนใช้เงินน้อยกว่างบประมาณที่ได้ตั้งไว้ นั่นแสดงว่าเรามีเงินเหลือเก็บเพิ่มขึ้นจากการใช้จ่ายประจำวันของเราอีกทางหนึ่งด้วย
เบิกเงินใช้ตามงบประมาณ
อันนี้ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งสำหรับบางคนที่ไม่อยากจัดงบประมาณรายจ่ายเป็นรายวัน เราอาจทำได้โดยเบิกเงินสดออกมาให้พอใช้ตามจำนวนเงินที่วางแผนไว้สัก 1 สัปดาห์ และห้ามเบิกเงินมาใช้อีก ซึ่งวิธีนี้ก็จะช่วยให้เราควบคุมการใช้จ่ายของเราได้เหมือนกัน และถ้าหากวันไหนมีการใช้บัตรเครดิตก็จะต้องนำเงินสดจากระเป๋าที่เตรียมไว้มากันไว้สำหรับจ่ายบัตรเครดิตด้วยเหมือนกัน ทำให้เหมือนกับว่าเรามีการจ่ายเงินนั้นออกไปจริงๆ ซึ่งก็จะเป็นการควบคุมการใช้บัตรเครดิตของเราไปในตัวด้วยอีกทางหนึ่ง
จดรายการสิ่งของที่ต้องซื้อ
ก่อนออกไปซื้อของทุกครั้งเราจะต้องทำรายการสิ่งของที่ต้องซื้อ เพื่อท่ะราจะได้ไม่เผลอใจไปซื้อของชิ้นอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือรายการที่เราจำเป็นต้องใช้ เพราะจะเหมือนเป็นการไปเดินซื้อของแบบเรื่อยเปื่อย เห็นอะไรก็หยิบมาหมด ซึ่งบางครั้งทำให้เราซื้อของมามากเกินจำเป็นก็ได้ แต่เดี๋ยวนี้ก็ต้องระวังตัวเองอีกทาง คือ การซื้อของทางอินเตอร์เน็ต เพราะทำได้ง่ายมากๆ และเราก็ตัดสินใจซื้อโดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้าอีกต่างหาก แถมเวลาจ่ายเงินก็ใช้วิธีโอนเงินซึ่งทำให้เราอาจจะไม่ค่อยรู้สึกเสียดายเงินมากนัก ไม่เหมือนกับเวลาที่เราต้องหยิบเงินจริงๆ ออกจากกระเป๋า
บอกตัวเองให้ได้ว่าสิ่งที่ต้องซื้อนั้น “จำเป็น” หรือแค่ “อยากได้” ซึ่งก่อนที่เราจะต้องซื้อของเราต้องถามใจตัวเองหลายๆ รอบก่อนโดยที่ไม่หลอกตัวเองว่า รายจ่ายนั้นเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ และไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราจะต้องบอกตัวเองทุกครั้งก่อนที่จะตัดสินใจซื้อว่า เหตุผลที่เราเอามาอ้างเพื่อใช้ซื้อของนี้เป็นเหตุผลจริงๆ หรือแค่ข้ออ้างที่ทำให้เราซื้อ
ทั้งหมดที่ว่ามานี้นั้นคือการควบคุมการจ่ายเงินออกจากกระเป๋าเรา แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างที่เราจะต้องทำคู่กันเสมอเพื่อให้เรารู้ว่าเงินเราหายไปไหน คือ การจดบันทึกรายรับรายจ่าย เพราะจะทำให้การควบคุมการใช้จ่ายให้เป็นไปตามงบประมาณที่ตั้งไว้ได้ดีขึ้น อีกทั้งเราสามารถย้อนกลับมาดูได้อีกในภายหลังว่าเงินเราจ่ายไปกับอะไรบ้าง แล้วถ้าหากเดือนไหนมีเงินเหลือจากการใช้จ่ายไปแล้วเราก็เอาออมเป็นส่วนเพิ่มเติมได้อีกทางหนึ่งเหมือนกัน
อ่านเพิ่มเติม : บันทึก บัญชีครัวเรือน แบบไหนที่ใช่คุณ !