การลงทุนมีความเสี่ยง เป็นคำที่พูดติดปากของนักลงทุนเกือบทุกคน แต่การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเป็นเรื่องปรกติ การลงทุนหากไม่มีความเสี่ยงย่อมไม่ก่อเกิดรายได้ ดังนั้น ความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องที่ดีและไม่ดี แม้ว่าการลงทุนในบางครั้งจะไม่ก่อเกิดรายได้ แต่อย่างน้อยเราได้รู้ถึงข้อผิดพลาดเพื่อแก้ไขและปรับปรุง ในขณะที่ในปัจจุบันการลงทุนที่มีความเสี่ยงน้อยและได้รับความนิยมอย่างมากคือ
การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เนื่องผู้ลงทุนไม่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงสูงและยังสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มต้น ลงทุนใน RMF และ LTF ควรรู้เทคนิคกันเสียก่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับตนเอง คือ
1. ให้ผู้ลงทุนทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนการลงทุน เพื่อให้รู้ว่าสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยเท่าไร เพื่อง่ายต่อการตัดสินใจเลือกลงทุนในกองทุนที่เหมาะสมกับศักยภาพของตนเอง รวมถึงต้องทำการพิจารณาถึงเป้าหมายในการลงทุนด้วย เช่น มีเป้าหมายต้องการใช้เงินในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า การเลือกลงทุนในกองทุน LTF จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยให้ไปสู่เป้าหมายที่ตั้งไว้ แต่หากมีเป้าหมายลงทุนระยะยาว โดยเฉพาะผู้ที่มองไปถึงวัยเกษียณ และเพิ่มความมั่นใจว่าจะมีเงินเก็บในหลังจากเกษียณ ควรเลือกลงทุนในกองทุน RMF
2. เมื่อรู้เป้าหมายที่ตนเองวางไว้แล้ว ควรที่จะรู้ถึงความเสี่ยงของหุ้นในแต่ละตัวด้วยเช่นกัน คือ
- RMF นั้นจะมีหลากหลายนโยบาย หลายระดับความเสี่ยงให้เลือก เริ่มตั้งแต่กองทุนตราสารหนี้ กองทุนผสม กองทุนหุ้น กองทุนทองคำ เป็นต้น
- LTF มีหลายระดับความเสี่ยงให้เลือกเช่นกัน ตั้งแต่กองที่ลงทุนในหุ้น 65% ไปถึง 100%
3. ในส่วนของการปันผล ผู้ลงทุนต้องรู้ว่ากองทุนบางตัวนั้นไม่เงินปันผล
- RMF นั้นไม่มีปันผล
- LTF นั้นจะมีให้ผู้ลงทุนสามารถเลือกทั้งกองที่มีการจ่ายปันผลและกองที่ไม่จ่ายปันผล ซึ่งหากเลือกกองที่จ่ายปันผลแนะนำให้เลือกหักภาษี ณ ที่จ่าย โดยจะทำให้เงินปันผลที่ได้รับเสียภาษีในอัตราเพียง 10% จะทำให้ไม่ต้องกังวลใจในการนำรายได้จากเงินปันผลไปรวมเป็นเงินได้อีก
4. สุดท้ายดูผลประกอบการย้อนหลังของกองทุน แม้ว่าผลประกอบการจะดีในช่วงที่ผ่านมาแต่ไม่ได้หมายความว่าจะได้รับตอบแทนที่ดีในอนาคต เนื่องจากภาวะของหุ้นในขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง ผู้ลงทุนจึงต้องเลือกกองทุนที่มีความเสี่ยงน้อย หากยังไม่มีความชำนาญและไม่ต้องการแบกความเสี่ยงสูง