ในยุคธุรกิจออนไลน์กำลังเฟื่องฟู หลายคนจึงพร้อมกระโจนเข้ามาทำธุรกิจแบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นแบบสมัครเล่นหรือเข้ามาแบบเต็มตัว ไม่ว่าจะเป็นงานขาย งานบริการ หรืองานบันเทิง และที่มาแรงขณะนี้หากใครพอมีฝีมือในการวาดภาพและแนวทางดี ๆ หน่อยก็อาจจะ ทำสติกเกอร์ไลน์ ขาย เพราะเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2557 Line ได้เปิดบริการใหม่ชื่อว่า LINE Creators Market ซึ่งบริการนี้จะให้ทุกคนที่สามารถวาด ออกแบบ มาขาย LINE สติกเกอร์ได้เองด้วย และสำหรับผู้ที่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ก็มีชายหนุ่มผู้ใจดีบอกวิธีการทั้งหมดไว้บนเว็บชื่อดัง ดังนี้
กว่าจะมาเป็นการ์ตูนในไลน์
ชายหนุ่มผู้นำข้อมูลมาเผยแพร่ผ่านทาง Pantip.com กระทู้ http://pantip.com/topic/32568194 มีแฟนเพจว่า gaxtoon ซึ่งเขาได้เล่าประสบการณ์ในการทำการ์ตูนในไลน์อย่างละเอียด เป็นขั้นตอน
- ขั้นที่ 1 character design
ในการออกแบบจะแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ แบบนามธรรม เช่น บุคลิก นิสัย ใจคอ หรือจุดเด่นในการ์ตูนนั้น ๆ และแบบรูปธรรม คือ รูปร่างที่เราสร้างขึ้นมาซึ่งในการออกแบบนี้ต้องดูด้วยว่าเราจะขายให้กับผู้ซื้อแบบไหน เช่น เด็ก ผู้ใหญ่ วัยรุ่น คนชอบทำบุญคู่รัก หรือแก๊งเพื่อน
- ขั้นที่ 2 ออกแบบตัวละครแสดงให้ครบ 40 รูป
เมื่อเราชัดเจนในเรื่อง concept และ character แล้ว ตอนถัดมาก็จะง่าย ซึ่งขั้นนี้จะเป็นการออกแบบอารมณ์ที่เป็นการสื่อสารเรื่องราวภายในของตัวการ์ตูนออกมาจำนวน 40 ท่า ตามที่ Line กำหนดจำนวนรูปต่อ set มา ซึ่งรายละเอียดคือ
LINE อนุญาตให้มีสติกเกอร์ 40 ตัว ใน 1 ชุด ไม่อนุญาตให้ใช้โลโก้สินค้าคาแรคเตอร์ที่ไปยืมคนอื่นมาเอาหน้าดาราที่ชอบมาตัดเป็นสติกเกอร์ เป็นภาพถ่ายเป็นคำโดด ๆ อย่างเดียวไม่มีการ์ตูน ควรออกแบบมาให้สามารถใช้ได้ทุกวันเมื่อสนทนากับคนอื่น และควรออกแบบให้เข้าใจถึงความรู้สึก เข้าใจง่าย
- ขั้นที่ 3 ลงมือวาดและลงสี
ขั้นตอนที่ผ่านมาอาจเป็นการร่างภาพไว้คร่าว ๆ แต่ขั้นขณะนี้จะนำสิ่งที่ร่างไว้มาวาดและลงสีเพื่อให้ใช้ได้จริง ซึ่งความสวยงามก็จะปรากฏที่ขั้นตอนนี้
สำหรับการกำหนดขนาดของรูปที่ทาง Line กำหนด คือ Sticker แต่ละรูปต้องมีขนาดไม่เกินความกว้าง 370 สูง 320 pixel และต้องเป็นพื้นที่ว่างอย่างน้อย 10 pixel ตรงขอบบน ล่าง ซ้าย ขวา จึงจะมีพื้นที่แสดงผลที่เป็นตัวรูปไม่รวมที่ว่าง คือ ไม่เกิน 350 x 300 pixel ส่วนวิธีการอาจจะนำมา scan และลงสีตกแต่งในคอมพิวเตอร์ ด้วยความละเอียดของจำนวน pixel มากกว่า 9 เท่า ของที่ Line กำหนด (ประมาณ 3200 x 2700 pixel) เพื่อจะได้สามารถตกแต่งภาพได้อย่างละเอียด แล้วพอย่อลงมาก็จะคมชัดมาก
- ขั้นที่ 4 การส่ง sticker เข้าไปขายใน Line
สำหรับขั้นนี้ให้สมัคร creator กับ line ผ่านทางเว็บ https://creator.line.me ขั้นตอนสมัครก็ไม่ยาก เพียงแค่ล็อกอินด้วย e-mail และ password ที่ใช้เล่น LINE แล้วอนุญาตให้ LINE Creators Market เข้าถึงบัญชีของเราได้ และเมื่ออนุญาตให้ LINE Creators Market ผูกบัญชีเราแล้วก็เข้าสู่หน้าการกรอกข้อมูลรายละเอียดของผู้ขาย ซึ่งจะมีสองแบบคือบริษัทและบุคคล แล้วกรอกข้อมูลที่จำเป็นลงไป กดยืนยันข้อมูล LINE ก็จะส่งอีเมล์ยืนยันมาหาเรา จากนั้นเข้าไปกดยืนยันอีกรอบก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการสมัคร
สำหรับขั้นตอนการส่งภาพเข้าไปพิจารณา เมื่อออกแบบทั้ง 40 ภาพเสร็จ รวมถึงหน้าขาย 2 แบบ ก็ zip ไฟล์เข้าด้วยกัน จากนั้นอัพขึ้นหน้าระบบ แล้วรอให้ทางทีมงานของ LINE ตรวจสอบสติกเกอร์ก่อนว่าผ่านหรือไม่ หากตกลง LINE จะส่งอีเมล์มาบอกว่าอนุมัติให้ขาย จากนั้นก็รอให้สติกเกอร์ไปอยู่บนร้านค้าได้เลย ส่วนราคาขายเราไม่สามารถกำหนดเองได้ LINE จะกำหนดมาให้เลยว่าขายชุดละ 100 เยน (0.99 ดอลล่าร์หรือประมาณ 32 บาท) ซึ่งสติกเกอร์จะเปิดขายใน 4 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น ไทย ไต้หวัน และอินโดนีเซีย
- ขั้นที่ 5 แปลภาษาอื่น ๆ
สำหรับคนที่ทำ sticker แสดงอารมณ์ด้วยภาพเพียงอย่างเดียวก็จะสามารถขาย sticker ไปยังฐานลูกค้าได้ทั่วโลก โดยไม่ต้องแปล แต่ใส่คำพูดไปด้วยก็ต้องมีการแปลเป็นภาษาอื่นเพื่อขายยังตลาดต่างประเทศด้วย เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน หรือภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น
- ขั้นที่ 6 การประชาสัมพันธ์
ในการทำ sticker ให้ดี มีคุณค่าในตัวเองอีกทั้งสวย น่ารัก โดนใจผู้ใช้ และมีกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน เป็นเรื่องที่ควรทำ แต่เรื่องที่ขาดไม่ได้เลยก็คือการประชาสัมพันธ์ให้คนอื่นได้รับรู้ ได้รู้จักว่ามี sticker แบบนี้ออกมาจำหน่ายแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นถึงทำขึ้นมาดีมากมาย แต่ถูกซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบคนก็คงหาไม่เจอ และถูกดองไว้อย่างนั้นอีกทั้งไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่เพราะไม่เป็นที่รู้จัก ดังนั้น การประชาสัมพันธ์จึงเป็นประโยชน์มาก ซึ่งวิธีที่นักวาดการ์ตูนใน Line ใช้กัน ได้แก่การบอกต่อพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงให้รับรู้และการสร้าง fan page
รายได้จากการขาย sticker
การคิดรายได้ง่าย ๆ ยกตัวอย่างขาย sticker ได้ 100 บาท ทาง Line จะหักเป็นค่าจำหน่าย 50 บาท หักค่าภาษี 7.5 บาท ค่าโอนเข้าบัญชี 0.85 บาท ซึ่งจะเหลือเงินเข้ากระเป๋าผู้ทำหรือที่เรียกว่า creator 41.65 บาท นอกจากนี้หากสติกเกอร์ถูกขายบนร้านค้าเรียบร้อยแล้วก็ยังสามารถเข้าไปตรวจสอบยอดขายได้ทุกวัน รวมถึงจะหยุดขายชั่วคราวด้วยตัวเองก็ได้ และเมื่อยอดขายเกิน 10,000 เยน หรือประมาณ 3,150 บาท ก็สามารถกดโอนเงินผ่านทาง Paypal ได้
