หากเราลองเข้าไปดูในเพจ หรือตามเว็บบอร์ดต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ มีการพูดคุยกันเรื่องสถานภาพทางการเงิน จะเห็นว่ามีความเห็นที่เข้ามาร่วมแชร์และขอแบ่งบันวิธีการประหยัดเงินหลากหลายรูปแบบ บางรูปแบบเราคุณอาจจะคิดไม่ถึงว่า แค่วิธีง่ายๆ แบบนี้จะสามารถช่วยให้คุณเก็บเงินได้มากขึ้นจริงหรือ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของการใช้เงินง่ายๆ ที่หลายคนอาจมองข้ามไป เรียกได้ว่านับตั้งแต่ที่ก้าวเท้าออกจากบ้าน ซึ่งรูปแบบของ เปิดโหมด ประหยัดเงิน มนุษย์เงินเดือน สามารถทำได้หลากหลายวิธี ที่จะนำมาสู่การออมเงินได้เป็นอย่างดี
อ่านเพิ่มเติม : เทคนิคประหยัดเงิน ได้ผลเหลือเชื่อ !
สำรวจน้ำ-ไฟ ให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน
ในตอนเช้าก่อนออกจากบ้าน ไม่ว่าจะรีบแค่ไหน สิ่งแรกที่คุณต้องเช็คคือ หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นไหนที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ก็ควรรีบปิดสวิตซ์ไฟต่างๆ เช็คดูให้ทั่วบ้านว่าปิดแล้วหรือยัง เพราะหากคุณเปิดทิ้งไว้ทั้งวัน แม้จะบอกว่าวันเดียวอาจไม่เสียหายมาก แต่นั่นก็น่าจะไม่ใช่เงินที่คุณควรเสียไปไม่ใช่หรือ การถอดปลั๊กไฟเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างในบ้านจะช่วยทำให้คุณประหยัดค่าไฟได้อีกมาก รวมถึงการปิดก๊อกน้ำให้สนิท เพราะแม้แต่มีน้ำหยด ก็จะทำให้มิเตอร์หมุนได้เช่นกัน ซึ่งก็จะทำให้คุณเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แม้จะไม่มากก็ตาม
หลากสไตล์ไปกับการเป็นเจ้าแม่แฟชั่น
สำหรับสาวๆ แฟชั่นถือเป็นเรื่องใกล้ตัวอีกเรื่องหนึ่ง โดยเฉพาะการแต่งตัวตามเทรนด์ หรือตามกระแส แต่จะว่าไปในปัจจุบัน เรื่องภาพลักษณ์ภายนอก ถือได้ว่าเป็นการแสดงออกถึงความน่าเชื่อถือในสังคม ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือว่าผู้ชาย แต่หากต้องการประหยัดแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องติดตามทุกคอลเลคชั่นใหม่ๆ หรือจะต้องซื้อทุกเดือนก็ได้ แค่ลองกลับมามองหาเสื้อผ้าในตู้และอาจใช้เวลากับมันสักนิด เพื่อนำเสื้อผ้าที่มีอยู่มาไล่โทนสีแล้วเลือกให้เกิดความมิกซ์แอนด์แมชต์ นอกจากไม่เสียเงินแล้วยังได้ฝึกคิดสไตล์ของตัวเองอีกด้วย เรื่องนี้ยังรวมไปถึงการเลือกซื้อเครื่องสำอาง ที่ดูฟุ่มเฟือยมากเกินไปเช่นกัน ลองถามตัวเองก่อนที่เตรียมหยิบลิปสติกแท่งใหม่แล้วค่อยจ่ายเงินดีกว่า ถามตัวเองว่าจำเป็นต้องใช้จริงๆ หรือแค่อยากได้
ลองทำอาหารกลางวันมากินเอง
เพราะข้าวของในยุคนี้มีราคาแพงมาก แม้แต่อาหารจานเดียว หรืออาหารตามสั่ง ยังขึ้นราคา แต่หากคุณไม่สะดวกที่จะทำกับข้าวมากินเองที่ทำงาน ก็ต้องซื้อกันไป แต่ก็ยังสามารถประหยัดได้อีกนิดด้วยการเตรียมขวดน้ำเปล่า เพื่อดื่มหรือพกพาเวลาไปกินข้าวกลางวันนอกออฟฟิศ ลองคิดกันดูเล่นๆ ว่าหากซื้อน้ำเปล่าอย่างต่ำขวดละ 10 บาท หรือน้ำอัดลมกับน้ำแข็ง 15 บาท แล้วคุณทำงาน 5 วันต่อสัปดาห์ เมื่อคุณไม่ต้องเสียเงินซื้อน้ำ ก็จะทำให้ประหยัดเงินได้ประมาณ 200-300 บาทต่อเดือน ซึ่งแม้จะเป็นเงินเล็กๆ น้อยๆ แบบนี้ก็ไม่ควรมองข้าม หรือแม้แต่การดื่มกาแฟเย็นสักแก้วก่อนเริ่มงาน ที่หลายคนติดเป็นนิสัย ที่ทำให้กลายเป็นหนึ่งวิถีที่ต้องทำ หรือมีในทุกเช้าหรือบ่ายไปแล้ว ราคากาแฟ 1 แก้วอยู่ที่ 50 บาท หากดื่มทุกวัน นั่นก็เท่ากับว่าต้องเสียเงินกับกาแฟไปมากกว่าพันบาท เลยทีเดียว หากต้องการประหยัด อาจลองหันมาดื่ม น้ำชา ที่ให้คาเฟอีนเหมือนกัน แถมยังราคาถูกกว่าอีกด้วย
ไปประชุมข้างนอกแบบนี้ต้องเผื่อเวลาด้วยใช่หรือไม่
หากจู่ๆ คุณออกไปประชุมข้างนอก หรือพบลูกค้าช่วงบ่าย ถ้ารู้เช่นนี้ ควรเผื่อเวลาและหาเส้นทางการเดินทางที่ดีที่สุด อย่าพยายามนั่งแท็กซี่ตลอด ค่าบริการแท็กซี่เพิ่งปรับขึ้นราคาใหม่ หากเจอรถติดแบบนี้ก็คงไม่ดีแน่ ส่วนมื้อเย็นเลิกงาน ที่หลายคนอาจจะชอบแฮงค์เอาท์ เป็นต้องเลี้ยงสังสรรค์ และมักออกไปกินข้าวมื้อใหญ่ ซึ่งหากขาดไม่ได้จริงๆ ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปให้บ่อยครั้ง เดือนละครั้งสองครั้ง เพราะหากบ่อยมากระวังการเงินจะติดลบโดยไม่จำเป็น ลองถามกับตัวเองก่อนที่จะตัดสินใจควักกระเป๋าจ่ายออกไปทีละน้อยแบบที่ไม่รู้ตัว
หลักการบริหารค่าใช้จ่ายให้ถูกต้อง
ค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่ต้องเจอในชีวิตประจำวัน บางครั้งก็อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่อาจคาดหมายเตรียมตัวไว้ อย่างการเจ็บป่วย โรคภัยไข้เจ็บ ที่จะต้องคิดวางแผนการเงินให้ดีเพื่อการใช้จ่ายต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นและเพื่ออนาคตข้างหน้า การบริหารค่าใช้จ่ายที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ก่อนอื่นจะต้องมีรายรับมากกว่ารายจ่าย ที่ถือเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากที่สุด เพราะการที่ทำให้รายรับมีมากกว่ารายจ่าย เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ว่าคุณจะมีเงินเก็บออมที่มากขึ้น เพื่อใช้ในยามฉุกเฉินหรือในการวางแผนเพื่ออนาคต โดยเราสามารถทำหารายได้ให้เพิ่มขึ้นจากการทำอาชีพเสริม, การทำงานพาร์ทไทม์ , การลงทุนในสินทรัพย์ นอกจากนี้ยังต้องลดรายจ่าย อย่างไม่กินของแพง หรือให้หันไปซื้อของตอนลดราคา, ไม่ซื้อของฟุ่มเฟือย ฯลฯ
แต่ถ้าจะให้ดีแล้วควรทำให้ได้ทั้งสองแนวทางทั้งเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายจะดีที่สุด
การเรียงลำดับความสำคัญของรายจ่าย
นอกจากการทำงานหารายได้ แล้ว อย่ามองข้ามการฝึกการวางแผนด้านการเงิน ที่ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นไม่น้อยเพราะจะได้นำเงินไปจัดสรรปันส่วน เพื่อนำไปใช้ได้อย่างถูกต้อง หรือตามที่วางแผนเอาไว้ ควรแบ่งมาเป็น ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อย่างค่าอาหารการกิน, ค่าที่พัก, ค่าเดินทาง,การแบ่งเป็นเงินออมสำหรับสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉินหรือมีเหตุจำเป็น และ การลงทุน เพื่อให้เงินทำงานแทนตัวเอง อย่างการ ซื้อกองทุน, ทองคำ, หุ้น, อสังหา ซึ่งควรสำรวจตัวเองว่าค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนมีอะไรบ้าง อยู่ที่เท่าไร ควรเรียงลำดับความสำคัญให้ถูกต้อง เพื่อเป็นการบริหารเงินให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรดูถึงความเหมาะสมว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่จำเป็นจะต้องทำเป็นอันดับแรกๆ หรือตัดทิ้งเพื่อลดรายจ่ายที่ไม่เป็นประโยชน์ออกไป จะทำให้คุณมีเงินเก็บมากขึ้น