ปัจจุบัน Social Network มีความสำคัญต่อชีวิตของคนเรามากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ชีวิตของสังคมคนเมือง แทบจะทุกคนมี Facebook เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการมีเอาไว้เพื่อติดตามข่าว ติดตามแฟนเพจที่ตัวเองชื่นชอบหรือหลายคนก็มีไว้ใช้สำหรับการทำงาน เช่น ขายของออนไลน์ โปรโมทสินค้าผ่านการโฆษณา เพราะเป็นช่องทางที่มีโฆษณาค่อนข้างถูก และมีประสิทธิภาพอย่างมาก และอีกหลาย ๆ คนใช้เพื่อแชร์สิ่งต่าง ๆ ของตัวเอง พูดคุยกับเพื่อน ๆ หรือทำแกลอรี่เป็นของตัวเอง เป็นต้น ซึ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดประโยชน์อย่างแน่นอนสำหรับตัวผู้ใช้เอง แต่ก็มีโทษหากใช้ไม่ถูกวิธี โดยเฉพาะการที่เราเป็นพนักงานประจำที่ไหนซักที่หนึ่ง แล้วเกิดมีเจ้านายของเราส่งคำขอเป็นเพื่อนมาในเฟสบุ๊คล่ะก็อาจจะมีเรื่องอันตราย ๆ กับหน้าที่การงานตามมาก็ได้
หลายครั้งที่มักมีกระทู้คำถามเกี่ยวกับ เจ้านายขอ Add Facebook แต่เราไม่อยากรับ เพราะว่ารู้สึกถึงว่าต้องคอยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีตลอดเวลา ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดขึ้นมา จะทำอะไรก็ต้องคอยระวังตัวอยู่เสมอเพราะว่ากลัวว่าถ้าโพสอะไรไป บางครั้งบางโพสอาจมีผลต่อหน้าที่การงานในทางที่ไม่ดี หลายคนก็มีวิธีแก้ปัญหาแตกต่างกันไป ซึ่งโดยทั่ว ๆ ไป ก็มักที่จะเนียน ๆ ไป ไม่รับแอดเจ้านายเป็นเพื่อนใน Facebook แล้วก็ทำเป็นไม่สนใจ เหมือนไม่รู้ว่าใครแอดมาไม่ได้เช็ค แต่ถ้าได้เจอหัวหน้าตัวเป็น ๆ เขาก็อาจจะเข้ามาถามว่าทำไมถึงไม่รับแอดเป็นเพื่อนใน Facebook และสุดท้าย เราก็จะต้องรับแอดหัวหน้าอยู่ดีหรือบางคนก็รับแต่โดยดี เพียงแต่การโพสแต่ละครั้งมีการระแวดระวังตัวมากขึ้น ทำท่าทีเป็นสนใจ ในการทำงาน โดยการโพสเรื่องที่เกี่ยวข้องอยู่เป็นประจำแสดงเหมือนว่าได้มีการพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ แอบเนียนหวังได้เลื่อนขั้นผ่านพฤติกรรมบน Facebook ไปเสียอย่างนั้น และบางคนเวลาโพสเรื่องที่ดี ๆ ก็มักจะโพสเป็น Public เพื่อให้ทุก ๆ คนได้รับรู้ รวมถึงเจ้านายของตัวเองด้วย แต่บางครั้งเวลาที่อยากจะแอบนินทาเจ้านายก็อาจจะใช้วิธีการโพสด้วยทีตั้งไม่ให้เจ้านายเห็น แต่เพื่อน ๆ คนอื่นใน Facebook ยังสามารถที่จะเห็นและกด Like หรือแสดงความคิดเห็น Comment ได้ปกติ
อ่านเพิ่มเติม : ทำอย่างไรให้เข้าตาเจ้านาย ทํางานให้เจ้านายรัก
จริง ๆ แล้วการที่เรามีเจ้านายที่บริษัทมาเป็นเพื่อนอยู่ใน Facebook ก็อาจจะไม่ได้น่ากลัว ไม่ได้มีข้อเสียขนาดนั้นก็ได้ เพราะจริง ๆ แล้วการเป็นเพื่อนกันใน Social Network ก็ควรจะแยกออกจากเรื่องงาน เพราะไม่ใช่เจ้านายที่จะเห็น ความเคลื่อนไหวของเราเท่านั้น แต่เราก็จะเห็นความเคลื่อนไหวของเจ้านายด้วยเช่นกัน ทำให้เราน่าจะรู้จักกับเจ้านายได้มากขึ้น และเข้าถึงความคิดของเขาได้มากขึ้น เขาก็เช่นกันบางครั้งอาจจะคิดว่า แค่อยากมีเพื่อนใน Facebook เป็นเราเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้อยากจะมาส่องพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องงานหรอก เพราะเจ้านายหลาย ๆ คนก็คงแยกแยะได้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่การเข้าถึงกันได้แบบนี้ มันง่ายต่อการเข้าใจกันมากขึ้นจริง ๆ ยิ่งเรารู้จักเขามากขึ้น เขารู้จักเรามากขึ้น บางครั้งอาจจะเป็นข้อดี ก็ได้ที่จะเข้าใจกันมากขึ้นเวลาที่มีปัญหาต่าง ๆ
ซึ่งจริง ๆ แล้วสังคมสมัยนี้ค่อนข้างเปิดกว้างมากกว่าเมื่อก่อนเยอะ บางบริษัททำงานไปเล่น Facebook ไปยังได้เลยด้วยซ้ำ เพราะหลาย ๆ บริษัทมีความคิดที่ทันสมัยมากขึ้น เน้นการดูประสิทธิภาพของพนักงานผ่านประสิทธิผลของงานที่ออกมาที่ทางบริษัทได้รับมากกว่าจะมานั่งดูว่าแต่ละนาทีของเรานั้นใช้ไปกับอะไร แต่ละนาทีคุ้มค่ากับค่าจ้างหรือเปล่า อู้งานหรือไม่ เพราะสมัยนี้เข้าใจมากขึ้นว่าคนเราไม่สามารถทำงานติด ๆ กันนาน ๆ ทั้ง 8 ชั่วโมง ได้หรอกบางครั้งทำงานซัก 1-2 ชั่วโมง ก็มีอาการอยากพักสายตากันแล้ว
ดังนั้นจริง ๆ แล้วการมีเจ้านายเป็นเพื่อนในโลกออนไลน์ หรือ Social Network นั้น ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้น ถ้าเราเจอเจ้านายที่ดี เข้าใจถึงเวลา ว่านอกเวลางานก็คือ นอกเวลางานโลก Social ก็คือพื้นที่หนึ่ง ๆ ซึ่งไม่เกี่ยวนักกับการทำงาน แต่กลับกัน ถ้าเราทำงานภายใต้เจ้านายที่แตกต่างจากข้างต้น มีความจู้จี้จุกจิก เจ้าระเบียบ และคิดว่าทุกเวลา คืองานก็อาจทำให้เราปวดหัวก็ได้ แต่เราก็อาจจะต้องจำยอมเป็นเพื่อนกับเจ้านายไปเพื่อเป็นการถนอมน้ำใจและ ความปลอดภัยของหน้าที่การงานและคอยหาวิธีรับมือวิธีการอื่นเอา เช่น วิธีข้างต้นหลาย ๆ วิธีก็ใช้ได้ผลดีทีเดียวนะ เวลาโพส ที่ไม่อยากให้เจ้านายเห็น ก็เลือกบล็อกเจ้านายเสีย เพื่อนก็ยังเห็นได้ปกติ หรือรับแล้วเนียน ๆ บล็อกไปเลย แต่กรณีนี้ก็ดูจะโหดร้ายไปหน่อย ถ้าเราเป็นเจ้านายแล้วเรารู้ว่าลูกน้องเราทำแบบนี้คงจะแอบเคืองไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว เวลาจะโพสอะไรก็ระวังหน่อย บางครั้งลางาน 1 วัน โดยอ้างว่าไปทำธุระสำคัญอื่น ๆ แต่จริง ๆ แล้วไปเที่ยวกับเพื่อน แล้วเพื่อนก็ดันแท็กมาเสียนี่ ซวยเลย กลายเป็นโกหกเจ้านายไปเสียยังถ้าอย่างนั้น บางครั้งถ้าไม่อยากให้เขารู้ก็คงต้องระมัดระวังในเรื่องการใช้งานเป็นพิเศษ