ทุกวันนี้มีการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์มีการสั่งซื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อาจเพราะความสะดวกสบายในการหาซื้อสินค้าซักชิ้นที่กลายเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่เราค้นหาในอินเตอร์เน็ตเราก็สามารถเจอสินค้าที่จะซื้อได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเสียเวลาไปเดินซื้อหาด้วยตัวเอง นั้นก็คงเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เรานิยมสั่งสินค้าจากอินเตอร์เน็ต และถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับผู้ซื้อที่จะสะดวกสบายเพียงแค่จ่ายเงินก็ได้รับสินค้าแล้ว แต่ในมุมกลับกันหากคุณต้องการเป็นผู้ขายละ ตลาดออนไลน์ที่กว้างใหญ่นี้จึงเริ่มมีผู้ขายหน้าใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่การจะเข้าไปเป็นผู้ขายหน้าใหม่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากจนเกินไปนัก
วันนี้ผมขอบอกเล่าประสบการณ์ในช่วง 2-3 ปี ในการอยู่ในตลาดออนไลน์ว่า ขายสินค้าออนไลน์อย่างไรให้ขายดี ?
1.ควรสร้างความน่าเชื่อถือ
ข้อนี้คือจุดที่ทำให้ผู้ขายหน้าใหม่ต้องแพ้ให้กับผู้ขายที่ขายสินค้ามานาน เพราะลูกค้าไม่กล้าซื้อเนื่องจากกลัวถูกโกง ซึ่งเรามักเห็นข่าวตามสื่อออนไลน์และกระทู้ต่างๆ ว่ามีคนโดนพ่อค้า/แม่ค้าที่ขายสินค้าโกงโอนเงินแล้วไม่มีส่งสินค้า ข้อนี้เองก็ทำให้ลูกค้ามีอาการร้อนๆ หนาวๆ ไม่กล้าที่จะสั่งซื้อกับผู้ขายหน้าใหม่ แต่การสร้างความหน้าเชื่อถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาแต่เราก็สามารถสร้างความน่าเชื่อถือได้ เช่น
- การหมั่นลงเลขที่พัสดุในเว็บไซต์ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเพราะลูกค้าเองก็มักจะดูประวัติในการส่งสินค้าในเว็บไซต์ของเราเพื่อดูความน่าเชื่อถือ หากในเว็บขายสินค้าไม่มีการลงเลขที่พัสดุเลยก็จะมักทำให้ลูกค้าไม่กล้าที่จะซื้อสินค้านั้นเอง
- การตอบกลับลูกค้าอย่างรวดเร็ว ในที่นี้ไม่ได้หมายความถึงการสามารถตอบได้ทันทีทันใด เพราะผู้ขายหลายท่านก็ต้องทำงานประจำทำให้ไม่สามารถตอบได้อย่างทันที ซึ่งเราไม่มีเวลาที่แน่ชัดว่าควรตอบเร็วแค่ไหน แต่ก็ไม่ควรเกิน 12 ชั่วโมงในกรณีที่ลูกค้าสอบถามสินค้ามาแล้วเรายังไม่ทราบว่ามีสินค้าดังกล่าวหรือเปล่านั้น เราก็สามารถตอบลูกค้าไปก่อนเป็นต้นว่า “ขออนุญาตตรวจสอบสินค้าที่สอบถามให้ตอนเย็น” แบบนี้ดีกว่าไม่ตอบแน่นอน แต่บางครั้งลูกค้าหลายท่านก็สอบถามไปยังผู้ขายหลายคนใครตอบก่อนก็ย่อมได้เปรียบในข้อนี้
2.สร้างความประทับใจ
ในฐานะที่เคยเป็นลูกค้าครับ การตอบคำถามจากผู้ขายหลายครั้งมักจะเจอผู้ขายหลายท่านมีอาการที่เรียกว่าเหวี่ยง ลูกค้าถามเยอะเหวี่ยงเลยแบบนี้เจ๊งแน่นอนครับบางครั้งเราต้องเข้าใจ ว่าซื้อขายออนไลน์และสินค้าที่มีราคาผู้ซื้อเองก็ไม่เห็นสินค้าจริง นั้นเป็นธรรมดาครับที่ลูกค้าต้องถามมากกว่าปกติไม่ว่าจะเป็น สอบถามขนาด ถามจำนวน สี ของดูรูปสินค้าจริงบ้าง บางคนถึงกับถามผู้ขายว่าสีไหนสวยกว่ากัน บางทีผู้ขายตอบลูกค้าหลายคำถามก็ถึงกับมึนงงจนมีอาการไม่อยากขาย แต่ผมแนะนำให้ใจเย็นแล้วค่อยๆ ตอบกลับครับ เพราะลูกค้าเหล่านี้ก็มีโอกาสกลับมาซื้อใหม่ ยิ่งในกลุ่มสินค้าเครื่องสำองค์ที่ใช้แล้วหมดไป อย่างไรต้องกลับมาซื้ออีกสำหรับข้อนี้ท่องเอาไว้ครับ เป็นผู้ขายต้องใจเย็นๆ
3.ลงประกาศหรือโฆษณา
เรื่องนี้แทบจะสำคัญที่สุดในการขายเลย เพราะต่อให้ข้ออื่นๆ ที่ได้กล่าวมาดีขนาดไหนแต่ถ้าไม่มีคนเข้ามาซื้อแล้วเราจะขายใครกัน ผู้ขายควรหมั่นลงประกาศหรือโฆษนาตามเว็บไซต์ต่างๆ ด้วย โดยควรตั้งชื่อของประกาศขายให้ตรงกับสินค้าเพื่อให้หาง่ายในการค้นหาของ Google และหากเว็บที่เราลงประกาศไปมีช่องสำหรับคำแท็ก ผู้ขายควรลงให้ครบด้วยนะครับเพราะส่วนนี้เองก็มีส่วนสำคัญในการค้นหาด้วยเช่นกัน
4.รูปสินค้าจริง
นี้คือทีเด็ดสำหรับการตัดสินใจ เพราะรูปสินค้าโดยทั่วไป เช่น เสื้อผ้าหรือของใช้โดยมากมักมาจากแหล่งเดียวกัน หากผมเป็นผู้ซื้อย่อมตัดสินใจซื้อในที่ที่ถูกที่สุดหากสินค้าเหมือนกัน แต่ในความเป็นจริงของผู้ขายสินค้ามีหลายเกรดครับ ยกตัวอย่างสินค้าที่มากจากจีนที่ผู้ขายรับมามักจะมีรูปโฆษนาจากเว็บจีนที่ดูสวยงาม แต่สีของสินค้าเนื่องด้วยมีหลายเกรดทำให้สีจริงอาจไม่เหมือนในรูป การลงรูปสินค้าจริงจะช่วยให้การตัดสินใจของผู้ซื้อเร็วขึ้นด้วย และไม่ต้องมาถามหารูปสินค้าจริงในภายหลัง
การเป็นผู้ขายสินค้าออนไลน์หน้าใหม่ความจริงมันไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่เราเคยคิดครับ แต่เวลาและประสบการณ์จะช่วยสอนเราไปด้วยเองในตัว การเลือกสินค้ามาขาย การพูดคุยในครั้งแรกเราอาจจะยังเขินอาย การตอบกลับคำถามจากลูกค้า ทำอย่างไรที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าเราอีก? เป็นสิ่งที่เราต้องเรียนรู้และฝึกฝนครับ แต่การเรียนย่อมต้องมีทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติไม่ลองก็ไม่รู้ สุดท้ายนี้ก็ได้แต่หวังว่าสิ่งที่ผมรู้จะสามารถต่อยอดในการขายของออนไลน์ได้ไม่มากก็น้อยนะครับ