เมื่อไม่นานมานี้ ถ้าใครที่ได้ติดตามข่าวบันเทิงดาราหรือพอผ่านหูผ่านตา ผ่านช่องทางสื่อโซเซียลมิเดียแล้ว คงจะเคยได้อ่านเรื่องราวของนักแสดงหญิงท่านหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในวงการบันเทิงไทยค่ะ นั่นก็คือ คุณตุ๊ก ชนกวนันท์ รักชีพ ซึ่งมีผลงานด้านการเป็นนักแสดงมายาวนานเช่นกัน (ตั้งแต่ พ.ศ.2543-2559) ซึ่งคุณตุ๊กก็กำลังมีผลงานล่าสุด ในซีรีส์ Club Friday To Be Continued ตอน เพื่อนรักเพื่อนร้าย รับบทเป็นพี่อร นั่นเองค่ะ
เอาล่ะค่ะ พอจะรู้จักกันไปคร่าวๆแล้วนะคะ นอกจากความสามารถด้านการแสดงแล้ว คุณแม่ยังสาว ที่ได้ชื่อว่าเป็น single mom ท่านนี้ ก็ได้หันมาทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตร ปลูกข้าว ทำนา ทำการเกษตรแบบพอเพียงอย่างแท้จริง งานนี้นอกจากคุณตุ๊กเองจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการทำแล้ว ยังมีคุณพ่อ คุณสุธา นิติภานนท์ และพี่สาวมาช่วยร่วมมือร่วมใจ ลงแรงแข็งขัน ผลักดัน จนกลายมาเป็น “ สุธาทิพย์ฟาร์ม ” บนเนื้อที่กว่าหนึ่งร้อยไร่เศษ ในอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีค่ะ
แรงบันดาลใจของคุณตุ๊ก ก็คือ การทำในสิ่งที่ให้คุณค่าแก่สังคม ข้าว ที่เป็นอาหารหลักที่อยู่คู่คนไทยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ข้าวเป็นอาหารหลักที่ทานง่าย ทานกับอะไรก็ได้ มีคุณค่าทางอาหารสูง ทั้งนี้ข้าวไทยก็เป็นเอกลักษณ์ของคนไทยที่มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง จึงผลักดันให้เกิดการทำนาข้าวแบบอินทรีย์ขึ้นมา โดยนาข้าวของคุณตุ๊ก จะไม่มีการใช้สารเคมีใดใดทั้งสิ้น เรียกได้ว่า ตั้งแต่กรรมวีธีการปลูก การให้ปุ๋ย และการดูแลรักษาและแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น ปัญหาของพวกหนอนและแมลงศัตรูพืชที่มากัดกินใบข้าว และขัดขวางการเจริญเติบโตของต้นข้าว การเก็บเกี่ยวผลผลิต ตรงนี้คุณตุ๊กถึงขนาดว่า ให้ล้างเครื่องจักรก่อนทุกครั้งที่จะนำมาเก็บเกี่ยวข้าวในที่นาของตน เพื่อให้มั่นใจได้ว่ารถเกี่ยวข้าวนั้นจะไม่นำเอาสารพิษจากที่อื่นมาปะปนกับข้าวของฟาร์มสุธาทิพย์ เรียกได้ว่าละเอียดและใส่ใจทุกขั้นตอนจริงๆค่ะ
ปัจจุบัน ฟาร์มสุธาทิพย์ ได้ผลิตข้าวออกจำหน่ายทั้งหมดสามสายพันธุ์หลักๆเลยก็คือ ข้าวขาวหอมปทุม ข้าวกล้องหอมปทุม และข้าวไรซ์เบอร์รี่(สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม) นอกจากจะเป็นสินค้าที่ปลอดภัยแบบเกษตรอินทรีย์แล้ว ยังเป็นสินค้าเพื่อสุขภาพอีกด้วย โดยเฉพาะข้าวที่มีคุณสมบัติพิเศษอย่างข้าวไรซ์เบอร์รี่ ที่มีความโดดเด่นทั้งสี คือมีสีม่วงเข้มๆอมแดงก่ำ มีเม็ดเรียวยาว และมีคุณประโยชน์ช่วยบำรุงโลหิตในผู้ที่สูงวัย บำรุงสายตาและระบบประสาท เวลาหุงออกมาน่าตาชวนรับประทานเป็นอย่างมาก ด้วยรสชาติที่หอมนุ่มหวานกลมกล่อม นอกจากนี้ข้าวไรซ์เบอรร์รี่ยังเป็นข้าวที่มีกากใยอาหารสูง ช่วยลดระบบเคอเลสเตอรอลและไขมันในร่างกายด้วยค่ะ เพราะฉะนั้นคนรักสุขภาพและใครที่กำลังควบคุมน้ำหนักและควบคุมอาหารจึงไม่ควรพลาดเลยทีเดียว โดยช่องทางการจัดจำหน่ายข้าวปลอดสารพิษของสุธาทิพย์ฟาร์มก็คือ ผ่านสื่อออนไลน์ บนหน้าเพจเฟซบุค ชื่อว่า สุธาทิพย์ฟาร์ม ซึ่งในอนาคตไม่แน่ว่า ถ้ากระแสตอบรับจากตลาดดีอาจจะมีการขยายผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น
เรียกได้ว่า ยุคปัจจุบันนี้เป็นยุคของไอทีและการพัฒนาอุตสาหกรรม คนรุ่นใหม่ๆที่จบการศึกษามาก็ล้วนแต่เลือกสายงานที่เกี่ยวข้องกับอะไรใหม่ๆ น้อยคนนักที่หวนคืนสู่แผ่นดินเกิด หรือหันกลับมาพลิกฟื้นการทำการเกษตร เพราะเห็นว่าเป็นงานที่ยากลำบาก ต้องตากแดดตากลม กว่าจะได้ผลผลิตมาก็ต้องเผชิญกับปัญหามากมายทั้งที่เป็นปัญหาทั่วๆไป รวมไปถึงภัยธรรมชาติเช่น น้ำท่วมหรือภัยแล้ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเราย้อนมองในอีกแง่มุมหนึ่ง ถ้าคนทุกคนคิดเหมือนกัน คือ ไม่อยากทำนา ไม่อยากทำเกษตร อนาคตของประเทศไทยจะเป็นอย่างไร ? ไทยคงนำเข้าข้าวจากต่างประเทศเข้ามาแทนที่จะผลิตเอง พื้นที่ที่เคยเป็นแหล่งเพาะปลูก กลับกลายมาเป็นตึกรามบ้านช่องและโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ถึงแม้ว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเจริญที่เกิดขึ้น แต่ถ้ามองในแง่ของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนั้นก็เหมือนจะถูกทำลายลงไปเช่นกัน แต่ไม่ใช่ว่า อยากให้ทุกคนหันมาทำการเกษตรทั้งหมดนะคะ เพียงแต่จะสื่อว่า อยากให้เราเห็นคุณค่าในสิ่งที่เรามีอยู่ ซึ่งตรงกับหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในเรื่องของความพอประมาณและการเพิ่มคุณค่าให้กับสิ่งที่มีอยู่ ยิ่งลักษณะภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศของบ้านเรานั้นเอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกด้วยแล้ว การทำเกษตรแบบอินทรีย์จึงเป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถของเราหรอกค่ะ
นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งนะคะที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ ในฐานะที่ผู้เขียนนั้น ก็มีทัศนะที่คล้ายๆกันกับคุณตุ๊กค่ะ โดยเฉพาะในเรื่องของการหันมาทำการเกษตรและอยู่อย่างพอเพียง นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ถึงแม้ว่าบางทีในเรื่องของรายได้และผลตอบแทนที่ได้รับ อาจจะไม่ได้มากมายเท่ากับการทำงานในสายงานอื่นๆ แต่อย่างน้อยถ้าหากใครที่ชื่นชอบการทำเกษตรแบบพอเพียง นั้นถือว่าเป็นงานเป็นอาชีพที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ยิ่งการผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับสุขภาพ สินค้าออแกนิกส์ปลอดสารพิษ ก็ถือว่าได้รับความนิยม เพราะเดี๋ยวนี้คนไทยทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยรุ่นหนุ่มสาว วัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ไปจนถึงวัยสูงอายุก็ต่างหันมารักษาสุขภาพ เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์กันมากขึ้น
เพราะฉะนั้น ถ้าใครที่กลัวว่า ทำมาละจะขายไม่ออก คิดใหม่เลยค่ะ บางทีผลผลิตอาจจะไม่เพียงพอต่อตลาดก็ได้ เพราะอย่างน้อยข้าวก็เป็นอาหารหลัก เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทุกคนต้องรับประทานข้าว ยิ่งข้าวมีคุณภาพที่ดีเท่าไหร่ ยิ่งจะสร้างฐานลูกค้าให้มีความมั่นใจในการบริโภคได้ดีเช่นกัน ไม่แน่ว่าหากทำการตลาดดีดี เจาะให้เข้าถึงผู้บริโภคในวงกว้าง ก็ย่อมทำกำไรให้ไม่น้อยเลย.
อ่านเพิ่มเติม : แหวกกระแส มนุษย์เงินเดือน มาเป็นเกษตรกร !