สมัยนี้สภาพแวดล้อมในสังคมปัจจุบัน ถูกหล่อหลอมทำให้คนในสังคมเชื่อว่า จะต้องมีรายได้ให้มากกว่าหนึ่งช่องทางเข้ามาทุกเดือนเพื่อทำให้เกิดอิสรภาพทางการเงิน ซึ่งก็ถือเป็นสิ่งที่ถูกต้องเพื่อปูทางสู่ความร่ำรวย หรือมีรายได้เพิ่มขึ้นในอนาคต แต่บางครั้งก็อาจทำให้คุณลืมไปว่านอกจากหาเงินให้ได้มากๆแล้ว ในการวางแผนบริหารรายจ่ายก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ซึ่งก่อนจะใช้จ่ายทุกครั้ง ควรมีเหตุผลในการเลือกซื้อและตัดสินใจ ว่าสมควรในการจ่ายแต่ละครั้งมากน้อยแค่ไหน โดยจะต้องคิดถึงประโยชน์ที่คุณจะได้รับให้ดีเสียก่อน ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วสิ่งที่ต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ก็เพื่อให้เกิดความเหมาะสมความพอดีในการใช้เงิน ไม่เกิดปัญหา ใช้เงินเปลือง นั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : เมื่อหารายได้เพิ่มไม่ได้ ก็ต้อง ควบคุมค่าใช้จ่าย !
ความจำเป็นในการซื้อของ
ความจำเป็นในการซื้อของแต่ละครั้ง อาจจะเริ่มด้วยการดูว่าสิ่งที่คุณต้องการจะซื้อนั้น มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน และเหตุผลที่ซื้อเพราะอะไร คือจะต้องมีความจำเป็นในการที่จะต้องใช้จริงๆ ไม่ใช่ซื้อเพราะเป็นแค่อารมณ์ชั่วครู่ หรือรู้สึกเห็นแล้วอยากได้มาครอบครอง หรือซื้อตามกระแสเทรนด์ฮิต แต่พอใช้งานไม่กี่ครั้งกลับไม่สนใจแล้ว หรือซื้อมาเก็บไว้เพราะเห็นว่าสวยดี ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมักจะเป็น สิ่งค้าฟุ่มเฟือย ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตา เครื่องสำอาง เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ
ความคุ้มค่าและการใช้งาน
ควรซื้อของในสิ่งที่คุณจะใช้งานเท่านั้น ซึ่งอาจจะหมายถึง สินค้าหรือบริการ ที่จะต้องจ่ายให้คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ของบางอย่างนั้นอาจมีฟังก์ชั่นและทำหน้าที่ได้อย่างมากมาย ในแง่ของราคาที่จ่าย และคุณภาพที่จะได้รับ อาจลองดูและเปรียบเทียบว่าสินค้าในประเภทเดียวกัน แต่มีการใช้งานได้ผลดีเหมือนกัน แต่อีกชิ้นราคาย่อมเยากว่า ก็ควรเลือกสินค้านั้น เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่าย เพื่อที่จะได้มีเงินออมมากยิ่งขึ้น การซื้อของที่ไม่จำเป็น บางครั้งนำมาใช้งานจริง อาจจะใช้ได้ไม่ครบทั้งหมด โดยเฉพาะสินค้าไอทีอย่าง ทีวี, โทรศัพท์, คอมพิวเตอร์ ซึ่งการเลือกซื้อของแต่ละครั้งนั้นจะต้องไม่เป็นภาระจนเกินไป เป็นอีกข้อที่สำคัญไม่แพ้กัน คือความสัมพันธ์ระหว่างรายรับและรายจ่ายว่ามีความสมดุลกันหรือไม่ ซึ่งคุณไม่ควรมีภาระค่าใช้จ่ายเกิน ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของรายได้ต่อเดือนที่ได้รับการวางแผนที่ดีและคิดให้รอบคอบก่อนใช้ เป็นสิ่งที่ควรหมั่นทำเป็นประจำ ทั้งนี้ก็เพื่อฝึกวินัยในการอดออมและใช้จ่ายที่ถูกต้อง เพราะถึงแม้คุณจะหาเงินได้มากมากเพียงใด แต่หากใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย และไม่รู้จักคุณค่า ก็มีแต่จะลำบากในอนาคตอย่างแน่นอน
ค่านิยมการใช้จ่ายที่ควรเลี่ยง
ในอดีตจนถึงปัจจุบันนั้น ถือได้ว่าการบริโภคของคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เนื่องมาจากหลายๆปัจจัยไม่ว่าจะเป็น วัฒนธรรมจากต่างประเทศ, สภาพสังคมและสิ่งแวดล้อม, ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี, และที่มีผลมากที่สุด คือการเข้าถึงข้อมูลต่างๆในโลกของอินเทอร์เน็ตที่ง่ายมากยิ่งขึ้น ทำให้คนไทยได้รับมาหลากหลายค่านิยม ที่ได้รับมานั้นก็มีทั้งที่ดีและไม่ดีปะปนกัน ซึ่งหากเป็นค่านิยม เกี่ยวกับการใช้จ่ายที่ไม่ถูกต้อง ก็ควรเลือกที่จะหลีกเลี่ยง อย่างการเลือกใช้สินค้าราคาสูงหรือแบรนด์ดัง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีความชอบใช้ของราคาแพงๆ หรือจะต้องเลือกซื้อเป็นสินค้าแบรนด์ที่มีชื่อเสียง เพื่อทำให้ได้รับการยอมรับจากสังคมให้ทราบว่าตัวเองมีฐานะดี และชอบมองว่าสินค้าในประเทศเป็นสินค้าที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีมาตรฐาน หรือเป็นสินค้าด้อยคุณภาพ แต่กลับรู้สึกภูมิใจทุกครั้งเมื่อได้ใช้สินค้าแบรนด์เนม หรือที่เป็นสินค้าจากต่างประเทศ ทั้งที่ในบางครั้งซื้อมาแล้วก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ไม่คุ้มค่า แถมของบางอย่างเกินฐานะของตนเองด้วยซ้ำ
เน้นความอินเทรนด์และทันสมัยมากเกินไป
บางคนกลัวจะตกรุ่นและไม่อินเทรนด์หรือไม่ทันกระแส จนทำให้บางทีมีการใช้จ่ายแบบผิดๆ และอาจจะต้องเป็นหนี้บัตรเครดิตมากมาย แถมยังผ่อนชำระขั้นต่ำตลอดเวลา ทำให้เกิดลายเป็นภาระที่ไม่มีวันจบสิ้น โดยเฉพาะในยุคนี้ เทคโนโลยีมีการพัฒนาและก้าวหน้าไปอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ, แทปเล็ต,กล้องถ่ายรูป, โทรทัศน์, รถยนต์ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและส่งผลต่อค่านิยมในปัจจุบันอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายคนที่มักจะชื่นชอบการกินดื่มอย่างหรูหรา เพราะมีความเชื่อที่ว่า การไปนั่งตามร้านที่ตกแต่งอย่างสวยงามพร้อมด้วยเมนูอาหารที่ราคาสูง จะทำให้คนอื่นมองมายังตนเองมีรสนิยม ดูดี และไม่น้อยหน้าใคร ซึ่งที่จริงแล้ว คุณสามารถเลือกทำในเฉพาะโอกาสพิเศษเท่านั้นก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายฟุ่มเฟือยตลอดเวลา
เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นค่านิยมการใช้จ่ายที่ควรหลีกเลี่ยง หากขาดการวางแผนทางการเงินที่ดี ก็มีแต่จะทำให้เสียทรัพย์และเป็นการสร้างหนี้เป็นสินมากยิ่งขึ้น ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจับจ่าย คำนึงว่าเหมาะสมและคุ้มค่ากับสิ่งที่จ่ายไปมากน้อยแค่ไหน โดยที่ไม่ต้องเดือดร้อนทางการเงินของตัวเองด้วย สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือคุณควรจะทำการกันเงินอีกส่วนไว้สำหรับการฝากออมเพื่ออนาคต หรือจัดตั้งเป็นกองทุนครอบครัวมั่นคง เพื่อเป้าหมายทางการเงินที่กำหนดไว้ ไม่ว่าจะเป็นการ หาซื้อบ้านสักหลัง ซื้อรถสักคัน และกำหนดเวลาที่จะบรรลุเป้าหมาย หรือทำกองทุนรวม เพื่อไว้สำหรับการขยายดอกผลและสร้างความมั่งคั่งให้เงินทองจากการออม ซึ่งเป็นการลงทุนในรูปแบบต่าง ๆ
