การเริ่มต้นหรือขยับขยายธุรกิจให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เป็นเรื่องที่ไม่ยากเกินความสามารถของหลาย ๆ คน แต่การทำธุรกิจไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหนก็ต้องใช้เงินทุน และในยุคปัจจุบันนี้นักธุรกิจส่วนมากจะใช้บริการสินเชื่อธุรกิจ SMEจากธนาคาร ซึ่งการ ขอสินเชื่อธุรกิจ SME ให้ธนาคารอนุมัติง่าย ๆ นั้นมีเคล็ดลับดังนี้
การเงินในบัญชีเดินสะพัดสวยงามสม่ำเสมอ
ผู้ที่จะขอกู้สินเชื่อธุรกิจ SME ย่อมรู้ดีว่าธนาคารไม่ได้รู้จักธุรกิจหรือใกล้ชิดกับลูกค้าทุกคน แถมธุรกิจขนาดเล็กโดยเฉลี่ยแล้วยังมีความผิดพลาดสูง เพราะฉะนั้นสิ่งที่จะทำให้ธนาคารรู้จักตัวตนของผู้กู้ก็คือ บัญชีที่มีการเงิเนเดินสะพัด ซึ่งแทบทุกธนาคารจะอ้างอิงยอดหมุนเวียนเงินในบัญชี เพื่อประเมินรายได้ของผู้ขอกู้
การเดินบัญชีให้สวยงามเริ่มจากการฝากเงิน ซึ่งจำนวนเงินที่ฝากในแต่ละครั้งสามารถตีความได้ถึงสภาพธุรกิจของผู้ขอกู้ เพราะฉะนั้นเมื่อมีรายได้เข้าก็ควรเอาฝากเข้าบัญชีไว้ทันที หรือหากเป็นไปได้อาจจะรับเงินจากลูกค้าด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีโดยตรงเพื่อให้บัญชีเดินอย่างสม่ำเสมอ
ส่วนการถอนเงินก็สามารถทำได้แต่อย่าถอนจนหมดบัญชี เพราะนั่นหมายถึงรายจ่ายของธุรกิจของผู้กู้เอง จึงควรมีเงินหมุนเวียนเข้าและออก เพื่อให้เห็นทั้งรายรับและรายจ่ายที่เกิดขึ้นในธุรกิจ ธนาคารจะตรวจสอบการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน หากตัวเลขในบัญชีมีความสม่ำเสมอสวยงาม ก็ถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว
อ่านเพิ่มเติม : เทคนิค การเดินบัญชีธนาคาร (Bank Statement) ให้ดูดี
เอกสารทางการเงินเป็นสิ่งที่มีค่า
บัญชีซื้อ -ขาย สำเนาใบกำกับภาษี ใบสั่งซื้อสินค้า ใบเสร็จรับเงินหรือบรรดาเอกสารที่จะแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานธุรกิจมีความสำคัญมากเพราะเป็นเอกสารประกอบการพิจารณาสินเชื่อธุรกิจ SME โดยเฉพาะกรณีที่ยอดหมุนเวียนในบัญชีไม่สะท้อนถึงรายได้ทั้งหมดของธุรกิจ ก็สามารถใช้เอกสารต่าง ๆ เหล่านี้ชี้แจงให้เห็นถึงยอดขายที่แท้จริงได้ ดังนั้นควรจัดเก็บจัดไว้เป็นหมวดหมู่ให้เรียบร้อยเพื่อให้สะดวกต่อการนำมาตรวจสอบ
ธนาคารไม่เปิดเผยข้อมูลของผู้ขอกู้สินเชื่อธุรกิจ SME
ผู้ประกอบการธุรกิจ SME หลายรายมักเป็นกังวลว่า ความลับทางการค้าหรือข้อมูลภาษีจะรั่วไหล หากยื่นขอสินเชื่อธุรกิจ SME กับธนาคาร จึงให้ข้อมูลกับธนาคารไม่ครบถ้วนหรือผิดเพี้ยนไป จนทำให้กลายเป็นการสร้างความไม่น่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ เพราะสุดท้ายธนาคารก็สามารถตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องได้อยู่ดี ความจริงที่สำคัญคือ ธนาคารรักษาความลับของลูกค้าเสมอ
มีความน่าเชื่อถือ
เครดิตหรือความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยต้น ๆ ที่ธนาคารจะใช้เพื่อประเมินการขอสินเชื่อธุรกิจ SME เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรที่จะละเลยการชำระหนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิตส่วนบุคคลหรือสินเชื่อธุรกิจต่าง ๆ ทั้งของตัวเองหรือหุ้นส่วน เพราะถ้าหากเป็นคนที่มีระเบียบวินัยทางการเงินที่ดี การขอสินเชื่อธุรกิจ SME ก็จะง่ายขึ้น
หลักประกันสำคัญอย่างยิ่ง แต่ถ้าหากไม่มีจริงๆ ก็ขอสินเชื่อธุรกิจ SME ได้
หลักประกันที่ดีที่สุดคือ สถานที่ประกอบการ เช่น ร้านค้า โรงงาน สำนักงาน รองลงมาก็จะเป็นพวกทรัพย์สิน เช่น บ้าน ที่ดิน ตึกแถว อาคารพาณิชย์ เครื่องจักร หรือสิ่งของที่มีสภาพคล่องสูง สามารถขายทอดตลาดได้สะดวกในกรณีที่มีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้น ถ้าหากมีหลักประกันจำพวกนี้มายื่นด้วย ธนาคารก็จะอนุมัติเงินให้ประมาณ 80 – 95% ของมูลค่าหลักประกัน
ส่วนหลักประกันที่ด้อยกว่าหลักประกันอย่างอื่น เช่น สิทธิในการเช่า หรือที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือถ้าหากมีเอกสารสิทธิ์แต่ไม่สมบูรณ์ ในส่วนนี้ก็มีหลายธนาคารที่ปล่อยสินเชื่อให้ แต่ควรเข้าไปปรึกษากับทางธนาคารก่อน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในภายหลัง
แต่ถ้าไม่มีหลักประกัน ก็ยังสามารถขอสินเชื่อธุรกิจ SME ได้ แต่ต้องทำความเข้าใจว่า การขอสินเชื่อธุรกิจ SME แบบไม่มีหลักประกันนั้นมีความเสี่ยงสูง คุณสมบัติและเงื่อนไขก็จะสูงกว่าการขอสินเชื่อธุรกิจ SME แบบทั่วไป และอัตราดอกเบี้ยก็จะสูงกว่า ถึงแม้การสมัครจะรวดเร็วกว่าก็ตาม
ดังนั้น สิ่งที่ดีที่สุดคือเสนอหลักประกันประกอบการขอสินเชื่อธุรกิจ SME แต่ถ้าหลักประกันไม่เพียงพอ ก็อาจติดต่อหน่วยงานภาครัฐอย่างบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เพื่อขอใช้บริการค้ำประกันวงเงินสินเชื่อธุรกิจ SME ได้
