สวัสดีท่านผู้อ่านนะคะ ในช่วงเทศกาลที่ผ่านไป แน่นอนว่าต้องมีการใช้เงินในหลายๆเรื่อง ส่วนใหญ่ก็จะหมดไปกับการเฉลิมฉลองและปาร์ตี้สุดมันส์ บางคนหมดไปกับการทำบุญและซื้อของขวัญฝากญาติผู้ใหญ่ พอจะมาเปิดดูกระเป๋าตังค์อีกที เงินก็หมดเกลี้ยงแล้ว หลายคนก็หลงๆลืมๆ ว่าหมดไปกับค่าอะไรบ้าง เพราะมีแต่ใช้กับใช้ วันนี้เราก็เลยมีเคล็ดลับดีดี ที่เป็นส่วนหนึ่งของการควบคุมการใช้เงินของเราให้เกิดประโยชน์เลยก็ว่าได้ นั่นคือ การรู้จัก วิธีทำบัญชีรายรับรายจ่าย นั่นเองค่ะ
การทำบัญชีรายรับรายจ่าย หลายคนก็คงทราบกันดีว่าเป็นการจดบันทึกข้อมูลการใช้เงินในเรื่องต่างๆของเรา ในระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง ซึ่งการทำรายรับรายจ่ายนี่ล่ะค่ะ ที่จะเป็นตัวช่วยให้เราเห็นความเคลื่อนไหว เงินในกระเป๋าของเรา ว่าหมดไปกับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง แถมยังรู้ด้วยว่าเรามีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนเท่าไหร่ และมาจากทางใดบ้าง แต่อย่างว่า คนเรามีความขี้เกียจอันทรงพลังมากที่สุดในโลก ถึงแม้เราจะรู้ว่ามันมีประโยชน์แค่ไหน เราก็ไม่อยากทำอยู่ดี อ้างว่าไม่มีเวลาบ้างล่ะ หรือไม่ก็ขี้เกียจจด ขี้เกียจจำและบันทึก
เพราะฉะนั้นแล้ว การที่เราจะสามารถสร้างวินัยในการใช้เงินของเราได้ ส่วนหนึ่งเราก็จำเป็นที่จะต้องสร้างวินัยในตนเองให้เกิดขึ้นเสียก่อน กำจัดมันออกไปซะนิสัยขี้เกียจ เราต้องคิดว่า การทำบัญชี อย่างน้อยก็จะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น แม้จะไม่ใช่การใช้จ่ายเงินในจำนวนที่มากมาย แต่ถ้ามีการจ่ายหลายทาง เราคงไม่สามารถไปจดจำได้หมด เมื่อจำไม่ได้ เราก็จะไม่รู้ตัวเอง ว่าใช้จ่ายกับอะไรไปบ้าง ซึ่งบางทีสิ่งเหล่านั้น อาจจะไม่มีความจำเป็นเลยด้วยซ้ำ ถ้าอยากมีเงินเก็บมากขึ้น อยากมีเงินก้อนที่สามารถตั้งตัวได้ เรามาเริ่มกันดีกว่าค่ะ ต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างคร่าวๆ ของวิธีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย ฉบับเข้าใจง่ายๆ มาดูกันค่ะ
อันดับแรก หาสมุดโน้ตมา 1 เล่ม แบบใดก็ได้ ทำตาราง อย่างง่ายๆแบบแบ่งเป็น 4 ช่อง
ช่องแรก เขียนวัน/เดือน/ปี
ช่องที่สอง เขียน รายการ เช่น จ่ายค่าอาหาร,จ่ายค่าอุปกรณ์การเรียน,จ่ายค่าเดินทาง,ค่าซ่อมรถ,ได้รับเงินโอนเข้า,ได้รับเงินโบนัส เป็นต้น
ช่องที่สาม เขียน รายรับที่ได้มา เช่น รับค่าเช่าจำนวน 2,500 บาท ได้รับเงินเดือน 25,000 บาท ได้รับเงินโบนัส 8,000 บาท เป็นต้น
ช่องที่สี เขียน รายจ่ายที่เราจ่ายออกไป เช่น จ่ายค่าน้ำมันรถ 500 บาท จ่ายค่าช้อปปิ้ง 3,000 บาท จ่ายค่าต่อเติมบ้าน 15,000 บาท จ่ายค่าเทอมลูก 9,000 บาท เป็นต้น
เคล็ดลับ : เราต้องคำนวณด้วยว่า ในแต่ละวัน เราจ่ายค่าอะไรไปเท่าไหร่ เช่น ค่าอาหารควรคิดรวมกันทั้งสามมื้อทั้ง อาหารมื้อหลัก กาแฟ ขนมขบเคี้ยว คำนวณรวมกันเพื่อที่จะได้ลงบันทึกได้ง่ายขึ้น
เมื่อครบสิ้นเดือน เราก็จะเอาผลรวมของรายรับและรายจ่ายมาสรุปยอดรวมกัน เราก็จะได้เห็นว่าใน 1 เดือนนั้น เรามีรายรับทั้งหมดเท่าไหร่ และรายจ่ายทั้งหมดที่เราจ่ายไปเท่าไหร่ หักลบกันแล้วมียอดเงินคงเหลือหรือไม่ ? หรือติดลบ เป็นการวิเคราะห์ตัวเองและสถานการณ์การเงินอย่างง่ายๆ ที่เราสามารถทำได้ไม่ยาก ขอเพียงอย่างเดียวก็คือ การมีวินัยบันทึกอย่างสม่ำเสมอและบันทึกตามความเป็นจริงกันด้วยนะคะ
ประโยชน์ที่ได้จากการเรียนรู้วิธีทำบัญชีรายรายจ่าย
- สามารถนำไปเป็นแนวทางในการวิเคราะห์สถานการณ์การเงินของตัวเองและครอบครัวได้
- ฝึกความมีวินัยในการจดบันทึกและจดจำรายได้และค่าใช้จ่ายต่างๆ
- สามารถควบคุมการใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี
- สามารถกำหนดเงินออมในแต่ละเดือนได้*
- มีหลักฐานความเคลื่อนไหวสถานะทางการเงิน*
อธิบายเพิ่มเติมข้อที่ 4 สามารถกำหนดเงินออมในแต่ละเดือนได้ การทำบัญชีรายรับรายจ่ายนั้น นอกจากจะทำให้เรารู้รายละเอียดความเคลื่อนไหวของเงินในกระเป๋าแล้ว เรายังสามารถทำรายการเก็บออมได้ด้วยนะ วิธีการที่ดีที่สุดก็คือ รายรับก้อนแรก(เงินเดือน)มีเท่าไหร่ ให้หักไว้ออมสัก 10-20 % ของรายรับ ทั้งนี้ก็เพื่อที่เราจะได้มีเงินเก็บ ป้องกันการนำเงินไปใช้จนลืมแบ่งเก็บไว้
อธิบายเพิ่มเติมข้อที่ 5 มีหลักฐานความเคลื่อนไหวสถานะทางการเงิน ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้มีตำแหน่งหน้าที่การงานทางสังคมใหญ่โต ถึงขนาดที่ว่าต้องตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน แต่การที่เราทำบัญชีรายรับรายจ่ายเอาไว้ อย่างน้อยก็จะเป็นตัวหลักฐานให้เราได้ในระดับหนึ่ง ในกรณีที่เราอาจจะถูกกล่าวหาว่าขโมยเงิน หรือกรณีที่เป็นหนี้แล้วเจ้าหนี้จำไม่ได้ว่าเราจ่ายหนี้ไปแล้ว เราสามารถมีหลักฐานยืนยันได้ อาจจะเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ที่ก็ควรใส่ใจค่ะ การมีอะไรที่เป็นลายลักษณ์อักษรจะดูอุ่นใจกว่าเยอะ
อ่านเพิ่มเติม : แนะนำ+รีวิว พอเพียง แอพบันทึกรายรับ – รายจ่าย
สำหรับใครที่สนใจวิธีการทำบัญชีรายรับรายจ่าย สามารถนำเอาวีธีการข้างต้นไปปรับใช้ได้นะคะ รับรองว่าถ้าลองทำได้ 1-2 เดือน จะเห็นผลแน่นอน และขอเสริมอีกนิดนึงค่ะว่า ควรที่จะมีการวางแผนการเงินควบคู่ไปด้วยทุกครั้ง ง่ายๆเลยก็อยากเช่น การวางแผนที่จะเก็บออมเงินรายเดือน การเฉลี่ยแบ่งค่าใช้จ่ายให้เป็นสัดส่วน และการลดความฟุ่มเฟือยของตนเองลง แล้วหมั่นบันทึกผลอยู่เสมอ การที่เรามีการจัดการเงินให้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น จะช่วยเราตัดสินใจและมีวินัยในการใช้เงินที่ดี ฝากกันไว้ด้วยนะคะ
