การดูแลพ่อแม่ในวัยบั้นปลายของชีวิตนับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหนักสำหรับลูกหลายๆ คนมิใช่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นลูกคนเดียวยิ่งรับภาระมากขึ้นกว่าเก่า แต่หากว่ามีความพยายามอย่างแท้จริง ในไม่ช้าลูกก็จะสามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตที่ต้องแบ่งส่วนหนึ่งเพื่อดูแลพ่อแม่อย่างแน่นอน
คำถามจากเจ้าของกระทู้ “ลูกคนเดียวดูแลพ่อกับแม่กันยังไงบ้างคะ”
สำหรับกระทู้ที่เป็นกรณีศึกษาและเป็นประโยชน์สำหรับชีวิตอีกกระทู้หนึ่งคือกระทู้ “ลูกคนเดียวดูแลพ่อกับแม่กันยังไงบ้างคะ” (http://pantip.com/topic/35037016) จากเจ้าของกระทู้ที่มีชื่อว่าสมาชิกหมายเลข 1143296 โดยปัญหาของเจ้าของกระทู้นี่ที่นับเป็นปัญหาหนักและไม่สามารถขบคิดได้เองคือ เจ้าของกระทู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว โดยในปัจจุบันมีอายุ 27 ปี ส่วนพ่อแม่มีอายุห่างกับเธอถึง 40 ปี หากคิดแล้วจะพบว่าพ่อและแม่ของเธอมีอายุ 67 ปี สาเหตุที่อายุห่างกันก็เนื่องมาจากพ่อแม่ของเจ้าของกระทู้มีลูกเมื่ออายุมากพอสมควรแล้ว โดยเจ้าของกระทู้มีฐานะทางบ้านดีพอสมควร ไม่มีหนี้หรือปัญหาการเงินใด ๆ
ทั้งนี้เจ้าของกระทู้จึงสามารถนำรายได้จากการทำงานไว้สำหรับใช้จ่ายเองได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องแบ่งเงินจำนวนนี้เพื่อให้พ่อและแม่ ซึ่งปัญหาที่เจ้าของกระทู้ขบคิดอยู่ก็เนื่องมาจากว่าเจ้าของกระทู้คิดว่าการทำงานของตนเองยังไม่ลงตัวเท่าใดนัก โดยเธอมีความฝันหลายต่อหลายอย่างที่ยังไม่ได้ทำ ยกตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนงาน การเรียนต่อต่างประเทศ การทดลองใช้ชีวิตอยู่ในที่ต่าง ๆ ตามที่ใจปรารถนา ต้องการแบกเป้เที่ยวในต่างประเทศ
แต่ทว่าด้วยวัยของทั้งสองคนที่เริ่มชราภาพมากแล้ว ทำให้เจ้าของกระทู้ซึ่งทำงานอยู่คนละจังหวัดกับที่พ่อและแม่อาศัยอยู่ต้องดูแลและรับภาระหลาย ๆ ด้าน ในฐานะที่ตนเองเป็นลูกเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นพาพ่อและแม่ไปพบหมอ หรือแม้แต่การพาพ่อและแม่ไปต่างจังหวัด แม้เจ้าของกระทู้จะรู้สึกเหนื่อย แต่ก็เข้าใจว่ากว่าที่ตนเองจะเติบโตมาได้ในทุกวันนี้พ่อแม่เองก็ต้องเหนื่อยยากลำบากมากเช่นกัน
ประเด็นที่เป็นปัญหามากที่สุด คือ เจ้าของกระทู้ไม่ทราบว่าตนเองควรจะดำเนินชีวิตไปอย่างไร จะยอมละทิ้งความฝันที่ปรารถนา ยอมกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเพื่อความสะดวกในการดูแลพ่อแม่ รวมไปถึงเลือกที่จะไม่มีครอบครัวเพื่อที่จะได้มีเวลาในการดูแลพ่อแม่ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เจ้าของกระทู้ได้บอกว่าที่ผ่านมาความรักของตนเองไม่ราบรื่นเท่าใดนักก็เนื่องมาจากตนเองไม่มีเวลาให้แฟน เมื่อนอกเวลางานก็ต้องนำเวลาที่เหลืออยู่เพื่อเอาใจใส่ดูแลพ่อแม่ให้เต็มที่
สิ่งที่เจ้าของกระทู้ถามเพื่อน ๆ ในเว็บบอร์ด คือ ลูกคนเดียวที่ต้องดูแลพ่อแม่เป็นอย่างไรบ้าง การงานและความรักราบรื่นดีหรือไม่ วิธีดูแลพ่อแม่ ถ้าเป็นลูกคนเดียว เป็นยังไง ?
คำตอบจากเพื่อนในเว็บไซต์ Pantip.com
- ความคิดเห็นที่ 7
เสนอแนะเจ้าของกระทู้ว่าควรว่าจ้างคนสำหรับมาดูแล โดยในปัจจุบันมีหลาย ๆ องค์กรที่รับหน้าที่ดูแลในด้านนี้โดยเฉพาะ บางองค์กรเจ้าหน้าที่ให้การบริการดี แต่ทั้งนี้เจ้าของกระทู้ควรตรวจสอบด้วยว่าองค์กรที่จ้างมามีความสามารถในการดูแลพ่อและแม่ของตนเองดีเพียงพอหรือไม่ แต่ตัวเจ้าของความคิดเห็นนี้เลือกลาออกจากงานเพื่อมาดูแลพ่อที่ป่วยหนัก ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการถูกเอารัดเอาเปรียบจากเจ้านายมากเกินไป บวกกับเจ้าของความคิดเห็นนี้พบว่าแม่และน้องของตนเองรับภาระในการดูแลพ่อมากพอสมควรแล้ว ซึ่งเจ้าของความคิดเห็นนี้ได้ดูแลพ่อของตนเองจนวินาทีสุดท้ายและพบว่าตนเองตัดสินใจถูกที่กลับมาเพื่อดูแลท่าน
- ความคิดเห็นที่ 13
ได้เสนอแนะแนวคิดให้เจ้าของกระทู้ได้ตะหนักว่า บางครั้งมนุษย์ก็ต้องละทิ้งความฝันที่มีเพื่ออยู่กับความเป็นจริง ซึ่งการจะก้าวหน้าในชีวิตนั้นมีทางเลือกเดินหลาย ๆ ทาง ไม่จำเป็นต้องทำงานประจำก็สามารถก้าวหน้าได้เช่นกัน แต่ลูกต้องไม่ปล่อยให้พ่อและแม่เหงา โดยเจ้าของความคิดเห็นนี้กล่าวว่าตนเองลาออกจากงานเพื่อมาดูแลพ่อและแม่พร้อม ๆ กับการเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว โดยที่ตนเองสามารถประสบความสำเร็จในงานได้ รวมทั้งได้คนรักที่ดีก็เนื่องมาจากพรของพ่อและแม่นั่นเอง ปัจจุบันนี้เจ้าของความคิดเห็นนี้ก็ยังคงดูแลแม่ของตนเองอยู่ แม้จะเหนื่อยแต่ก็มีความสุข ทั้งนี้เจ้าของความคิดเห็นนี้ได้แนะนำว่าไม่ควรเปรียบเทียบชีวิตตนเองกับเพื่อนวัยเดียวกัน เนื่องจากความจำเป็นในชีวิตและพื้นฐานครอบครัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เจ้าของความคิดเห็นนี้ตระหนักคือ การทำสิ่งที่ทำให้แม่ของตนเองยิ้มได้ เท่านี้ก็มีความสุขมากพอแล้ว
หลักความคิดในการดูแลพ่อแม่หากเป็นลูกคนเดียว
1.การกตัญญูจะพาให้ตนเองเจริญก้าวหน้า
หลาย ๆ คน อาจมองว่าการที่ตนเองต้องลาออกจากงานประจำจะทำให้ไม่ก้าวหน้าในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเปรียบเทียบกับคนอื่น ๆ แต่หากว่าไม่นำตนเองไปเปรียบเทียบกับใครและพยายามแสวงหาความก้าวหน้าเท่าที่ตนเองจะทำได้ ในไม่ช้าพรจากพ่อแม่จะทำให้ลูกประสบความสำเร็จ
2.พ่อแม่มีเวลาน้อยลงทุกวัน ควรใช้เวลากับท่านให้คุ้มค่ามากที่สุด
เพราะผู้สูงวัยมีเวลาในชีวิตลดน้อยลงไปทุกที หากไม่ต้องการเสียใจในภายหลัง ลูกควรดูแลพ่อแม่ให้ดีที่สุดเพื่อมิให้พ่อแม่รู้สึกเหงาหรือซึมเศร้า
การดูแลพ่อแม่ แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากและเหนื่อยหนักเพียงใดก็ตาม แต่หากลูกตระหนักถึงความกตัญญูรู้คุณและคิดถึงสิ่งที่พ่อแม่ของตนเองมอบสิ่งดี ๆ ในชีวิตให้กับลูกตลอดมา เชื่อได้ว่าจะมีกำลังใจในการตอบแทนคุณพ่อแม่มากขึ้นอย่างแน่นอน