การออมเงินเป็นสิ่งหนึ่งที่ทุกคนเคยได้ยินมาจนชินหู โดยเฉพาะในช่วยชีวิตที่ผ่านมาอย่างในวัยเด็ก ซึ่งพ่อแม่มักจะปลูกฝังลูก ๆ อยู่เสมอมาว่าการออมเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีสิ่งเร้าให้เรามีการออมมากขึ้นโดยการมีกระปุกออมสินแบบเก๋ ๆ น่ารัก ๆ ที่มาชวนให้คุณได้ออมเงินกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนมาถึงปัจจุบัน คุณโตขึ้นการออมมักไม่ค่อยได้ผ่านหูเข้าเพราะเราก็ไม่ใช่เหมือนเด็ก ๆ แล้ว โดยส่วนใหญ่จะมีเรื่องค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามมามากมาย ทำให้เราห่างเหินการออมไป
แต่ในวันนี้เรามีบทความดีๆจะมานำเสนอสำหรับบุคคลที่ต้องการมีเงินด้วยการออมนั้นเอง ซึ่งจะช่วยไขปัญหาข้องใจว่าการ เก็บเงินเพื่ออนาคต นั้นเป็นสิ่งจำเป็นต่อเราจริงหรือ ? และการออมนั้นไม่ใช่เด็กเท่านั้นที่จะออมเงินได้ คุณเคยอาจได้ยินข่าวตามทีวีมากมายที่ออกถึงเรื่องการออมเงินจนมีเงินไปขอผู้หญิงแต่งงานบ้างก็มี หรือซื้อบ้านรถ ทรัพย์สินอื่น ๆ ที่เราต้องการ แบบนี้แล้วเราลองมาใส่ใจกับการออมกันเถอะ
วัยทำงาน/มนุษย์เงินเดือน
เมื่อเราได้ผ่านในช่วงชีวิตของวัยรุ่นจนทำให้ได้ก้าวสู้ชีวิตของการทำงาน และยิ่งไปกว่านั้นคนส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับอาชีพที่มั่งคง ไม่ต้องรวยมากและไม่ถือว่าอดยาก งานสบาย นั้นก็คือการเป็นมนุษย์เงินเดือน ซึ่งข้อดีของมนุษย์เงินเดือนก็มีข้อดีหลายอย่างเช่น ไม่ต้องมีความเสี่ยงในการทำธุรกิจ ทำงานตามหน้าที่แค่นี้ก็รอเงินเดือนออกก็เป็นพอ พอกินพอใช้ และที่สำคัญใครที่อยากจะมีเงินเก็บเป็นก้อนๆเพื่อใช้ในสิ่งจำเป็น ลองทำเทคนิคแบบนี้ดูสิครับ
- เทคนิคการออมเงิน
การออมเงินนั้นเราจำเป็นต้องดูด้วยว่ารายรับเรามีเท่าไหร่และรายจ่ายมีเท่าไหร่ การออมจะแบ่งเป็น 2 อย่างด้วยกันคือ เก็บก่อนจ่าย และจ่ายก่อนเก็บ
การเก็บก่อนจ่าย เราจะออมเงินเมื่อมีรายรับเข้ามาแล้วเราก็เก็บเอาไว้ส่วนหนึ่งและที่เหลือก็ใช้จ่าย
การจ่ายก่อนเก็บ คือเราจะใช้จ่ายก่อน และเมื่อเหลือจากการจ่ายเราจะเก็บ
ซึ่ง 2 วิธีนี้ส่วนใหญ่จะแนะนำการเก็บก่อนจ่ายเพราะว่าส่วนใหญ่เราจะใช้จ่ายเกินตัวจนไม่มีเงินเหลือเก็บ หรือท่านอาจจะใช้วิธีการออมเงินแบบสไตล์เด็ก ๆ ที่น่าเลียนแบบก็ได้ เช่น หยอกกระปุ่มออมสินวันละ 100 หรือ 200 บาท ตามรายรับที่เราได้ อย่างเช่นมรรายได้วันละ 500-600 บาท แต่เราก็จะไม่ควรออมเงินแต่ละครั้งมากเกินตัว จงออมเป็นไม่เดือดร้อนเพราะว่าหากเราไม่พอใช้จะทำให้เรา อาจจะเก็บออมสินออกมาใช้ได้
ออมเงินเพื่ออะไร ?
- เก็บเงินสร้างบ้านสักหลังบ้านให้พ่อแม่
สำหรับการออมเงินซื้อบ้านให้พ่อแม่ สิ่งนี้บอกได้เลยว่าการออมเงินอาจจะถือว่าช้าไปหน่อย เพราะว่าบ้านแต่ละหลังค่าใช้จ่ายสูงมาก เราน่าจะลองคิดปรับเปลี่ยนดูว่าเราจะทำอย่างไรให้ได้มากกว่าการออม นั้นก็คือในช่วงนี้เราอาจจะหาเป้าหมายก่อนว่าเราจะใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ในการสร้าง โดยเราจะเปลี่ยนจากการออมเงินมาเป็นการเก็บเงินโดยหักจากเงินเดือนก็ได้โดยอาจจะหักทันทีที่ได้รับเงินเดือนและต้องคำนวณดูว่ากี่เดือนถึงจะได้ เพราะหากเรามาออมครั้งละ 100 บาท ทุก ๆ วันแบบนั้นการสร้างบ้านก็เป็นสิ่งที่ขยายเวลาเข้าไปอีก
- สร้างบ้านตัวเอง
สำหรับการออมเงินเพื่อสร้างบ้านของตนเองนั้น ซึ่งอาจจะเป็นสิ่งที่บอกได้เลยว่าการออมเงินนั้นเป็นสิ่งที่น่าสนุกมาก เพราะเมื่อเรามีเงินออมจนเราสร้างบ้านได้จะทำให้มีความภาคภูมิใจอย่างมากในชีวิต เราอาจจะเริ่มจากการออมเป็นรายวันหรือรายเดือนก็ได้ โดยการออมโดยจะต้องเก็บก่อนจ่ายถึงจะมั่งคงและแน่นอน และเราควรออมทุกวันจนเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต แบบว่าหากวันไหนไม่ออมนอนไม่หลับเลยทีเดียว แบบนี้สักวันเราก็จะได้มีเงินเก็บสร้างบ้านวันใดสักวันหนึ่ง และในขณะที่เราออมเงินก็อาศัยบ้านพ่อแม่ไปก่อนเพราะหากเราไปเช่าบ้านอยู่จะทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
- ออมเงินซื้อรถ
รถเราต้องทราบก่อนว่าเราจะซื้อรถยนต์หรือรถมอเตอร์ไซด์ เพราะเราจะได้รู้หลักการออมได้ถูกต้อง หากเป็นมอเตอร์ไซด์แนะนำออมเงินรายวันเพราะมอเตอร์ไซด์ราคาไม่สูงเท่ารถยนต์และอดใจอดสักหน่อยไม่ต้องรีบร้อน ค่อยไปออกสดทีเดียวดีดว่าไปดาวน์ให้เสียดอกโดยเปล่า หรือหากท่านต้องการออมเงินเพื่อซื้อรถยนต์แบบนี้ก็เหมือนท่านสร้างบ้านแหละครับต้องออมเงินจากเงินเดือนแล้วละครับ อาจจะดาวน์มาก่อนก็ได้โดยเลือกที่ดาวน์แพงส่งถูก เพราะเราจะได้ส่งน้อย ๆ ไม่เดือดร้อนและที่สำคัญควรมีเงินออมสำรองเอาไว้สำหรับผ่อนรถด้วยนะครับอย่างน้อยสักสองเดือนจะดีมาก เอาไว้ตอนเงินขาดมือ
- การออมเงินเพื่อแต่งงาน
หากเราต้องการจะไปขอสาวสักคนหรืออาจจะเป็นแฟนกนแล้วและอยากจะแต่งงานโดยการช่วยกันเก็บเงินออมก็ได้ โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆออมวันละ 50-100 ก็ได้ หรืออาจจะมีมากออมมากก็ได้เช่นกัน ยิ่งช่วยกันออมแล้วด้วยก็จะทำให้เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว และจะให้ดีหากเราคิดได้ตอนวัยเรียนว่าอนาคตเราจะต้องมีเงินไปขอสาวแต่งงานก็ควรออมเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ ทีละน้อยแต่ใช้ระยะเวลานาน ๆ ซึ่งแน่นอนเรามีเงินพอไปขอสาวได้อยู่แล้ว
- วัยเกษียณ
ในช่วยวัยทำงานเราควรคำนึกด้วยนะครับว่าวัยเกษียณเราจะกินอะไรฉะนั้นควรออมเงินแต่เนิ่น ๆ เอาไว้ แต่หากเรามาอยู่ในวัยเกษียณแล้วเราจะมีการออมอย่างไรในตอนนี้ อาจจะออมเงินโดยการฝากธนาคารเพื่อหวังดอกเบี้ยก็ได้
- ลงทุน
การออมเพื่อการลงทุน เป็นการสร้างผลกำไรอย่างหนึ่งในอนาคตแต่เราต้องคำนึกว่าเงินออมนั้นต้องมีความเสี่ยงในการลงทุนเราต้องยอมรับเงินที่เก็บมากทั้งหมดได้ แต่ส่วนใหญ่หากเราออมเงินเพื่อลงทุนนั้นจะเป็นการดีกว่าการไปกู้เงินมาเพื่อการลงทุน
การออมเงินของวัยรุ่น
การออมเงินในช่วงวัยนี้หลายคนคงมองไม่เห็นถึงความสำคัญ แต่บอกได้เลยเป็นสิ่งที่เราควรฝึกและต้องออมเพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นการออมตั้งแต่เนิ่น ๆ อย่างหนึ่ง โดยคุณอาจจะเริ่มจากสิ่งที่เล็ก ๆ ก่อนก็ได้ หากกระปุกเก่า ๆ สักใบหรือจะเป็นกระป๋องแป้งก็ได้ เพราะจะได้ประหยัดแล้วออมเงินวันละ 5 บาท 10 บาท ก็ได้แต่ควรออมเป็นประจำไม่ขาดช่วง
- ออมเพื่อเรียนต่อ
หลายคนบอกว่าการออมเงินเพื่อเรียนไม่จำเป็นเท่าไหร่เพราะตอนนี้ทางรัฐบาลมีการให้กู้ยืมเรียนแล้ว แต่ในทางเป็นจริงเราเป็นหนี้แน่นอน ซึ่งหากเรามีความฝันอยากเรียนต่อสูง ๆ เราต้องหันมาออมเงินแล้วละ หรือจะออมจากค่าขนมของพ่อแม่ก็ได้ และควรหางานทำตั้งแต่ตอนนี้เพราะหากเราเรียนแล้วจะไม่มีเวลาหาเงินมาช่วยเติมเต็มกับค่าใช้จ่าย
- การออมเงินเพื่อเรียนต่างประเทศ
เมื่อมาถึงในหัวข้อนี้แล้วหลายคนที่เป็นคนมีฐานะยากจนหน่อย การออมเงินอาจจะมีส่วนที่เป็นปัจจัยกับข้อนี้เพราะว่าค่าใช้จ่ายในการเรียนมหาวิทยาลัยมีค่าใช้จ่ายแพง และค่าเดินทาง ค่ากิน อื่น ๆ อีกมาก แนะนำหาทุนดีกว่า หรือหากมุ่งมั่นจริง ๆ แนะนำให้ออมเงินตั้งแต่ตอนนี้เดียวนี้และต้องออมอย่างจริงจัง และเมื่อออมแล้วควรนำเงินไปฝากในธนาคารไว้เพื่อดอกเบี้ยจะได้งอกเงย
- ค่าใช้จ่ายแต่ละประเทศ
สหรัฐอเมริกา ป.ตรี 4-7 แสนบาท
นิวซีแลนด์ ป.ตรี 5 แสน 5 หมื่น บาท
สิงคโปร์ ป.ตรี 6 แสนบาท
มาเลเซีย 2 ป. ตรี 2 แสนบาท
ทั้งหมดนี้ต่อปีการศึกษานะครับ และยังไม่รวมค่าห้องค่ากิน การเป็นอยู่อื่น ๆ อีกมากมาย
- แผนการใช้เงินในต่างประเทศ
สิ่งต่างในต่างประเทศที่ล่อใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรู ๆ ห้างดัง ๆ สินค้าแบรนด์เนม แบบนั้นเราควรตัดออกไปทั้งสิ้น และเลือกการหางานทำและใช้จ่ายอย่างจำเป็นมากที่สุด โดยเฉพาะการกินอย่ากินอาหารที่มีราคาแพงหากไม่จำเป็น
- แรงจูงใจในการออมเงิน
เราจะมีแรงจูงใจได้เราต้องมีฝันเสียก่อน ฉะนั้นเราต้องหาฝันของเราให้เจอ ต่อไปการออมเงินก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อไป
- ข้อคิด
ไม่ออมเงินตอนนี้แล้วเราจะออมเงินตอนไหน
