หากวันนี้คุณยังคงไม่แน่ใจว่าจะออมไปเพื่ออะไร เพราะคุณยังคิดว่าอายุยังน้อย มีเวลาออมอีกนาน อยากจะให้ความสุขให้กับตัวเองก่อน ผู้เขียนอยากให้คุณหยุดความคิดนี้ก่อน เพราะคุณกำลังมีความเสี่ยง หากคุณมองให้ดี การออมเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก เพราะการออมนอกจากจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับคุณผ่านการออมด้วยหุ้นหรือกองทุนรวมแล้ว การออมยังช่วยคุณในกรณีที่ฉุกเฉินต้องใช้เงิน คุณก็จะสามารถนำเงินที่คุณออมไว้มาใช้ก่อนล่วงหน้าได้ โดยไม่ต้องเดือนร้อนค่าใช้จ่ายประจำวัน
แต่ทั้งนี้หากสำรวจจากการออมในครัวเรือน จะพบว่าผู้คนนั้นให้ความสำคัญกับการออมที่น้อยลง โดยมีทัศนะคติที่ว่า มีเหลือเท่าไหร่จึงค่อยออม ซึ่งเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะการออมที่ดีควรจะทำการออมแบบเท่าๆกันในทุกเดือน เช่น มีเงินเดือน 50,000 บาท ก็ควรออม 10% จากเงินเดือน 5,000 บาททุกเดือน การทำแบบนี้ในทุกเดือนจะช่วยให้การออมมีประสิทธิผลที่มากขึ้น แต่ทั้งนี้ทัศนะคติที่ดีต่อการออมก็ต้องมีด้วยเช่นกัน ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นตอนต่อไปนี้
- ออมได้ตั้งแต่วันนี้
เปลี่ยนความคิดที่ว่าออมเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะวันหนึ่งคุณอาจจำเป็นที่จะต้องใช้เงินฉุกเฉิน โดยที่คุณยังไม่ได้ออมเลยก็ได้ การออมสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องรออายุ 40 แล้วค่อยออม และในปัจจุบันการออมสามารถเพิ่มมูลค่าของเงินที่ออมได้มากขึ้นกว่าการฝากเงินแบบประจำที่ดอกเบี้ยน้อยนิด ด้วยการลงทุนในกองทุนรวม หรือนำเงินไปลงทุนในหุ้น เพื่อให้เงินก้อนที่ออมไว้สามารถออกผลที่มากขึ้น ไม่ได้หมายความว่าการออมจะต้องนำเงินไปลงทุนในกองทุนรวมหรือหุ้นเพียงเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงการออมเพื่อสร้างความสุขให้กับตนเอง เช่น การนำเงินออมไปท่องเที่ยวประจำปี หรือนำเงินออมไปซื้อสิ่งของที่อยากจะได้ ก็ไม่ผิดกติกาใดๆ เพราะเงินออมนอกจากจะไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน แต่การออมยังเป็นเหมือนการให้รางวัลกับตัวเองจากการทำงานที่เหน็ดเหนื่อยมาตลอดปี
ดังนั้น การออมสามารถเริ่มได้เลยตั้งแต่วันนี้ ไม่ต้องรอจนถึงอายุ 40 แล้วค่อยออม เริ่มวันนี้มีเงินเก็บตั้งแต่วันนี้ และคุณจะเห็นถึงความแตกต่างที่เกิดขึ้นหลังจากที่คุณได้เริ่มต้นออม
- เพิ่มเป้าหมายให้กับการออม
การออม คือ การเก็บเงินออม แต่การออมโดยตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนจะทำให้การออมมีทิศทางที่ชัดเจนและช่วยเพิ่มกำลังใจให้กับตนเองจากการออมด้วย เช่น คุณต้องการออมในแต่ละเดือนเพื่อในอีก 5 ปีข้างหน้าคุณจะนำเงินไปซื้อบ้าน การมีเป้าหมายในการออมจะทำให้คุณสามารถวางแผนบริหารจัดการด้านการเงินได้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะคุณมีเป้าหมาย ซึ่งทั้งนี้เป้าหมายไม่จำเป็นจะต้องเป็นเป้าหมายที่วางไว้ในระยะยาว แต่เป้าหมายก็อาจจะเป็นเป้าหมายในระยะสั้นได้เช่นเดียวกัน กรณีที่คุณอยากจะไปท่องเที่ยวในช่วงปลายปี คุณก็อาจจะออมตั้งแต่ต้นปีเดือนละ 2,000 บาท เมื่อถึงสิ้นปีคุณก็จะมีเงิน 24,000 บาทเพื่อไปท่องเที่ยวในช่วงปลายปีได้ แต่การออมสำหรับระยะสั้นนั้น ควรจะเป็นการออมในลักษณะที่แยกออกจากการออมแบบรายเดือน โดยแบ่งออกมาเป็นอีกกองสำหรับการท่องเที่ยว เป็นต้น
- หยุดฟุ่มเฟือย
แนวคิดที่ว่าการจับจ่ายซื้อของในสิ่งที่เราอยากได้อาจจะไม่ผิด แต่แนวคิดของการซื้อสิ่งของก็ควรจะต้องอยู่บนพื้นฐานของรายได้ที่ตนเองมีด้วย ไม่ใช่เหลือเท่าไหร่ก็จะต้องใช่ให้หมด หลายคนมีความคิดที่ว่า “หาความสุขให้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมีโอกาสได้ใช้เงินหรือเปล่า” ความคิดนี้เป็นความคิดที่อันตรายมาก ถ้าคุณไม่ได้เป็นคนรวยมีเงินถุงเงินถัง ให้หยุดความคิดนี้ทันที เพราะไม่แน่ว่าพรุ่งนี้คุณอาจจะต้องป่วยหนัก แต่คุณไม่มีเงินเก็บเลยคุณจะทำอย่างไร ดังนั้นการฟุ่มเฟือยจนไม่เหลือเงินเก็บเลยจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง หันมาออมตั้งแต่วันนี้
แนวทางทั้ง 3 ที่กล่าวมาข้างต้นอาจจะเป็นแนวทางที่่หลายคนพยายามที่จะทำหรือกำลังทำอยู่ แต่สิ่งหนึ่งที่จะต้องตระหนักรู้ไว้เสมอว่าการออมไม่สามารถหวังผลเพียงแค่ 1 เดือน หรือ 1 ปี แต่การออมเป็นการออมแบบระยะยาวตลอดอายุการทำงานของคุณ และการออมก็ไม่ได้หมายถึงแค่เก็บอย่างเดียว แต่ก็ต้องนำไปสร้างผลให้เกิดดอกผลด้วย แต่หลายคนก็ไม่เลือกที่จะลงทุนเพราะไม่มีความเข้าใจหรือความชำนาญในการลงทุน จึงเลือกที่จะออมเก็บอย่างเดียว ก็ไม่ถือว่าผิดกติกา แต่การออมแบบปรกติ กับการออมแบบต่อยอด ผลที่ออกมาก็จะไม่เท่ากันอย่างแน่นอน ซึ่งตรงจุดนี้จะต้องยอมรับด้วยว่าการออมแบบต่อยอดจะออกดอกผลที่มากกว่าหลายเท่าตัว แต่ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่จะต้องเรียนรู้ คือการปรับเปลี่ยนทัศนะคติของตนเองในเรื่องของการออมอย่างมีวินัยและสมํ่าเสมอด้วยเช่นกัน
สนใจสมัครบัตรเครดิต KTC สมัครโดยตรงกับธนาคาร