ไม่น่าเชื่อเลยว่า แม้ในปัจจุบัน จะมีคนเรียนสูงขึ้นแค่ไหน แต่ก็ต้องยอมรับว่าการตกงานกลับมีจำนวนมากจนน่าตกใจ และกระแสเลย์ออฟของมนุษย์เงินเดือน ที่เรียกว่ากำลังระบาดไปทั่วโลกก็ยังไม่จางหายไปเสียที หากคุณเองเป็นหนึ่งในความโชคร้ายที่ถูกกระเด็นออกจากงานโดยไม่ได้มีความผิดอะไร ทั้งๆ ที่ก็ทำงานดี มาตรงเวลา ขยัน แต่กลับได้สิ่งตอบแทนเห็นแล้วเกิดอาการช็อคไปชั่วขณะ เพราะบางบริษัทนั้นจัดการคัดเลือกพนักงานออกโดยไม่ทันให้ตั้งตัว แถมเงินก็ล่วงหน้าก็ไม่ได้ ครั้นจะไปฟ้องร้อง ก็จะเสียเวลาหรือมองหน้ากันไม่ติดเปล่าๆ เผลอ อาจจะไม่ได้เงินเดือนของเดือนสุดท้ายก็ได้ เชื่อเถอะว่า ทางบริษัทที่ต้องการคัดพนักงานออก มักจะมีการจัดการ หรือคำพูดที่จะทำให้เรายอมหรือจนตรอกเสมอ ซึ่งหากเจอพนักงานที่ยอมคน ก็คงจะจบลงด้วยดี แค่รับเงินงวดสุดท้ายแล้วก็โบกมือลากันแบบไม่ต้องมาเผาผีอีก แต่หากเจอพนักงานระดับสูง หรือที่มีประสบการณ์มาก รับรองว่าเรื่องคงไม่จบง่ายๆ แต่หากเกิดกับคุณล่ะ จะจัดการอย่างไรดีและจะเตรียมรับสภาพกับสถานะคนว่างงานได้อย่างไร
ตั้งสติก่อนสตาร์ท
เชื่อว่าคนที่ถูกฟ้าผ่าลงมากลางศีรษะนั้น อาจจะถึงขั้นพอการหรือไม่ก็ช็อคตายเลยทีเดียว เพราะจู่ๆ ก็เกิดโชคดีที่ได้รับเกียรติถูกเชิญออกจากงานแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่เพียงตั้งรับพายุร้ายด้วยจิตใจที่เงียบสงบ หากแต่คุณยังต้องทำการเค้นสติให้กลับมาอย่างเร่งด่วน เพราะหากคุณต้องกลายเป็นหนึ่งในผู้เคราะห์ร้ายที่กำลังตกงานแบบสายฟ้าฟาดเช่นนี้ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยที่ตกงานแล้วรับเงินเสร็จแล้วเปิดตูดกลับบ้าน หากแต่เพราะหลังจากตกงานแล้ว คุณเองยังต้องสะสางอีกหลายต่อหลายเรื่อง และหลายธุรกรรมทางการเงินให้ต้องลงมือจัดการอย่างเร่งด่วน เมื่อรู้เช่นนี้แล้วอย่ามัวนั่งจิตตกและจมอยู่กับความเศร้า แล้วมานั่งฟูมฟายกับความโชคร้ายของตัวเอง จะต้องมีสติโดยการรวบรวมทุกย่างออกมาคิดแล้วเริ่มทำต่อ ว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร เราผิดพลาดตรงไหน แต่เมื่อหาต้นและเหตุไม่เจอ ก็ควรจะหันมาจัดการกับเรื่องต่างๆ
จัดการเกี่ยวกับเรื่องประกันสังคม
หลังจากที่ตกงาน สิ่งแรกควรจะคิดถึงก็คือ ประกันสังคม ที่จะต้องทำเรื่องประกันตนเอง ซึ่งเมื่อว่างงานหรือตกงานปุ๊บปั๊บ สิ่งที่คุณต้องดำเนินการก็คือประกันสังคม ซึ่งเป็นเรื่องเงินช่วยเหลือกรณีว่างงาน และ ทำการเลือกว่าจะรักษาสิทธิความคุ้มครองจากสำนักงานประกันสังคมต่อไปหรือไม่ส่วนลูกจ้างที่มีการจ่ายเงินสมทบ หรือเงินสะสมเข้ากองทุนประกันสังคม โดยไม่น้อยกว่า 6 เดือน และสะสมมาภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนที่จะว่างงาน ซึ่งจะมีสิทธิได้รับความช่วยเหลือ สำหรับผู้ถูกเลิกจ้าง หรือตกงาน โดยจะได้รับประโยชน์ทดแทนในอัตรา 50 เปอร์เซ็นต์ ของค่าจ้าง ส่วนผู้ลาออกจากงาน จะได้รับในอัตรา 30 เปอร์เซ็นต์ ของค่าจ้าง ประมาณสามเดือน จากนั้นต้องต้องไปขึ้นทะเบียนหางานที่สำนักงานจัดหางานของรัฐ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่คุณว่างงาน ซึ่งลูกจ้างที่ออกจากงาน จะยังคงได้รับความคุ้มครองด้วยสิทธิ์ของสำนักงานประกันสังคมต่อไป อีก 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ลาออกจากงาน โดยจะได้รับความคุ้มครองต่อ 4 กรณี ไม่ว่าจะเป็น เจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตร และเสียชีวิต
การจัดการเรื่องสุขภาพการเงิน
หลังตกงานรายรับของคุณจะไม่มี แต่รายจ่ายส่วนใหญ่จะยังคงอยู่ จึงจำเป็นต้องตรวจเช็คข้อมูลทางการเงินว่า มีสินทรัพย์ หนี้สิน เงินลงทุน หรือมีแหล่งรายได้ที่ยังพอเหลือที่จะสามารถรับได้อยู่บ้างหรือไม่ และค่าใช้จ่ายต่างๆ ของตนเองและครอบครัวจะต้องใช้ไปอีกเท่าไหร่ สินทรัพย์และเงินลงทุนที่คุณเก็บควรจัดกลุ่มออกเป็นสิ่งที่มีสภาพคล่อง และไม่มีสภาพคล่อง เพื่อให้สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายที่ยังคงเหลืออยู่ ส่วนค่าใช้จ่ายหรือการผ่อนชำระหนี้จะต้องคอยตรวจสอบว่าในแต่ละเดือนจะมีค่าใช้จ่ายอะไรที่จำเป็นต้องจ่ายบ้าง และค่าใช้จ่ายอะไรที่สามารถลดได้ ซึ่งจะทำให้รู้ด้วยว่า คุณมีสัดส่วนการออม และภาระตัวไหนเยอะ หากวงชีวิตสะดุด ไม่มีรายได้ แต่รายจ่ายยังคงมีอยู่ตลอดทำให้อาจพบปัญหาขาดเงินในสภาพคล่องได้
จัดการเคลียร์เงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
เงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคือ เงินสะสมและผลประโยชน์เงินสะสม ส่วนเงินสมทบและผลประโยชน์ของเงินสมทบ จะได้รับก็ต่อเมื่อคุณปฏิบัติตามเงื่อนไขของกองทุน ในกรณีที่คุณออกจากงานและมีทางเลือกคือ รับเงินก้อน โดยเป็นการลาออกจากระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือหากไม่รับเงินก้อนนี้ ก็ยังสามารถเก็บเงินไว้ในระบบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพก่อน เพื่อรอทำการโอนย้ายไปยังกองทุนสำรองใหม่ของบริษัทนายจ้าง หากคุณได้งานทำใหม่ แต่หากคุณลาออกจากกองทุนโดยที่ยังไม่เกษียณอายุ อาจจะทำให้คุณเสียผลประโยชน์จากเงินสมทบที่ เพราะจะได้รับไม่เต็มจำนวน รวมถึงเงินที่ได้รับจากกองทุนในส่วนของเงินสมทบ ซึ่งเป็นผลประโยชน์ของเงินสะสม ส่วนเงินสมทบจะต้องถูกหักภาษี ซึ่งจะต้องชั่งน้ำหนักดูว่า ควรเลือกเก็บเงินไว้ในกองทุนต่อไปจนกว่าจะได้งานใหม่แล้วค่อยย้ายกองทุน หรือเอาเงินออกจากกองทุน เพื่อนำมาใช้จ่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพทางการเงินของคุณ และโอกาสที่คาดว่า จะหางานใหม่ได้เมื่อไหร่