วันก่อนมีโอกาสได้ไปอ่านกระทู้ใน pantip.com เป็นกระทู้ที่มีคนให้ความสนใจกันเยอะเหมือนกัน เมื่อลองได้อ่านดูก็เห็นว่าดีมีประโยชน์มาก ให้แง่คิดในเรื่องของการลงทุนโดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่ได้มีทุนมากนัก ถือเป็นการนำประสบการณ์ที่แท้จริงของตนเองมาแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้รับทราบ เป็นประโยชน์มาก เลยจะนำมาเล่าเพื่อแบ่งปันกัน ใครอยากอ่านแบบละเอียดก็สามารถเข้าไปได้ที่ link นี้ http://pantip.com/topic/35123452
ผู้เขียนใช้ชื่อว่าหมีพูได้เข้ามาตั้งกระทู้ในชื่อหัวข้อว่า “เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง ใครว่า ปล่อยเช่าคอนโด เป็นเสือนอนกิน” เชื่อหัวเรื่องฟังดูน่าสนใจเหมือนกับจะเป็นการบอกว่าหากใครคิดว่าการปล่อยเช่าคอนโดแล้วรอรับเงินเป็นเรื่องง่าย ๆ ล่ะก็ คิดผิดซะแล้ว ประมาณนี้ หมีพูมีอาชีพทำงานประจำมีรายได้ทุกเดือน แต่ไม่ได้มีฐานะร่ำรวยหรือมีเงินทุนจากครอบครัว และก็เหมือนมนุษย์เงินเดือนทุกคนที่อยากสร้างความมั่งคงให้กับตัวเองในอนาคต เลยอยากลงทุนเพื่อสร้างรายได้ที่เป็น passive income ให้กับตัวเอง หมีพูถือว่าเป็นคนมีความรู้และมีประสบการณ์ในการลงทุนที่หลากหลาย ไม่ว่าจะลงทุนผ่านทางกองทุน เล่นหุ้น ผ่านมาหมด โดยที่หมีพูคิดว่าการลงทุนให้กองทุนหรือหุ้นไม่สามารถตอบโจทย์ของการสร้าง passive income ในอนาคตได้ เนื่องจากผลตอบแทนที่ได้ค่อนข้างต่ำไม่ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ ตั้งแต่เริ่มทำงานมีรายได้หมีพูก็เก็บหอมรอมริบทุกเดือน มีเวลาก็หารายได้พิเศษจากการเป็นครูสอนพิเศษ สะสมไปเรื่อยจนได้เงินจำนวนหนึ่ง
ต่อมาหมีพูได้มีโอกาสลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นคอนโด เป็นคอนโดระดับล่างที่มีต้นทุนไม่มาก ถือว่าราคาถูกแค่สองแสนกว่าบาทเท่านั้น เป็นห้องเปล่า ๆ หมีพูกับสามีก็เข้าไปทาสีช่วยกันซื้อของตกแต่งห้องจนสามารถปล่อยเช่าได้อย่างที่ใจหวัง พอปีต่อมาก็ซื้อเพิ่มอีก 1 ห้อง ทำทุกอย่างเหมือนเดิมแล้วก็ปล่อยเช่าได้ ปีต่อมาพอมีเงินเก็บเพิ่มบวกกับจังหวะที่ดี ก็ได้ห้องที่ 3 เพิ่มมา ทั้งหมีพูและสามีเห็นว่าการลงทุนคอนโดเพื่อปล่อยเช่ามีแนวโน้มที่ได้ ได้ผลตอบแทนที่ดีด้วย กว่า 10% เลยคิดการใหญ่อยากลงทุนให้มากขึ้น แต่ด้วยความที่ไม่มีเงินก้อน เลยเริ่มคิดที่จะกู้เงินธนาคาร โดยเอาบ้านทาวเฮ้าส์หลังที่อยู่ไปค้ำประกันเพื่อขอเงินกู้มาซื้อคอนโดเพิ่มอีก 2 ห้อง โดยเน้นซื้อห้องเปล่ามือสองราคาถูก แล้วค่อยมารีโนเวตทำใหม่ ซื้อของ ตกแต่งเพิ่มเอง ยอมเหนื่อยหน่อย แต่ถือว่าประหยัดงบไปได้เยอะ
หมีพูเลือกลงทุนในคอนโดเดียวไปเลย เพราะถือว่าจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมากเพราะอยู่ที่เดียวกัน การติดต่อกับช่างภายในคอนโดหรือนิติฯ ก็เป็นที่เดียวไม่ต้องเหนื่อยติดต่อหลายที่ ขั้นตอนการประกาศหาคนเช่า หมีพูบอกไว้ว่าหากเราใช้วิธีเหมือนคนอื่น ก็คงยาก เพราะคอนโดนั้นมีกว่า 20 ตึก ๆ ละเป็น 1,000 ห้อง ช่วงแรกหมีพูจะประกาศตามเว็บไซด์ที่คนนิยมกัน เช่น facebook, pantipmarket, prakard, kaidee ฯลฯ แต่เนื่องจากการลงทุนคอนโดปล่อยเช่าภายหลังบูมมาก คู่แข่งเยอะ หมีพูเลยต้องยอมจ่ายเงินเพื่อโฆษณาคอนโดใน facebook ซึ่งหมีพูบอกก็ถือว่าคุ้มเหมือนกัน เพราะมีคนติดต่อมาตลอดไม่ได้ขาด เทียบกับใช้บริการนายหน้าแล้วก็คงพอ ๆ กัน
หมีพูบอกไว้ว่าที่ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นเสือนอนกิน ดูสบาย ๆ เก็บค่าเช่าอย่างเดียว ที่จริงแล้วไม่เป็นอย่างนั้น จริงอยู่ผลตอบแทนถือว่าน่าพอใจมาก อยู่ที่ระดับ 9% ต่อปี แต่เป็นเงินที่ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อยกายเหนื่อยใจอยู่เหมือนกัน จะหาคนกลางช่วยจัดการเราจะได้เหนื่อยน้อยลงก็คงยาก เพราะมีดอกเบี้ยเงินกู้ค้ำคออยู่ หากผลตอบแทนน้อยลงก็อาจไม่คุ้มกับดอกเบี้ยก็จะต้องจ่ายธนาคาร ต้องผ่อนกันเป็น 10 ปี เชียว หากพ้นช่วงนั้นไปได้ ก็คิดว่าน่าจะดีขึ้น และสำหรับคนมีเงินเย็นมากกว่านี้ ไม่ต้องกู้ โอกาสจะสบายกว่าก็มีเช่นกัน คือ ใช้นายหน้าหรือคนกลางเป็นคนจัดการไปเลย
นอกจากนั้นหมีพูยังบอกว่าผู้เช่าจะดีหรือไม่ดี รายละเอียดหยุมหยิมเล็ก ๆ น้อย ๆ น่าเวียนศีรษะก็มีมาแทบจะบ่อย ๆ หรือตลอดเวลา เช่น ผู้เช่าโทรมาดึก ๆ แจ้งน้ำรั่ว ประปาแตก ลืมกุญแจเข้าห้องไม่ได้ เครื่องทำน้ำอุ่นเสีย แอร์เสีย แมลงสาบเยอะ ไฟโดนตัดเพราะลืมไปจ่ายค่าไฟ คีย์การ์ดหาย ชักโครกแตกยังมี โห ปัญหาสารพัด พอมีปัญหาก็ต้องขับรถเข้าไปแก้ไข หรือโทรให้ช่างเข้าไปจัดการให้ ค่าใช้จ่ายก็ต้องดูเป็นกรณี ๆ ไป บางอย่างเราก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบด้วยการให้หักกับค่าเช่าตอนสิ้นเดือน แต่บางอย่างเช่นลืมกุญแจ ต้องสะเดาะหรือเปลี่ยนกุญแจ แบบนี้ก็ต้องคิดกับผู้เช่า ผู้เช่าบางคนไม่อยู่ต่อจะออก แต่สภาพห้องที่ทิ้งให้เรานี่ดูแทบไม่ได้ เรียกว่าเละเทะกันเลยทีเดียว ก่อนจะปล่อยเช่าต่อก็ต้องเข้าไปจัดการให้ดูเหมือนใหม่อีก ในกระทู้หมีพูได้ถ่ายภาพห้องให้เราได้เห็นกันด้วย ก็น่าเห็นใจเหมือนกัน แต่สุดท้ายหมีพูก็บอกว่าอยากไปให้ถึงเป้าหมายก็ต้องเดินหน้าต่อ คิดว่าเป็นการเลือกทางที่ถูกต้องสำหรับอนาคต ไม่ใช่การปล่อยเช่าคอนโดไม่ดี ผลตอบแทนถือว่าดีมาก เพียงแต่กว่าจะเป็นเสือนอนกินหรือสบายคงต้องใช้เวลา
หมีพูถือว่าโชคดีที่ได้ลงทุนและได้ผลตอบแทนที่ดีอย่างที่ตัวเองคาดหวัง และมีความสุขที่ได้ทำในสิ่งที่ทำอยู่ สำหรับคนอื่นที่ได้อ่านประสบการณ์ตรงจากหมีพู ก่อนเลือกลงทุนในคอนโดเพื่อปล่อยเช่า โดยหวังว่าจะสบายเป็นเสือนอนกิน ก็อยากให้เอากรณีศึกษานี้เป็นตัวอย่างว่าไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ คนที่มาเช่าคอนโดเรา เขาก็มีความคาดหวังเช่นกัน เพราะเขาจ่ายค่าเช่าให้เรา เขาก็ถือว่าเขาต้องได้รับบริการหรือความสะดวกในฐานะผู้เช่า เราในฐานะผู้ให้เช่าได้รับเงินค่าเช่ามาแล้ว ก็มีหน้าที่ต้องบริการผู้เช่าด้วยการทำให้คอนโดของเราอยู่ในสภาพที่ดี ผู้เช่าไม่มีปัญหาในการเข้าอยู่ ใครที่อยากลงทุน ปล่อยเช่าคอนโด หากได้อ่านกระทู้นี้ก็จะเหมือนได้รับฟังประสบการณ์ตรงจากผู้ให้เช่า มีทั้งเทคนิคต่าง ๆ รวมถึงปัญหาจุกจิก วิธีแก้ไข ถือว่ามีประโยชน์มาก
อ่านเพิ่มเติม : 4 วิธีสำรวจ อสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า ก่อนตัดสินใจซื้อ